“เราจริงใจมีอะไรเราพูดกับลูกค้าเลยว่าเป็นแบบนี้ ๆ สเป็กของที่เราใช้ก็เป็นแบบนี้เราซื่อสัตย์รับปากแล้วเราต้องทำ เรารู้สึกว่าลูกค้าได้ทานของดีตัวเรายังกล้ากินเลยลูกค้าก็ทานได้สบายใจ แล้วเรายังสนุกกับตัวหมูหม้อเทพอยากพัฒนาเขาให้ขึ้นไปกว่านี้”
อดีตพนักงานไอทีทำงานกับบริษัทฝรั่ง แต่มาเจอจุดพลิกผันที่นำมาสู่การตัดสินใจเลือกทางเดินของชีวิตใหม่ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว “อภิชาติ สถิตเกษมสานต์”(คุณหมุ่ย) เจ้าของร้าน “หมูหม้อเทพ” หมูทอดน้ำมันมะพร้าว เพื่อสุขภาพ และอีกซิกเนเจอร์ของร้านที่ลูกค้าทรงจำตลอดระยะเวลาการเปิดดำเนินธุรกิจมากว่า 8 ปีคือว่ามี ข้าวเหนียวอัญชัน(ข้าวเหนียวม่วง) ด้วยที่ขายคู่กันตั้งแต่เริ่ม คุณหมุ่ยเล่าว่า ความที่ตนเองชอบกินของทอดเพราะสมัยที่ทำงานไอทีก็มักจะซื้อ “หมูทอด” เจ้าอร่อยเป็นเสบียงตุนไว้ เพื่อสำหรับเวลาทำงานไปด้วยในตอนกลางคืน หิวก็กินได้เลยง่าย ๆ แต่ว่าพอนานวันเข้ากระทั่งมีอยู่ปีหนึ่งผลตรวจสุขภาพประจำปีที่ออกมาคือ ค่าคอเลสเตอรอลขึ้นสูงมาก จนหมอถามเกิดอะไรขึ้น? คุณไปทำอะไรมา และพอบอกว่ากินข้าวเหนียวหมูทอดทุกวันเลย ซึ่งคุณหมอก็เลยบอกว่าคุณต้องเลิกกินแล้วนะเพราะผลตรวจปีนี้มันไม่ดีเลย จากนั้นก็เริ่มมาหาสาเหตุว่าจริง ๆ ทำไมมันถึงไม่ดี ก็มาพบว่าสิ่งที่มันทำให้ค่าคอเลสเตอรอลขึ้นก็คือ น้ำมันในการทอด แล้วก็เลยมาศึกษาต่ออีกว่าถ้าอย่างนั้น มีวิธีอื่นอีกไหมที่ทำให้มันอร่อย ปรากฏว่าก็ไม่มี ก็เลยมาศึกษาอีกแล้วถ้าเกิดต้องใช้น้ำมันมีน้ำมันอะไรดีต่อสุขภาพ ก็เลยไปอ่านResearch ซึ่งเมื่อก่อนมันมีแต่ของเมืองนอกเขาก็บอกว่า “น้ำมันมะพร้าว” ช่วยเรื่องลดคอเลสเตอรอล ไขมัน มะเร็ง “เราก็เลยมาศึกษาเรื่องนี้ครับ แล้วก็เลยถ้าอย่างนั้นเราลองมาทำเป็นธุรกิจดีไหม ก็เป็นจุดเริ่มต้นครับ”
ทำของดีแจ้งเกิด “ธุรกิจ” ได้จากลูกค้าบอกต่อ
สาขาแรกอยู่ที่ลาดกระบัง “เปิดขายอยู่ในปั๊ม ปตท. ตรงร่มเกล้าครับ ตอนแรกไม่ดีขายเอง ลูกค้าไม่รู้จัก พอผ่านไปสักพักเรามาขายเต็มตัวจริง ๆ แล้ว มันก็ยังไม่ดี พอยังไม่ดีมันก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเงินแล้ว เพราะว่าเงินเก็บที่เรามาทำ หมดเลย! แล้วเราก็เลยไปลองทำเป็นพนักงานฟรีแลนซ์ (หลังลาออกมาจากบริษัทเดิม) ก็แบบมาลองทำ ๆ จนเรามีออร์เดออยู่ชุดหนึ่ง คือตอนนั้นผมเริ่มทำเฟซบุ๊กพอลูกค้ามาเจอในเฟซบุ๊กแล้วเขาสั่งไปเลี้ยง แบบเหมือนไปแจกให้เด็กคล้าย ๆ สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าครับ เสร็จแล้วก็มีเพื่อนของพี่ ๆ คนนั้นเขาไปร่วมบริจาคด้วย