xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) จากงานลูกโป่งตกแต่ง สู่ “บอลลูนอาร์ต” งานครีเอทีฟคนไทย ติด TOP 5 โลก (ตอนที่ 1)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“30 ปีที่แล้วมันยังไม่มีอินเตอร์เน็ตลูกโป่งยังเป็นแค่ของเด็กเล่นแล้วสิ่งที่เราไปเห็นมันสร้างแรงบันดาลใจว่า เฮ้ยลูกโป่งมันทำแบบนี้ได้ด้วย! มันทำงานตกแต่งก็ได้เราก็เลยคิดว่าเป็นโอกาสของชีวิต ก็เลยไปอบรมที่ต่างประเทศแล้วเราก็เอามาทำในเมืองไทย”


พี่ไก่-คุณจิรฐา โลหะพรหม ผู้ก่อตั้งบริษัท Balloon Art บอกกับเราว่า เริ่มต้นเลยคือในปี ค.ศ.1992 เดิมตนเองทำงานเกี่ยวกับเรื่องของการทำสื่อโฆษณา แล้วมีอยู่วันหนึ่งมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศแล้วเห็น “ลูกโป่ง” ดังที่ได้บอกไปแล้วในข้างต้น “ซึ่งตอนนั้นก็เริ่มต้นแบบบ้าน ๆ อะไรเงี้ยค่ะ ก็มีทีมเล็ก ๆ จับกลุ่มของคนที่ทำงานด้านอีเว้นต์ซะส่วนใหญ่ เพราะว่าเรามาจากคนกลุ่มนี้เราก็คิดว่าเอ้อ เขาอยากได้อะไรที่ใหม่ ๆ สิ่งที่เรานำมา ณ ตอนนั้นมันใหม่ ก็เลยมาเปิดตลาดเป็นค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ เริ่มเติบโต”ในตอนนั้นก็มีปัญหาเหมือนกัน ปัญหาของมันก็คือว่าลูกโป่งตอนนั้นใคร ๆ ก็เอามาแจก แล้วทำไมฉันต้องซื้อ? ดังนั้นก็เลยพยายามทำให้เขาเห็นว่าภาพ มันจะเกิดอะไร โมเม้นต์ตรงนั้น มันจะเกิดอะไร มันจะสร้างความประทับใจอย่างไรบ้าง ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานลูกโป่งตกแต่ง

พี่ไก่-จิรฐา โลหะพรหม ผู้ก่อตั้งบริษัท Balloon Art


สร้างความประทับใจ พิเศษแล้วต้อง WOW!
“หน้าร้านแรกของเราที่ปากซอยสุขุมวิท 53 เป็นร้านลูกโป่ง Balloon Art เป็นร้านแรกที่เราไปเปิดที่นั่นเป็นร้านเล็ก ๆ เป็นหัวมุมเล็ก ๆ ถ้าปัจจุบันก็จะมีน้อง ๆ หลาย ๆ คนพวกน้องนักเรียนสายน้ำผึ้ง โรงเรียนวัฒนา พวกนี้ก็จะแบบแวะเข้ามาที่ร้าน แล้วก็มาดูของเราซึ่งเราก็จะมีวินโดว์ดิสเพลย์อะไรอย่างเงี้ยค่ะ มันเป็นจุดเริ่มต้นของเราที่แบบสร้างให้คนรู้จัก แล้วน้อง ๆ จะเข้ามาคุยหรือแม้กระทั่งลูกค้าเราจะเข้ามาคุยกับเรา”ลูกจะเกิดแล้วนะ พอลูกจะเกิดแล้วก็มีประเภทแบบว่า จีบกันช่วงนั้นเด็ก ๆ จะเข้ามาที่ร้าน“ก็จะแบบจีบกันวันวาเลนไทน์ โรงเรียนโน้นโรงเรียนนี้ คนโน้นคนนี้จะส่งกัน แล้วเราก็จะเป็นคนที่รับข้อความ พี่ครับ ๆ ผมอยากให้เขาประทับใจ ทำยังไงบ้าง เขาอยู่คอนโดชั้น4 อย่างเงี้ย เราก็เลยบอกงั้นพี่ทำลูกโป่งลอย เป็นลูกโป่งหัวใจลอยขึ้นไปที่ชั้น4 ดีมั้ย ตอนนั้นเราก็แบบสร้างความประทับใจอย่างงี้”แล้วก็มีแบบว่า วันเกิด ซึ่งก็จะมีไปร้องเพลง Happy Birth Day To You ให้ด้วยอย่างเช่นที่ ธ.กรุงไทย สำนักงานใหญ่ แล้วก็มีแบบว่า บอกรัก แล้วเขาบอกว่าช่วยร้องเพลงแคปชันนี้หน่อยได้มั้ย ณ ตอนนั้นคือมีความรู้สึกว่า ลูกโป่งทำอะไรได้เยอะมากเลยกับความรู้สึกของคน




