xs
xsm
sm
md
lg

วันแม่ปีนี้ศก.ไม่กระทบ !! ออเดอร์มาลัยวันแม่ “ดอกไม้สด” และ “มาลัยวุ้นกะทิ” ยอดขายไม่ตก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



12 สิงหาคม เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษษ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นวันแม่แห่งชาติของทุกปี ลูกๆ ก็จะแสดงความรักต่อแม่ ด้วยการซื้อพวงมาลัย ไปกราบแม่ ปัจจุบัน พวงมาลัยที่เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ ทำออกมาหลายรูปแบบ มีทั้งพวงมาลัยดอกไม้สด การทำขนมเป็นรูปมาลัย หรือ พวงมาลัยที่ทำจากผ้า และก็ยังมีอีกมากมาย ที่ทำออกมาในรูปแบบของพวงมาลัยที่นำมาจำหน่ายในวันแม่แห่งชาติ

ครั้งนี้ พามาดูพวงมาลัยวันแม่ 2 ชนิด 2 แบบ ที่แตกต่างกัน ว่า ทั้งสองตลาดเป็นอย่างไรกันบ้างกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ดีนักในปีนี้ 2568 2 แบรนด์ที่เราพูดถึงนี้ ถือว่าเป็นแถวหน้า ที่หลายคนรู้จักและเคยใช้บริการกันมาบ้างแล้ว แบรนด์แรก เป็นพวงมาลัยดอกไม้สด ของ “ร้านพวงมาลัยภาณุมาศ ตลาดสี่มุมเมืองรังสิต” และ พวงมาลัยขนมที่ทำจากวุ้น จากแบรนด์ดัง “น้ำใจวุ้นกะทิ” ทั้งสองร้านเคยทำรายได้และมีออเดอร์ ในช่วงวันแม่ เพียงแค่ 1-2 สัปดาห์ หลักแสน หลักล้านบาท กันเลยที่เดียว


พวงมาลัยดอกไม้สดวันแม่
“ร้านภาณุมาศ สี่มุมเมืองรังสิต”เป็นอย่างไร ในภาวะศก.แบบนี้

สำหรับร้านพวงมาลัยภาณุมาศ ของ “นางสาวนิชชฎา ทัศนัย” เป็นร้านพวงมาลัยที่เปิดขายอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมืองรังสิต เป็นพวงมาลัยที่มีทั้งพวงมาลัยไหว้พระพวงเล็กๆ และพวงมาลัยพวงใหญ่ที่สั่งทำหรือออกแบบขึ้นมาพิเศษ เน้นงานฝีมือที่ปราณีตวิจิตรบรรจง จากช่างฝีมือที่เรียนจบด้านนี้โดยเฉพาะจากวิทยาลัยในวังหลวงมาช่วยทำงานและออกแบบพวงมาลัย

นางสาวนิชชฎา เล่าว่า กิจการร้อยมาลัยขายของเธอนั่น เริ่มต้นมาจาก คุณแม่ทำมาก่อน โดยแม่เคยเป็นเกษตรกรปลูกดอกมะลิส่งขายที่ปากคลองตลาด และวันหนึ่ง แม่เห็นว่าพวงมาลัยที่ร้อยขายกันสวยดี และแม่ก็เลยเกิดความคิดว่า ถ้าจะขายแต่เฉพาะวัตถุดิบดอกมะลิ เมื่อไหร่เราจะรวย แม่ก็เลยมาร้อยพวงมาลัยขายบ้าง และมองหาพื้นที่ตลาดสี่มุมเมืองเพื่อเปิดร้าน นับถึงปัจจุบันแม่ขายมา 20 ปี ตนเอง เพิ่งจะมารับช่วงต่อ หลังจากเรียนจบ แต่ในระหว่างเรียนหนังสือ ได้มีโอกาสช่วยแม่ขาย และร้อยมาลัยมาตลอด แต่พอมารับช่วงต่อ เราจะเน้นไปที่การทำพวงมาลัยสั่งทำพิเศษ พวงมาลัยพวงใหญ่ที่ใช้ในโอกาสต่างๆ มากกว่าการขายพวงมาลัยพวงเล็กสำหรับไหว้พระ


ในช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมของทุกปี ถือว่าเป็นเทศกาลหลักในการสร้างรายได้ของทางร้าน เพราะจะมีออเดอร์เข้ามาในช่วงนี้เยอะมากกว่า เทศกาลอื่นๆ และในปี 2568 ทางร้านมีการออกแบบพวงมาลัยขึ้นมาพิเศษ เพื่อขายวันแม่ เช่นเดียวกับทุกปี แต่ปีนี้จะมีแบบให้เลือกมากขึ้น เช่น พวงมาลัยกลีบกล้วยไม้ขาว คาดตามาลัย และชายโทนฟ้า พวงมาลัยดอกบานไม่รู้โรยโทนสีฟ้า หรือ พวงมาลัยดอกพุด พวงมาลัยดอกรัก และพวงมาลัยดอกมะลิ ฯลฯ