เขาก็ได้ชิม พอเขาได้ชิมบอกเฮ้ยอร่อย ๆ เสร็จแล้วจากตรงนั้นกลายเป็นว่า คนสั่งไปงานนั้นไปงานนี้ครับ งานแต่ง งานศพ งานอะไรอย่างเงี้ยก็กลายเป็นว่า พอได้ชิมได้ส่ง ได้ชิมได้ส่ง ฐานลูกค้าเราก็ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ จนแบบบางทีลูกค้ามาจากสุขุมวิท มาซื้อเราที่ลาดกระบัง มาจากบางปู มาจากชลบุรี ขับรถมาลาดกระบังเพื่อมาซื้อหมูทอด”
“หมูหม้อเทพ” หมูทอดน้ำมันมะพร้าวและจุดเด่นแบรนด์ที่ลูกค้าคุ้นเคย
สิ่งที่ทำให้ลูกค้าจดจำ “หมูหม้อเทพ” ก็คือว่าหนึ่งมีสีของ ข้าวเหนียวอัญชัน สองคือ หมูนุ่ม จนทางร้านเองมีการตั้งสโลแกนให้ว่า “นุ่มไม่สะเทือนเหงือก อร่อยไม่สะเทือนสุขภาพ” เพราะมีความตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นหมูทอดเพื่อสุขภาพ“แล้วเราก็เอา “หม้อ” มาทอดเพื่อให้เป็นกิมมิค เพราะเห็นแล้วว่าเขามีกระทะมีอะไรทอดหมดแล้วเราก็เลยว่า อะไรที่มันทอดได้ มันมีหม้ออีกไงที่มันยังไม่เห็นมีคนใช้ เราก็เลยเอามาทอด คือตอนแรก ๆ ก็ขายตลาดนัดด้วยครับหม้อมันเคลื่อนย้ายสะดวก มันเล็ก แล้วเราก็เลยมาตั้งว่าเออหมูทอด หมูเทพ หมูหม้อเทพเออ! เราก็เลยเลือก “หมูหม้อเทพ” ชื่อนี้มาใช้เลยครับ” แล้วก็มีเรื่องของน้ำมันทอดซึ่งทางร้านเองมีการทดสอบว่า น้ำมันนี้ใช้ทอดหมูได้กี่กิโล เคยเอาชุดตรวจมาตรวจเลยว่าถ้าทอดถึงเท่านี้โล คุณภาพของน้ำมันจะเป็นอย่างไร พอได้จุดที่ทำให้ช่วยควบคุมเรื่องคุณภาพของน้ำมันทอดได้ ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว(ใช้ทอดถึงกี่กิโลแล้ว) ก็จะเคลียร์น้ำมันออกไปเลย ถึงแม้ว่าน้ำมันยังไม่ได้เสียสภาพเลยแต่ก็ยอมเปลี่ยนก่อน เพราะว่าน้ำมันในส่วนนี้ยังสามารถขายเพื่อไปทำต่อเป็นในเรื่องของน้ำมันไบโอดีเซลได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้จะคำนึงเรื่องสุขภาพของลูกค้าเป็นสำคัญ“หมูทอดเราก็คือนุ่มไม่สะเทือนเหงือกใช่มั้ยครับ รสชาติหมูจะนุ่มฉ่ำคือเก็บข้ามวันข้ามคืน รสชาติหมูก็ยังนุ่มและไม่เปลี่ยน เพราะว่าวัตถุดิบที่เรานำมาใช้เราไม่ใช้แบบผงสำเร็จรูป เวลาที่ใช้ผงสำเร็จบางตัวจะทำให้รสชาติเพี้ยน แต่ถ้ามาซื้อหมูทอดร้านเราเนี่ยคุณสามารถเก็บและวางไว้เลย แล้วมันรสชาติไม่เพี้ยนเยอะ” สามารถส่งให้กับบริษัททัวร์ซึ่งเป็นอีกกลุ่มลูกค้าหลักของร้าน เป็นหมูทอดเพื่อสุขภาพ ไม่เค็มจัด ไม่หวานจัด แต่กลมกล่อมกินแล้วรู้สึกว่าสบายใจ“หมูที่เราเลือกใช้คือเน้นเป็น สันนอก สันใน แต่เราคุยกับโรงงานเลยว่าเราเลือก ไขมันแทรกประมาณแค่10% แล้วก็หมูเป็นสเป็กนี้ครับทำให้เราคัดตั้งแต่เริ่มต้น