“เราก็ทำมาอยู่ประมาณสัก 6-7 ปีในส่วนที่แบบเป็นทั้ง งานตกแต่งให้กับคนทั่วไป คนที่แบบต้องการความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร แล้วเราก็ทำให้กับcorporate ที่เขาแบบอยากจะทำงานพิเศษขึ้นมา Special Event หรือว่า Launch ตัวใหม่ ๆ นั่นก็คือว่า ณ ตอนนั้นเป็นงานลูกโป่งล้วน ๆ เลย” จะมีการคุยกันว่าในความต้องการแบบนี้ ในงบประมาณเท่านี้ ในเวลาเท่านี้ ทางทีมงานจะทำอะไรได้บ้าง คุยจนกระทั่งลูกค้าเห็นภาพแล้วตกลง จะเป็นแบบนี้เสมออันนี้คือสิ่งที่ Balloon Art เป็นแล้ว Skill ที่ทำมันจะต่างกับตลาด ตรงที่ว่าไม่ใช่เป็นการซื้อลูกโป่งมาใบ ๆ แล้วขายเป็นใบ ๆ แต่สิ่งที่ทีมทำคือ เอาลูกโป่งมาทำเป็นงานมาสร้างเป็นงานขึ้นมา ให้มันเป็นลักษณะที่อีกแบบหนึ่ง ที่เขาไม่มีโอกาสได้เจอในตลาดทั่ว ๆ ไป




ขายสิ่งที่มันไม่ได้เกิดขึ้น!
พี่ไก่ ยังบอกด้วย คนที่เป็นลูกค้าของ Balloon Art เคยใช้งานกันแล้ว สิ่งที่เขาต้องการต่อไป เขาต้องการอันอื่นที่มันไม่เคยเกิดขึ้นอีก! เขาต้องการความพิเศษ แล้วก็พิเศษ แล้วก็พิเศษ มันต้องไม่ธรรมดา มันต้องไม่ธรรมดา นั่นคือสิ่งที่บอลลูนอาร์ตเป็น“สิ่งที่เราเป็นคือ เราก็พยายามทำในสิ่งที่มันไม่เคยเกิดขึ้น ให้มันเกิดขึ้น แล้วประสบความสำเร็จ นั่นคือสิ่งที่ลูกค้าจดจำว่าใช้บอลลูนอาร์ตแน่นอนเกิดขึ้นแน่นอน” แต่ลูกค้าต้องบอกโจทย์ก่อน คือบางทีมันมีโจทย์ว่า ห้องแค่นี้แหละมีห้องแค่นี้แหละ แต่ว่าต้องเซอร์ไพรส์สุด ๆ ต้องทำยังไงก็ได้ คือต้องใช้เวลาแค่นี้นะ แล้วภาพต้องแบบว่าเขาต้องเอาไปพูดต่อ บอกต่อด้วย! อันนี้คือสิ่งที่เป็นโจทย์“มันก็เลยว่ามันไม่ได้มีแค่ลูกโป่งแล้ว มันต้องมีเทคนิคบางอย่างที่มันจะเอื้อ เพราะมันเกินลูกโป่งไปแล้ว ณ ตอนนั้นสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราติดหลายเรื่องมากเลย เราว่าอ๋อ! เราเข้าใจแล้วแหละจริง ๆ เราไม่ได้แค่ขายลูกโป่งหรอก เราขายPresentation เราขายสิ่งที่มันไม่ได้เกิดขึ้น! นั่นคืองานของเรา”


พี่ปุ้ม-;วรสรวง สมัตถพันธุ์
ขยายสเกลงานสู่การผลิต โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงขึ้น
ด้าน “พี่ปุ้ม-คุณวรสรวง สมัตถพันธุ์” ซีอีโอ บริษัท Balloon Art กล่าวว่า“ผมมองว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ ตื่นเต้น! ตระหนก! แตกตื่น! นะครับแต่มันคือ ความสุข! คือถามผมนะแล้วถามน้อง ๆ ทุกคนที่อยู่ในทีมผมเนี่ย คือถ้ากดปุ่มได้แล้วกลับไปเกิดใหม่ให้ไปทำอย่างอื่น เขาก็ยังกดปุ่มมาทำบอลลูนอาร์ต เพราะว่าสนุกทุกครั้ง เรามีสิ่งใหม่ทุกครั้งที่เราต้องสร้างมันขึ้น แล้วก็มีคน พี่ไก่ถามผมว่าถ้าขออะไรได้ ขออนาคตของบริษัทนี้ได้จะขออะไร ขอ1 ข้อ คำขอเดียวคือ ขอให้ Balloon Art ยังสนุกกับสิ่งที่ทำตลอดไป เพราะความสนุกในสิ่งที่ทำมันคือฐานของทุกอย่าง”