สภาพเศรษฐกิจ ทำให้ราคามาลัยดอกไม้สด วันแม่ไม่แรงเหมือนทุกปี

สำหรับราคาขายพวงมาลัยวันแม่ ปกติร้านต่างๆ ก็จะตั้งราคาขายสูงกว่า ช่วงปกติเกือบเท่าตัว แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปีนี้ ทำให้การตั้งราคาขายแทบจะไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นจากช่วงปกติกันเลย มีปรับบ้างแต่ก็น้อยมาก อย่างที่ร้านของเราพวงมาลัยภาณุมาศ ถ้าเป็นช่วงเทศกาลวันแม่ ราคาขึ้นไปเกือบหรือมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากราคาปกติ เช่น พวงมาลัยราคาพวงละ 1,000 บาท ในช่วงวันแม่สามารถขายได้ในราคาพวงละ 1,500 บาท แต่ปีนี้ แทบจะไม่มีการปรับราคาขึ้นเลยจะมีบ้างเล็กน้อย เช่น พวงละ 1,000 บาท ขายประมาณพวงละ 1,100 หรือ 1,200 บาท เท่านั้น

ในขณะเดียวกันกับราคาวัตถุดิบของเรา อย่างดอกไม้ เช่น ดอกมะลิในช่วงวันแม่แบบนี้ ราคาขยับสูงขึ้นไปมาก เพราะความต้องการสูงแต่ด้วยปีนี้สภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย และมาเจอผลกระทบจากการส่งออกไปกัมพูชาไม่ได้ ทำให้ราคาดอกมะลิก็เลยไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นมาก เหมือนทุกปี เนื่องจากดอกมะลิไม่ขาดตลาดด้วย ราคาก็ไม่ได้ขึ้น

ในส่วนของออเดอร์การสั่งพวงมาลัยสดวันแม่ ปีนี้ ก็ต้องบอกว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปีนี้ ไม่ค่อยดีนัก การสั่งพวงมาลัย เพื่อนำไปใช้ในวันแม่ มีการสั่งล่าช้าออกไป จากเดิมรับออเดอร์ ตั้งแต่ต้นเดือนหรือกลางเดือน กรกฎาคม แต่ปีนี้จะมีการสั่งเข้ามาใกล้ๆ วันแม่เพียงแค่ 3-4 วันเท่านั้น ทำให้ออเดอร์ จะเข้ามช่วงนี้เยอะมาก ถือว่ายอดขายยังคงเป็นไปตามเป้า คือ ไม่ได้มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ลดลงไปเยอะ ยังคงเป็นยอดขายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งปกติในช่วงเทศกาลอยู่ในหลักแสนบาท ไม่ถึงหลักล้านบาท เหมือนในอดีตที่สามารถส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน อย่างกัมพูชาได้


ปิดด่านสู้รบชายแดนไทย กัมพูชา กระทบส่งออก

หลังจากเกิดสถานการณ์ปัญหาการสู้รบ บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ทำให้ ยอดขายของเราในส่วนนี้ ประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ที่เราส่งออกหายไปหมดเลย เพราะปกติเวลามีเทศกาล ต่าง ๆ หรือ การจัดงานมงคล งานแต่งงาน หรือ งานวันเกิด ก็จะมาสั่งพวงมาลัยจากร้านของเรา เนื่องจากเวลาจัดงานแต่งงาน ทางเพื่อนบ้านกัมพูชาเค้าก็ใช้ทีมงานออแกไนท์เวดดิ้ง จากประเทศไทย สินค้าต่างๆ ก็จะส่งจากประเทศไทย รวมถึงพวงมาลัยใช้ในงาน แต่พอปิดด่านทุกอย่างก็ส่งไปไม่ได้

ทั้งนี้ในส่วนทีมงานออแกไนท์ที่เข้าไปรับงานที่ประเทศกัมพูชา บางส่วนก็น่าจะยังมีรับงานอยู่บ้าง ซึ่งเมื่อต้องการพวงมาลัย หรือของต้องใช้ในงาน เวลาสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย ก็จะสั่งผ่านช่องทางประเทศลาวแทน ซึ่งประเทศลาวก็เป็นลูกค้าจากร้านของเราเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้ส่งตรง แต่ส่งผ่านไปยังประเทศลาวแทน ทั้งนี้ สินค้าจากประเทศไทยหลายๆตัวส่งผ่านไปทางประเทศลาว