แล้วพอเวลานำมาใช้เราเริ่มควบคุมคุณภาพ เวลา อุณหภูมิ น้ำมัน แล้วหมูของเราก็คือไม่ใส่แป้ง ไม่วัตถุกินเสียครับ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้หมูเราเสียช้าทั้ง ๆ ที่เป็นการทอดสดคือเรื่อง น้ำมันมะพร้าว เพราะข้อดีของน้ำมันมะพร้าวอีกอย่างหนึ่งคือรักษาสภาพอาหาร เพราะว่าตัวน้ำมันมะพร้าวมันสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ที่เวลาเขาบอกน้ำมันมะพร้าวให้กินสดช่วยลดโน่นนี่นั่นอะไรเงี้ยครับ ก็ตัวนี้เป็นจุดหนึ่ง”
จากตอนแรก “หมู” ที่เลือกใช้ให้มีมันแทรกได้ไม่เกิน10% ความที่สาขาแรกอยู่ใกล้ ๆ กับโรงเรียนก็มีคุณแม่มาบอกว่า เนี่ยเด็กต้องการกินมันด้วยเพราะว่าช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตต่าง ๆ ซึ่งตอนแรกจะทำยังไงดีก็คิด งั้นก็เอา “สามชั้น”ไปเลยมีมันเลือกกลุ่มลูกค้าไปเลย แต่กลับกลายเป็นว่าลูกค้าชอบตอบรับดี“ในส่วนของสามชั้น ผมมีน้ำจิ้มให้ น้ำจิ้มก็คือไม่วัตถุกันเสีย ไม่ผงชูรสเหมือนกัน แต่รสชาติลูกค้าชอบมาก คือเราปรุงวัตถุดิบหลาย ๆ แบบมันจะออก มีเผ็ด มีเปรี้ยว มีเค็ม มีทุกรสเลยครับแล้วพอ มันแมทซ์กับรสชาติของหมูแล้วมันแปลกไปอีกรสหนึ่งเลยลูกค้าชอบ”ในเมื่อหมูมีประโยชน์แล้ว “ข้าว” เราก็อยากเพิ่มประโยชน์ให้มันอีก ก็เลยนำ “อัญชัน” มาใช้ เพื่อให้เพิ่มแร่ธาตุวิตามินต่าง ๆ เข้าไปด้วย รวมถึงยังมีกิมมิคที่เติมเข้าไปอีกคือ“สาหร่าย” เป็นข้าวเหนียวอัญชันห่อสาหร่ายซึ่งก็ทำให้ลูกค้ามีการตอบรับอย่างดีมาก ๆ อีกด้วย คุณมุ่ยบอกว่ามาจากตนเองชอบกินแล้วกอปรกับตอนนั้นได้ดูหนังเรื่องเถ้าแก่น้อยมาจึงเกิดความสนใจและได้ลองนำมาประยุกต์เข้ากับสินค้าที่ตนเองมีอยู่สรุปก็คือว่าลูกค้าชอบมากแต่ปัญหาคือการผลิตไม่ทัน เพราะแต่ละร้านสาขาต่างก็สั่งมาแต่ว่าทางครัวกลางบางครั้งก็ไม่สามารถจัดส่งให้ได้ตามที่ต้องการ มีล่าช้าไปบ้าง
ไม่เน้นแฟรนไชส์แต่เลือก “ทำเล” ลูกค้าสะดวกซื้อมากที่สุด
จากทั้งหมดจำนวนกว่า 80 สาขาในปัจจุบัน คุณหมุ่ยบอกว่าจะเน้นเป็นรูปแบบร้านของบริษัทเองโดยตรง จะไม่ใช่เป็นแฟรนไชส์เลยซึ่งเหตุผลก็เพราะว่า เคยทดลองเปิดแฟรนไชส์แล้ว3 สาขา แต่ว่าสิ่งที่ได้มาคือ เรื่องน้ำมัน ที่ต้องเปลี่ยนใหม่ตามสเป็ก ซึ่งคนที่ซื้อแฟรนไชส์ไปไม่เปลี่ยนบอกว่า น้ำมันยังไม่ดำเลย น้ำมันยังไม่เสียเลยทำไมต้องเปลี่ยน และก็จริง ๆ คือถ้าพูดถึงเรื่อง “กำไร” การขายในแบบของร้านอาจจะไม่ได้กำไรเยอะ ใช้วัตถุดิบดี กำไรก็เลยไม่สูง“แต่เราต้องการให้ลูกค้ามาซื้อซ้ำๆแล้วเราก็จะอยู่ได้เอง คอนเซ็ปต์เราคือSharing กับทุกคน แต่ลูกค้าก็บอกว่าฉันได้กำไรน้อย ก็เลยพยายามเหมือนหมักสูตรเลียนแบบโน่นนี่นั่นแล้วเอามาปนขาย พอมาปนขายแล้วรสชาติมันไม่ได้คุณภาพหมูไม่ได้ ลูกค้าคอมเพลนว่าวันนี้หมูเหนียวหมูแข็งจังเลยอะไรเงี้ยครับ รสชาติเพี้ยน เป็นที่มาว่าทำไมเรายกเลิกสาขาแฟรนไชส์ทั้งหมด แล้วก็กลับมาคุมคุณภาพเอง”เพราะทางบริษัทมีโรงงานเอง มี อย. แล้วก็หมูที่นำมาใช้คือจะต้องเป็นเกรดมีGMP เท่านั้น ถึงจะนำเข้ามา
คอนเซ็ปต์ของร้านคือไปหาลูกค้า ลูกค้าจะได้ไม่ต้องขับรถมาไกลเพื่อมาหาร้าน หรือเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งเดลิเวอรี่สูง และก็จริง ๆ ก็คือเป็นคู่ค้ากับทางปั๊มน้ำมันด้วย อย่างเช่น ปตท.ที่ให้โอกาส“เรามีระบบไลน์แอด ไลน์ เฟซบุ๊ก ซึ่งเราจะคุยกับลูกค้าแล้วเราก็ส่งเดลิเวอรี่ จริง ๆ เราส่งเดลิเวอรี่แทบทั้งวันอยู่แล้วครับ ทุกวัน จนทำให้เรารู้ว่าลูกค้าอยู่ตรงไหนเยอะ ทำให้เราไปเลือกสถานที่ที่ใกล้เพื่อ service ลูกค้า สามารถส่งลูกค้าได้เร็วตามเวลา แม่นยำ”คอนเซ็ปต์อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า Fast Take Away ถ้าเข้าไปอยู่ในตลาดสดคือจะไม่ใช่คอนเซ็ปต์นี้ ก็จะมีตามปั๊มน้ำมันและก็หน้าร้านสะดวกซื้อ(ร้านเซเว่นฯ) มีที่จอดรถ ซึ่งเป็นทำเลหลักในการเลือกตั้งสาขาของร้าน “หมูหม้อเทพ” เป็นสำคัญ
ต้องมี Service Mind และ Sharing รายได้เพื่อจูงใจการสร้างยอด!
สิ่งหนึ่งที่ร้านหมูหม้อเทพเน้นก็คือเรื่อง การมีหัวใจการบริการ หรือ Service Mind คุณหมุ่ยบอกว่า จะมีการบอกกับพนักงานที่ประจำร้านแต่ละร้านที่เข้ามาใหม่เสมอ ก็คือร้านเราไม่ได้ขายหมูทอดนะเราขายบริการ เพราะฉะนั้นการขายบริการคือ ต้องยิ้มแย้มService Mind กับลูกค้า โดยร้านจะเปิดตั้งแต่เวลา 06.30 พร้อมขายไปจนถึง17.00 น. เปิดทุกวัน ซึ่งสำหรับพนักงานของร้านที่จะได้คือ มีเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดให้อยู่แล้วส่วนหนึ่ง และอีกส่วนที่จะต้องได้ด้วยก็คือว่า เปอร์เซ็นต์จากยอดขายที่เกิดขึ้น ถ้าทำยอดขายได้มากเปอร์เซ็นต์จากยอดขายก็จะได้มากตามไปด้วย ซึ่งทำให้มีความจูงใจสำหรับพนักงานประจำร้าน บางคนมีรายได้ต่อเดือนที่สูงถึงเดือนละกว่า 4 หมื่นบาทเลยก็มี โดยคุณหมุ่ยบอกว่าการแบ่งเปอร์เซ็นต์การขายจะมีตั้งแต่ 1 จุดกว่าเปอร์เซ็นต์ไปจนถึง6 % เลย แล้วจะใช้การคำนวณจากยอดรวมทั้งหมดของเดือนมาใช้เป็นฐานสำหรับการคิดรายได้ให้กับพนักงาน ซึ่งการใช้ยอดรวมทั้งเดือนแบบนี้ก็จะทำให้น้อง ๆ ทีมงานได้รับรายได้ที่คุ้มค่ามากกว่าการคิดเป็นรายวัน ผลที่ตามมาก็คือว่าพนักงานร้านเองก็แทบไม่มีใครอยากจะหยุดงานเลยแม้สักวันเดียวด้วย!
ความจริงใจ ที่ทำให้ก้าวผ่านทุกวิกฤต!
“เวลาทำอะไรเราจริงใจกับลูกค้า แล้วราคาคือเราตั้งราคาแบบที่ว่าลูกค้าสามารถทานได้ทุกวัน เราไม่ได้กำไรเยอะ เพราะฉะนั้นลูกค้าทราบเพราะลูกค้าบอกว่าทานหมูร้านนี้แล้วพอไปกินที่อื่นไม่เหมือน ลูกค้าไม่มั่นใจ ลูกค้ากลับมาซื้อเรา ทำให้ 8 ปีเนี่ยถือว่าเราไม่กระทบเลย แม้แต่ในช่วงโควิดฯ ลูกค้าก็บอกว่าเรามั่นใจเรื่องความสะอาด ทั้งแพ็คเกจจิ้งที่เราใช้ อะไรแบบนี้ครับ เราแพ็คใส่ถุงก่อน”
ถามคุณหมุ่ยเจ้าของร้าน “หมูหม้อเทพ” ว่าปัจจุบันนี้มีคู่แข่งที่ทำแบบใช้ “น้ำมันมะพร้าว” เหมือนกับเราบ้างไหม? ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า มีเยอะมากตอนนี้ บอกว่าใช้น้ำมันมะพร้าวมีแม้กระทั่งว่า เอารูปร้าน ป้ายเมนูทำให้เหมือน เมนูอาหารทำให้เหมือน และที่สำคัญคือตอนนี้ มีบางเจ้าคือทำข้าวเหนียวอัญชัน ห่อสาหร่าย ที่หนักที่สุดคือบอกว่า เป็นร้านสาขาของหมูหม้อเทพ เป็นญาติออกมาทำ แล้วพอลูกค้าไปกินเขาบอกไม่เห็นอร่อยเลย ลูกค้าโทรไปคอมเพลนแต่ว่าไม่ใช่โทรมาคอมเพลนที่หมูหม้อเทพ มีการบอกว่าให้มาเปลี่ยนที่สาขานี้ ๆ ซึ่งเป็นสาขาของร้านหมูหม้อเทพ พอมาเปลี่ยนที่ร้านซึ่งน้องดูแล้วแพ็คเกจจิ้งไม่ใช่อะไรไม่ใช่ แล้วอีกอย่างคือเด็กที่ร้านจะคุยกับลูกค้าด้วยจะจำลูกค้าได้ แต่ว่าคนที่มาขอเปลี่ยนเด็กบอกไม่เคยเจอพี่คนนี้เลย แล้วลูกค้าก็โวยวายแบบอารมณ์เสียว่าทำไมฉันถึงได้ซื้อมา อะไรประมาณนี้
การคงจุดแข็งเรื่อง “คุณภาพ” เป็นสำคัญ ทำของดี กำไรน้อยแต่อาศัยว่าการซื้อซ้ำบ่อย ๆ จากลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ จึงไม่แปลก8 ปีที่สามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องกว่า 80 สาขาแล้วสำหรับ “หมูหม้อเทพ” หมูทอดน้ำมันมะพร้าว เพื่อสุขภาพ ยืนหยัดได้ด้วยการ Sharing กับทุกคน ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ ของการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งสำหรับร้านหมูหม้อเทพในครั้งนี้
สามารถแวะไปอุดหนุนเพื่อชิมหมูทอดอร่อย ๆ และข้าวเหนียวอัญชันได้ที่ร้านสาขาใกล้ ๆ บ้านหรือเช็กดูรายชื่อสาขาก่อนได้ที่เพจ : หมูทอด น้ำมันมะพร้าว เพื่อสุขภาพ by หมูหม้อเทพ สถานที่ตั้ง194 หมู่5 ถนนร่มเกล้า กรุงเทพฯ โทร.081-854-5867
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *