“ทำใหม่ ๆ ลูกค้าก็จะสนใจในการเห็นควันออกมาจากเตาเรา นึ่งใหม่ ๆ แล้วก็คือเห็นหน้าเราว่าหน้านี้ ๆ บางทีเขาไม่ได้มาเองแต่ว่าคนที่บ้านมา เขาก็จะถามว่าพี่ใช่ร้านนี้มั้ยอะไรเงี้ย เขาจะโทรคุยกัน พี่ใช่ร้านนี้มั้ย แล้วเขาก็จะสั่งกันมา”
ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย ขอยืมท่อนฮุกของเพลงดังมาเทียบเคียงให้ฟังกันสักหน่อย ด้วยเห็นว่าน่าจะเข้ากันได้ดีกับเรื่องราวของตั้วเฮียเรา “พี่กอล์ฟ-วินัย วิชาชู”เจ้าของร้านราชาไข่ตุ๋นที่กำลังโด่งดังในโซเชียลฯ เพราะแอบเห็นลูกค้าหลาย ๆ คนที่มาซื้อต่างพากันพูดว่านี่ไง ๆ ร้านไข่ตุ๋นเจ้าดัง และรวมถึงการได้มาพบกับเขาคนนี้ด้วยเราก็เห็นเขาจากโซเชียลฯ มา คนหน้าดุ! ดูทรงโจรแต่ใครจะไปคิดว่าเขาคนนี้เป็นคนที่ถือศีลกินมังฯ ในทุก ๆ วันพระ เข้าพรรษา และยังกินเจด้วยนะในช่วงของเทศกาลถือศีลกินผัก นานมากว่า6 ปีติดต่อกันแล้ว ถึงแม้ว่าชีวิตที่ผ่านมาการค้าขายจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่บ้างแต่ในที่สุดแล้วก็สามารถ พลิกชีวิตขึ้นมาได้ใหม่! ด้วย “ไข่ตุ๋น”หนึ่งในเมนูมังสวิรัติที่พี่กอล์ฟคุ้นเคยโดยมีศรีภรรยาที่เป็นผู้ช่วยคิดในการต่อยอดพัฒนา “สูตร” สำรวจตลาดแล้วว่ายังไม่มีใครทำ จากคนที่เคยมีหนี้กู้รายวันจนถึงขั้นที่ว่าต้องหนี! เพื่อไปตั้งหลักก่อน เปลี่ยนใหม่ เริ่มต้นใหม่ได้ พร้อมการแจ้งเกิดร้าน “ราชาไข่ตุ๋น”
จากชีวิตที่เคยลุ่ม ๆ ดอน ๆ ติดหนี้รายวันจนต้องหนี!
พี่กอล์ฟ เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนนี้สินค้าที่ตนเองกับภรรยาเคยขายกันอยู่ ก็คือแหนม5 บาท รู้จักแต่ตัวนั้น ก็เลยว่าไปร่วมธุรกิจลงทุนโดยไปรับแหนมจากโรงงานที่โคราชเอามาทอดขาย“พอวัตถุดิบมันราคาสูงขึ้นและก็เราอยู่ไม่ได้ ในการที่เรารับมาบางทีต้นทุนอีกอย่างหนึ่งและก็เรามาเพิ่มผัก เพิ่มพริกเพิ่มน้ำมัน อะไรพวกนี้มันมีการขาดทุนเกิดขึ้น แล้วตอนนั้นเราไม่มีโอกาสใช้รถ ใหม่ เราใช้รถเก่า ก็โอกาสรถเสียมันก็จะมีเยอะ และก็มีค่าใช้จ่ายอะไรหลาย ๆ อย่างในการที่ ต้องไปกู้หนี้รายวัน เคยไปกู้หนี้รายวันแล้วก็คือเราก็ต้อง ถึงขนาดต้องหนี! เราก็เลยปรับปรุงตัวใหม่อะไรกลับมารอบนี้”
กินมังสวิรัติ พาเปลี่ยนชีวิต
กลับมาคราวนี้ก็มาเหมือนเดิม ก็เริ่มมาจากแหนม5 บาทค่อย ๆ ทำมา แล้วพอคนเริ่มทานกันน้อยลง แฟนก็เลยเปลี่ยนไปทำกล้วยปิ้งขายด้วย“พอขายกล้วยปิ้งได้สักระยะแฟนผมก็เลยชวนมา การกินมังฯ เนี่ยแหละที่เป็นจุดริเริ่มการที่ทำไข่ตุ๋น ผม ผมหน้าตาก็ดุ ผมก็หน้าตาดุอย่างงี้ผมก็ บางคนเขาไม่คิดว่าผมกินมังฯ อย่างช่วงเข้าพรรษาผมหยุด ผมหยุดทานเหล้าเลย เข้าพรรษาผมหยุด สักประมาณ6 ปีมาแล้วครับ เพราะว่าแต่ก่อนผมเคยทำงานกับมูลนิธิฯ เนื้อสัตว์อะไรผมจะไม่กิน เพราะจะได้กลิ่นคาวในการที่เราไปช่วยเหลือประชาชนเราก็เลยหยุด 9 วันในการกินเจ เราก็หยุดกินเจ ผมปวารณาตัวเลยว่า9 วันผมต้องหยุด กินเจให้ได้”ที่มองเป็นธุรกิจได้เพราะ เราไปเดินทุกตลาดไม่มีใครทำ ไปเดินมาทั่วสาระทิศ เพราะวันหยุดคือจะเป็นคนที่แบบว่าชอบเที่ยว ไปดูตรงโน้นดูตรงนี้ ดูตลาดโน้นตลาดนี้ว่าตลาดนี้อะไรขายดี ตลาดโน้นอะไรขายดี จากนั้นก็นำมาพลิกแพลง“พอดูตลาดเสร็จเราก็ กลับมากินมังฯ ก็เลยปรึกษากัน ในตลาดไม่มีนะแฟนผมก็บอกว่าในตลาดไม่มีนะ น่าสน ลองทำจากที่ตลาดบางปะหัน ที่บ้านก่อน ที่เป็นตลาดนัดของพี่ชัชที่บางปะหัน เราก็เริ่มทำจากตรงนั้นมาลูกค้าก็รับ รับมาตลอด ตอนแรกผมก็ทำเป็นแค่เสริมกับกล้วยปิ้งเป็นล็อคเล็ก ๆ”
คลิกสู่ไอเดีย “ราชาไข่ตุ๋น” เนื้อพุดดิ้งเด้งดึ๋งไม่เหมือนใคร
ก่อนหน้านี้ก็มี “หน้า” หมู ผัก และก็เป็นหน้าธรรมดา เป็นหน้าหัวหอม หรืออย่างหน้านี้ “ไข่กุ้ง/หรือวุ้นเม็ดสีส้มเล็ก ๆ” คนกินมังฯ ก็สามารถทานได้เลย สูตรก็คือ ตอนแรก ๆ ก็ทำแบบทั่วไป“แต่ในการผสมที่ว่าให้มันเป็นเนื้อ ในการที่เป็นเนื้อเยลลี่เป็นเนื้อแบบว่า ให้มันเด้ง! (เขย่าถ้วยให้ดูว่าเนื้อไข่ตุ๋นมันจะเด้งดึ๋ง ๆ แบบนี้) เนี่ยยากครับในการคุมไฟ ในการคุมหลาย ๆ อย่าง