กัมพูชาไม่ได้เกลียดไทย เปิดด่านเมื่อไหร่ก็จะยังซื้อสินค้าไทย

เมื่อถามว่า คนกัมพูชาเกลียดประเทศไทย ขนาดไม่ซื้อสินค้าไทยไหม ทาง “เจ้าของร้านพวงมาลัยภาณุมาศ” บอกว่า ไม่ขนาดนั้น ในส่วนของการค้าขาย ก็ยังมีการพูดคุยกัน ว่า รอให้ด่านเปิดก่อน จะกลับมาค้าขายกันเหมือนเดิม คนกัมพูชาไม่ได้แอนตี้สินค้าไทยทุกคน เพราะบางอย่างก็จำเป็นต้องใช้ก็ใช้ หาที่บ้านเค้าไม่ได้ ก็ต้องซื้อเรา เช่น พวงมาลัยที่เป็นงานชิ้นใหญ่ เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ช่างฝีมือ แน่นอนไม่มีขายที่ประเทศของเค้า หรือ ประเทศอื่นๆรอบบ้านเค้า ก็ต้องมาสั่งจากประเทศไทย เป็นต้น

ติดต่อ Facebook : พวงมาลัยภาณุมาศ ตลาดสี่มุมเมืองรังสิต


น้ำใจวุ้นกะทิ มาลัยวุ้นกะทิสวยไม่แพ้มาลัยสด
วันแม่ปีนี้ จัดใหญ่ จัดเต็มเช่นเดิม


น้ำใจวุ้นกะทิ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีสินค้าออกมาขายในช่วงเทศกาลวันแม่ และมีออเดอร์ ยอดขายแบบไม่ธรรมดา เพราะด้วยรูปลักษณ์ของสินค้า ที่ออกแบบมาให้ใครเห็นแล้วก็ต้องว้าว และในปีนี้ น้ำใจวุ้นกะทิ ก็จัดเต็มเช่นเดิม มีแบบให้เลือกมากกว่า 10 แบบ ตามความต้องการใช้งาน และราคา เริ่มต้น ตั้งแต่ 250บาท ไปจนถึง สูงสุด 690 บาท


เศรษฐกิจแย่ แต่ยอดขายไม่แย่นะ

“นายธนพัชร์ มนตราประสิทธิ์” เจ้าของน้ำใจวุ้นกะทิ เล่าถึงในช่วงเทศกาลวันแม่ในปีนี้ ว่า เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจค่อนข้างเงียบ กว่าปีที่แล้ว ในส่วนของน้ำใจวุ้นกะทิ ปีนี้ ก็เลยออกสินค้ามาให้ลูกค้าได้เลือก หลายๆ แบบมากขึ้น แต่ส่วนหนึ่งเป็นพัฒนาการของเราด้วยสำหรับรูปแบบใหม่ เพราะต้องบอกว่า ช่วงเทศกาลวันแม่ ถือว่าเป็นเทศกาลสำคัญ ที่ลูกๆ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ และมีการซื้อของไปมอบให้กับแม่ และเราก็ขอเป็นตัวเลือกให้กับลูกๆ ได้แสดงความรัก ความกตัญญูต่อบุพการี ในวันแม่ ด้วยมาลัยวุ้นกะทิ นอกจากไปมอบให้แม่แล้ว แม่ก็ยังนำไปกินร่วมกันกับลูกๆได้ เพราะไม่ได้หวานมาก ผู้สูงอายุก็สามารถกินได้

สำหรับออเดอร์ในปีนี้ ไม่ได้ลดลง แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ที่เพิ่มขึ้น ก็คือ ต้นทุนวัตถุดิบ และค่าขนส่ง ที่เพิ่มขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สินค้าขายในราคาเดิม ซึ่งการที่เรายังคงขายในราคานี้ได้ เพราะยอดขายที่เยอะขึ้น ทำให้เราสามารถแบกภาระตรงนี้ได้ ถามว่าในอนาคตปรับราคาไหม ก็ต้องบอกว่าคงจะไม่ปรับ เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ ไม่รู้ว่า ถ้าปรับราคาและจะมีคนมาซื้อไหม


ในส่วนของลูกค้า ในช่วงต้นเดือนก็เงียบ แต่ก็มาคึกคักเอาตอนใกล้ๆ วัน มีออเดอร์เข้ามาไม่ได้ลดลงจากปีที่ผ่านมา น่าจะเพิ่มขึ้นด้วย เพราะมีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาเพิ่ม ส่วนลูกค้าเดิมๆ ก็กลับมาซื้อ ซ้ำๆ เพราะเรามีแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำกับปีที่ผ่านมา เช่น ปีนี้ มีพวงมาลัยสีทองให้ลูกค้าได้เลือก เพราะทองคำราคาแพง ไม่สามารถซื้อทองคำได้ ก็มาซื้อพวงมาลัยสีทองของเราไปมอบให้แทน ส่วนช่องทางการขายของเรามีหน้าร้านอยู่ที่เซ็นทรัลเวสเกตต์ สาขาเดียว เพราะส่วนใหญ่จะทำตามออเดอร์ ขายออนไลน์เป็นหลัก ลูกค้าของเราอายุเฉลี่ยเริ่มต้น 20 ปี ไปจนถึง 60 ปี 70 ปี ก็มี

ติดต่อ Facebook : น้ำใจ วุ้นกะทิ


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น