พี่ปุ้มยังบอกด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัวรีโมทระเบิดลูกโป่ง หรือว่าจะเป็น “ซุ้ม” ที่เป็นซุ้มโค้งสำหรับงานวิ่ง เสาบอลลูนที่ปัจจุบันนี้ก็ยังมีเห็นอยู่ อันนั้นคือ 20 ปีที่แล้วก็จะเป็นอย่างงั้น แล้วพอหลังจากนั้น “พอพี่ปุ้มเข้ามาเนี่ย สิ่งที่คิดต่อยอดขึ้นไปเนี่ยก็คือตัวเริ่มทำรูปร่างของตัวบอลลูน ที่เป็น shape 3D เป็นเชฟตามความต้องการลูกค้าอย่างเงี้ยครับ คือเดิมเรานึกถึงบอลลูนเราก็จะนึกถึงลูกกลม ๆ เนาะไม่ว่าจะลอยได้ หรือจะตั้งเสา หรือจะวางกับพื้น แต่พอเชฟที่เริ่มเป็นแบบว่า เออมีหูขึ้นมาเป็นหมี มีตัวมีแขนมีขา จนกระทั่งพัฒนามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือคาแรคเตอร์ต่าง ๆ อะไรอย่างเงี้ยครับ อันนั้นคือส่วนที่พอเข้ามาปึ๊บเรามาต่อยอดจากสิ่งเหล่านั้น”




แล้วก็ต้องบอกอย่างนี้ว่า จริง ๆ Balloon Art โชคดีที่ได้เจอลูกค้า ที่เขามีความต้องการ แล้วเขาก็จะพูดเลย“คือทั้งหมดน่ะไม่ใช่แบบว่าอยู่ดี ๆ เรานั่งปุ๊บเราก็นั่งพัฒนา develop ไม่ใช่! มันมาจากความต้องการของลูกค้าว่า ลูกค้ามาเลยพี่ปุ้มทำแบบนี้สิ พี่ปุ้มทำอย่างนี้ได้มั้ย พี่ปุ้มเอาขึ้นไปอยู่บนหลังคาตึกอย่างเงี้ยได้มั้ย หรือไปเกาะอยู่บนเสาได้มั้ย แล้วเกาะเนี่ยมันขยับแขนได้มั้ยพี่ อะไรอย่างเงี้ย”คือบางอย่างพอเรารับฟัง สิ่งที่เราคิดคือ ลูกค้าเขามีความเชื่อมั่นเรา เขาขอให้เราทำ สิ่งที่เราต้องรับเขาขอเราแล้วเราทำไม่ได้2-3 ครั้งมันจบเลยนะ! มันจบเขาไม่คุยกับเราเลย “แต่ถ้าถามอย่างทำได้มันจะมี 1 2 3 4 มาเรื่อย ๆ แล้วนี่เป็น 1 2 3 4 ของ 20 ปี Balloon Art ที่เราเดินมาแบบนั้น เดินอยู่บนความเชื่อมั่นของลูกค้า เพราะว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่มันไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหน เขาขอให้เราทำ เรารับความฝันนั้น เราต้องทำความฝันนั้นให้มันสำเร็จ” ตลอดเส้นทางตื่นเต้นตลอด! เพราะว่่าเวลาที่ผลิตคือเนื่องจากว่า ตนเองจบมาทางด้านวิศวกรรม (เครื่องกล) เพราะฉะนั้นเวลาที่ทำงานเราจะมีการเทสต์ทุกอย่างมีการทดสอบ ทดสอบความแข็งแรง คำนวณถึงปริมาณลม คำนวณถึงโครงสร้างต่าง ๆ ก็อาจจะเป็นจุดหนึ่งแหละพอลูกค้าเขารู้ว่าเราเป็นวิศวะด้วย เขาถึงกล้าโยนโจทย์ที่มันยากมากขึ้นเรื่อย ๆ “แต่เรามองว่า มันไม่ใช่ความยากนะ มันเป็นความสนุก มันมีความท้าทาย”

...โปรดติดตามความอลังการงานสร้าง! ของ Balloon Art ต่อในตอนที่ 2 (ตอนจบ) ในสัปดาห์หน้า...



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น