มันก็ลำบากอยู่”ในการปรับสูตรก็คือ ตอนแรกก็ตีแค่ แบบทั่ว ๆ ไป แบบชาวบ้านเลยก็คือ ผสมน้ำนิดหนึ่ง ใส่นี่นิดหนึ่ง แต่เราจะทำอย่างไรเวลามันจำนวนเยอะ ๆ ก็ต้องมาค่อย ๆ คิดว่า “ไข่” เริ่มจาก10 ฟองแล้วเริ่มยังไง ๆ เพราะทำเยอะมันจะยากขึ้นไปอีก และก็ในการที่จะคุมไฟ คุมน้ำในหม้อนึ่งไม่ให้พึ่งขึ้นมา เพื่อให้มันไม่มาโดนหน้าไข่ ถ้าเกิดมันขึ้นมาโดนไข่ก็จะเป็นหน้าปุ ๆ(หน้าแยะไม่สวย) เหมือนหน้าสังขยาที่จะแยะ ดูไม่สวย หน้าไม่เนียน แต่อันนี้ก็คือว่ามันจะเป็นเนื้อแบบ “พุดดิ้ง” เลย คือให้นิ่มและก็ได้ทุกเพศทุกวัยในการรับประทาน
“ผมการันตีได้เลยนะครับว่า ในท้องตลาดบางคน ไปเดินตลาดไหนบางคนก็ไม่เห็นในตอนนี้พอผมได้ออกบางรายการไป เห็นไหมครับตลาดจะมีไข่ตุ๋นออกมา บางคนลูกค้าเขาไปทานแล้วหลาย ๆ ที่ ยังมาติให้กับผมฟังเลยว่า เนื้อไม่เหมือนพี่นะ เหลวนะ บางทีแข็งไป อะไรอย่างเงี้ย แต่ของพี่คงที่เหมือนเดิม เราถึงได้กล้าพูดว่าเราที่กล้าคิดกล้าทำเพราะเรา อย่างน้อยให้ลูกค้าเป็นคนการันตีกับเราเอง เราไม่เคยว่าการันตีว่าตัวเราว่า เราต้องสุดยอดอะไรอย่างงี้ คือเป็นลูกค้ามาเป็นคนตัดสินให้เราครับ”
จัดเต็มทุกหน้าราคาเดียว ถ้วยละ 20 บาทพอ!
พี่กอล์ฟชี้ชวนให้ดู “หน้า” ไข่ตุ๋นของที่ร้านทำว่าต้อง หน้าเนียน ๆ แบบนี้ แล้วเวลากลอกถ้วยไปมาตัวของไข่ตุ๋นจะล่อนหลุดออกจากการจับกับตัวถ้วยที่ใส่ได้ง่าย จะหลุดออกจากขอบจะไม่ติดถ้วยนั่นเอง นี่คือเป็นเอกลักษณ์เด่นจาก “สูตร” ของร้านที่สามารถทำได้“ของคนอื่นผมไม่รู้ แต่ผมไม่ได้หวงอะไรในการขาย คือตอนนี้เราคิดว่าเราเป็นไอเดียสมอง ทุกอย่างหนีไม่พ้นหรอกมันต้องมีการก๊อปปี้กันหมด มีการก๊อปคือเราก็ ต้องปล่อยวาง จะไปมัวนั่งคิดมาก วุ่นวาย ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้ไปขายตลาดนั้น มันเป็นการเครียดไปเฉย ๆ แต่บางทีอันที่เราตามไปเคลมอันนั้นคือ ที่เราตามไปเพราะอะไร เขาคุยอยู่กับเรา เขาไปก๊อปเรา เราถึงได้ไป คุณอยากทำเหมือนเราแต่คุณต้องทำคุณภาพให้เหมือนเรา คุณทำยังไงก็ได้ให้คุณภาพเหมือนเรา แต่ไอ้เรื่องหน้าเนี่ยทุกคนเป็นสิทธิ์ของทุกคนอยู่แล้วว่า ทำหน้าได้หมดทุกคน” ปัจจุบันในส่วนของ “หน้า” ไข่ตุ๋นที่ร้านจะมีอยู่คือ หน้ากุ้ง ปูอัด และก็จะเรียกเป็น “ไข่ปลา”(วุ้นเม็ดเล็กสีส้ม) หน้าผัก หน้าหมูสับเห็ดหอม ซึ่งจากตอนแรก ๆ ที่เริ่มขายจะมีกว่า10 หน้า มีไก่ กุ้ง ปลาหมึก และก็แบบเดียวกับหน้าที่มีอยู่ตอนนี้ มีอีกหลาย ๆ อย่าง ก็จะดูเลยว่าลูกค้ารับตัวไหนไม่รับตัวไหนบ้าง ตอนแรกจัดเต็มเลยหน้าแบบโบราณเลยก็มี หอมแดง หอมแดงซอยแล้วก็ใส่ลงไป และก็มีแบบกระเทียมเจียว ใส่เป็นกระเทียมเจียวลงไปแต่ว่า ลูกค้าไม่ตอบรับ หัวหอมคนไม่ตอบรับ เพราะมันโบราณไปซึ่งจะต้องเป็นคนสูงอายุจริง ๆ คนถึงจะชอบแบบประเภทนั้น แล้วก็บางทีใส่หัวหอมไปมันทำให้ไข่ เนื้อกระด้างไปด้วย เพราะว่าบางทีในหัวหอมมีสารอะไรก็ไม่รู้ที่มันทำให้ไข่ไม่สวย ตอนนี้ก็เลยเอาเฉพาะที่ขายได้ ลูกค้าให้การตอบรับดีก่อน
ส่วนราคาขายพี่กอล์ฟบอกด้วย คือร้านไม่อยากจะให้ลูกค้าคิดมาก ไม่อยากจะต้องมาทอนเศษตังค์เงินทอน เอาไปเลยราคาเดียว “20 บาท” ทุกหน้า แค่ให้คนขายอยู่ได้ลูกค้าทานแล้วอร่อย ประทับใจ จะได้แวะเวียนมาหาเพื่อซื้อซ้ำบ่อย ๆ ก็พอ“แค่นั้นเราก็ถือว่าโอเคแล้ว คือกำไรเรามีอยู่เราไม่ได้มีเยอะแต่เราก็มี พอเลี้ยงลูกเราได้พอเลี้ยงครอบครัวเราได้ คือเราใช้จำนวนเยอะพอเราใช้จำนวนเยอะยอดกำไรเราก็จะเยอะขึ้นเอง ในการที่เราจะต้องบางทีเขาถามว่า ทำไมไม่ขึ้นหน้า แต่ผมบอกลูกค้าเลยว่าอย่างสมมุติลูกค้าเอา 2 หน้า ผมขอคิด 25 บาท เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเอากุ้งกับปูอัด ใน1 ถ้วย เป็น 2 หน้าเราก็ทำให้ด้วย คิดเพิ่มอีก 5 บาทเป็นถ้วยละ 25 บาท”
ยึดทำเล “ตลาดนัด” เป็นหลัก ขาย 6 วัน/สัปดาห์
เราถามพี่กอล์ฟว่าเฉลี่ยตอนนี้ขายได้ กี่ถ้วยแล้วต่อการออกตลาดนัด1 นัดที่ไป ซึ่งเจ้าตัวบอกจะใช้วิธีการนับจากแถว(ซองใส่ถ้วย) ว่าใช้หมดไปกี่แถว ๆ แล้ว โดยใน1 แถวจะมีอยู่ทั้งหมด 50 ถ้วย พอนับ ๆ ดูแล้วเฉลี่ยวันหนึ่ง ๆ จะใช้อยู่ประมาณ 10 แถวได้ ทุกนัดที่เป็นตลาดนัดใหญ่(อย่างคลองถม ตลาดไทที่มาวันนี้) บวกลบก็จะมีน้อยมากที่น้อย ๆ ก็จะเป็นน้อยวันในตอนนี้เพราะตนเองก็จะวิ่งทำให้ลูกค้าทำแบบให้ได้ทานกันใหม่ ๆ ลูกค้าก็จะสนใจในการที่ว่า ทำใหม่และก็เห็นควันออกมาจากเตา นึ่งใหม่ ๆ หน้าร้านที่เปิดขายอยู่เลย
ไข่ไก่ที่ใช้ ก็คือแล้วแต่ว่าคนที่ทำ(แผงไข่) เขาจะเอามาให้ยังไงในแต่ละวันที่สั่งกันประจำไป มีเพื่อนที่วิ่งส่งไข่อยู่แล้วเป็นคนมาส่งไข่ให้ เพื่อราคาที่ได้ก็จะย่อมเยากว่าการซื้อจากร้านอื่นทั่วไป พี่กอล์ฟบอกว่า ไข่ที่ใช้อยู่ต่อวันต่อนัดที่มาออกขายของ ก็จะเฉลี่ยอยู่ที่ 20 แผง อย่างตอนนี้ที่เห็นคือเปิดร้านได้ 2 ชั่วโมงกว่า ก็เริ่มใช้ไข่ไปได้สักครึ่งหนึ่ง(10 แผง) แล้ว
“ตอนนี้เหลืออยู่ตัวเดียวเลย คือทำไข่ตุ๋นตัวเดียว ตอนนี้ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลยอย่างวันนี้ เราก็แยกร้านกันกับแฟน แฟนผมเขาจะอยู่ที่บิ๊กซี(ตลาดนัด) ที่อยุธยา ก็จะอยู่ที่นั่นวันพฤหัสฯ เราจะแยกร้าน ในส่วนวันจันทร์เราก็อยู่ท่าเรือ อ.ท่าเรือ นะครับ อันนั้นก็ร้านเดียวเราจะเปิดร้านใหญ่หน่อย จะใช้2 เตาเพราะที่นั่นคนเยอะ เราจะดูจำนวนของว่าคนเดินตลาดในการที่เราเตรียมของด้วยว่า ตลาดคนเยอะคนน้อย เราต้องเตรียมจำนวนเท่าไหร่ปริมาณ พยายามคิดทุกวันว่าของ อย่างอันนี้เหลือ อันนี้ผมจะไม่เหลือให้ลูกค้ากินพรุ่งนี้ ผมก็จะทำกับข้าวให้ลูกกิน เพื่อให้ได้สดใหม่ทุกวัน”
จะเปิดขายทั้งหมด 6 วัน/สัปดาห์ วันเสาร์-อาทิตย์จะมีเช้าและก็มีเย็น เช้าวันเสาร์ก็อยู่ที่บางปะหัน แล้วเย็นอยู่ตลาดแกรนด์ วันอาทิตย์เช้าอยู่ที่ อ.บ้านแพรก แล้วก็เย็นกลับมาที่ตลาดแกรนด์ วันจันทร์อยู่ท่าเรือ วันอังคารอยู่บิ๊กซีอยุธยา วันพุธอยู่บางปะหัน และก็วันพฤหัสฯ อยู่ที่คลองถม ตลาดไท นี่คือเป็นทำเลหลักของร้านที่จะเปิดขายอยู่ประจำ
ปัน “สูตร” ให้ได้ ขายแค่ 2 วันก็คืนทุนหมดแล้ว!
เดินทางมาถึงตอนนี้ พี่กอล์ฟบอกว่าเกือบ ๆ6 เดือนแล้วสำหรับร้าน “ราชาไข่ตุ๋น” อีกทั้งยังมีร้านสาขาหรือที่เรียกกันว่า “แฟรนไชส์” โดยเจ้าของชื่อแบรนด์ให้เหตุผล ส่วนใหญ่แฟรนไชส์ของร้าน “ราชาไข่ตุ๋น” ที่ปล่อยออกไปก็คือ เหมือนกับเป็นคนที่เคยค้าขายมาพร้อมกันกับตนเอง แล้วเขาไม่สำเร็จ พอเขาเห็นเราทำเหมือนเขาได้แรงฮึด! ขึ้นใหม่“เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะโทรมา ก็เลยบอกว่าก็ลองมาคุยกับเรา แล้วลองมาดู แล้วลองว่าทำได้มั้ย บอกว่าลองฮึดอีกสู้หนึ่ง ถ้าเกิดทำได้ก็อยู่ได้ เราไม่ต้องคิดมากตอนนี้คือเราแค่ประคองครอบครัวเราอยู่ได้ ให้เรารอดให้เราแบบว่า อย่างสมมุติคนมีหนี้มีสินก็ค่อย ๆ ผ่อนเขาไปเราก็ค่อย ๆ คุยกับเขาว่า ผมก็เคยล้มมาหลาย ๆ อย่างเราก็ให้กำลังใจเขาไปในการฮึดสู้ต่อไป” ไม่ใช่ว่าตนเองอยากจะปล่อยแฟรนไชส์เพราะว่ามันถูกหรือว่าอะไร แต่บางทีคนเราโทรมาในคอมเม้นต์ในหลาย ๆ ช่องทางที่ติดต่อมา สนใจ สนใจ บางคนโทรมาเช้า-เย็น บางคนสนใจแล้วก็แบบให้ทางร้านให้ราคาแบบพี่ขอได้ไหม อย่างนี้ก็มี บางทีบางคนอยู่ไกลแล้วจะทำยังไงคือทางร้านเองก็อยากจะให้มาเจอหน้ากันก่อน จะได้คุยกันสะดวกในหลาย ๆ อย่างในการทำ
ก็จะเป็นห่วงกับแฟรนไชส์แบบนี้ว่า คุณต้องไปศึกษานะว่าพื้นที่คุณราคา อะไรถูกอะไรแพง ต้องมีข้อมูลเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อน
“ถามว่าที่ปล่อยแฟรนไชส์ไป ผมจะถามอยู่ตลอดว่าอยู่ได้มั้ย ทำได้มั้ย อะไรได้มั้ย ทุกคน” ในส่วนของการลงทุน “ร้านราชาไข่ตุ๋น” พี่กอล์ฟบอก2 วันก็สามารถได้ทุนคืนหมดแล้ว! เต็มที่เลยถ้าตลาดสวย ๆ ขายแค่2 วันก็ได้ทุนคืนทั้งหมดแล้ว เพราะว่ามันไม่ได้ลงทุนอะไรมาก อุปกรณ์การทำหลาย ๆ อย่างเกือบทุกบ้านก็จะมีอยู่ในครัวกันอยู่แล้วช่วยประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ ส่วน “หน้า” ต่าง ๆ พวกนี้คนขายก็สามารถที่จะไปซื้อเองตรงไหนก็ได้ โดยจะให้มีการเทียบราคาดูว่าร้านไหนที่ต่อไปจะต้องซื้อประจำ เขาสามารถลดราคาให้เราได้ไหม ก็คือจะให้คนที่อยากขายเขาได้ไปศึกษาเรียนรู้ตรงนั้นมา ด้วยตนเองก่อน
“ในตอนนี้ก็มีสมุทรปราการอีกหนึ่งที่ และก็ของสิงห์บุรี สุพรรณฯ นี่ก็เป็นคนอื่นที่เขาดูเรา ดูเราแล้วเขาบอกว่าคนเนี้ยแหละที่เขาโทรมาหาผมเขาบอก ต้องเป็นคนนี้แหละที่พลิกเขาได้!”
กินมังสวิรัติ พาเปลี่ยนชีวิต! คลิกสู่ไอเดีย “ราชาไข่ตุ๋น” ธุรกิจใหม่ที่พลิกชีวิตให้กับพี่กอล์ฟและครอบครัวได้ในวันนี้ ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ จากร้านราชาไข่ตุ๋นใครสนใจอยากจะมีอาชีพก็ลองโทรไปปรึกษาพี่กอล์ฟกับอาซ้อปูเจ้าของสูตรกันได้ สามารถติดต่อไปที่โทร.081-207-7774 หรือติดตามทางโซเชียลเสิร์ช : ราชาไข่ตุ๋น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *