(ชมคลิป) ร้านลับอยู่ลึก! แต่ดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปหาได้ด้วยสิ่งนี้ “บะหมี่ถาดกระทะเล้ง” บิ๊กไซส์ใหญ่จริงไม่จกตา!!!

ถ้าเข้าใจคำว่าหลังพิงฝา! วันหนึ่งคุณจะได้รู้ว่าสัญชาตญาณการอยู่รอด มันทำงานอย่างเที่ยงธรรมเสมอ ที่มาร้าน “บะหมี่ถาดกระทะเล้ง” ผ่านพบมาแล้วทั้งการสู้ชีวิตและชีวิตสู้กลับ! หนักหน่วงแต่สุดท้ายก็ไปต่อได้ ด้วยไอเดียในการทำกินเป็นต้นทุน


คุณอั้น-คฑาเนตร เพ็ญพรเลิศชัย และคุณกบ-ศิริภัคร์ ลาภธุวะศิริ เจ้าของแบรนด์ “บะหมี่ถาดกระทะเล้ง” จากจ.พะเยา บอกกับเราว่า การตัดสินใจลาออกจากงานประจำซึ่งทำมานานกว่า20 ปี ด้วยความรู้สึกว่า เกิดความอิ่มตัวแล้วอยากหาอาชีพอะไรทำเป็นของตัวเองบ้าง ออกมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นก็ยังไม่มีเป้าหมายแน่ชัดอะไรเลย จนกระทั่งจับพลัดจับผลูมาประเดิมอาชีพค้าขายโดยลองทำร้าน “ข้าวแกง” ดูก่อน เพราะแฟน(คุณกบ) เป็นคนมีฝีมือทางด้านการทำอาหารอยู่แล้ว ก็ไปขายกันอยู่ที่ตลาดรวมทรัพย์อโศกซึ่งเป็นย่านของออฟฟิศ กลุ่มลูกค้าหลักก็คือคนทำงานพนักงานออฟฟิศช่วงพักเที่ยงวัน มาหาข้าวกิน เป็นอาหารกลางวันที่รอเปิดให้บริการ ซึ่งปรากฏว่าขายได้อยู่สักระยะหนึ่งด้วยข้อจำกัดเรื่อง “เวลา” สำหรับการขายที่เฉพาะเจาะจงเกินไป จึงทำให้มีรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นยังไม่ค่อยเพียงพอมากนัก ประจวบกับตอนนั้นพอดีคุณแม่ซึ่งพื้นเพเดิมท่านเป็นชาวพะเยาก็ติดต่อมา ชวนไปตั้งหลักทำกินอยู่ที่ จ.พะเยา ลองดูไหม? ด้วยทุนก้อนสุดท้ายที่มีคือ รถยนต์ 1 คัน ส่วนบ้าน(เช่า) ตอนบอกคืนกับเจ้าของต้องยอมให้เขาริบเงินค่าวางมัดจำเอาไว้ เพราะยังมีค้างจ่ายเขาอยู่ถือเป็นอันหักลบกลบหนี้กันไป


จากมนุษย์เงินเดือน สู่อาชีพค้าขาย
“พอแม่ชักชวนว่ามาอยู่ที่พะเยามั้ย มีบ้านอยู่และก็เดี๋ยวจะทำหลังคาให้ใหม่ ให้มาขายของที่พะเยาขายอะไรก็ได้ อยากขายอะไรก็ขายอย่างเงี้ยครับ เราก็เลยโอเคตกลงมูฟออนย้ายจากกรุงเทพฯ ไปที่พะเยาเลย เปลี่ยนอาชีพ ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรได้ที่ จ.พะเยา เพราะเราอยู่แต่ในกรุงเทพฯ มาตลอด จนกระทั่งพอไปถึงก็เลยพยายามหาไอเดียกันว่า งั้นเรามาลองขายอะไรที่มันแปลก ๆ ดีมั้ย ก็เลยบังเอิญไปค้นดูรูปเก่า ๆ ที่แฟนทำอาหารเอาไว้ครับ ก็ไปเจอรูปหนึ่งที่เป็นรูปเขาทำบะหมี่ให้ทานและก็ใส่เครื่องเยอะ เราก็เลยบอกเอองั้นเราขายตัวนี้แล้วกัน เพราะว่าน่าจะยังไม่มีคนทำ อันนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราขายตัวบะหมี่ถาดขึ้นมา ทีนี้พอก่อนที่จะเปิดร้าน เราก็รู้สึกว่าบะหมี่อย่างเดียวมันน่าจะไม่พอก็เลยลองคิดว่าเอองั้นเราลองขายเล้งด้วยแล้วกัน พวกเล้งแซ่บ เพราะว่าที่ จ.พะเยาตอนนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จัก”


ร้านลับอยู่ลึกในซอย แต่มีของอร่อย “บะหมี่ถาด กระทะเล้ง”
“อาหารของเราทุกเมนูคิดค้นขึ้นมา เพื่อจะให้ลูกค้าสามารถที่จะถ่ายรูปได้ทุกเมนู หน้าตาอาหารของเรามันจะแบบต้องจัดให้สวยงามพร้อมก่อนเสิร์ฟนะครับ พอไปถึงมือ/โต๊ะลูกค้าแล้วเนี่ยลูกค้าก็จะรู้สึกว่าเออสามารถถ่ายรูปได้ เพราะสมัยนี้คนก็จะถ่ายรูปก่อนทาน ทีนี้ด้วยความที่เป็นบะหมี่ถาดยักษ์! มันก็จะเป็นไฮไลท์ที่ว่าลูกค้าสามารถถ่ายได้ เขาก็จะมาถือถ่ายรูปกันทำให้รู้สึกว่ามัน ว้าว! อะไรแบบนี้ครับ อันนี้คือจุดดึงดูดที่ลูกค้าจะเหมือนบอกต่อ ๆ กันว่าเออให้เข้ามาทานที่ร้านของเรา”

คุณอั้น เล่าว่า จากเงินทุนก้อนสุดท้ายที่มีมาสรุปว่าก็ขายรถแล้วนำเงินที่ได้มาเป็นทุนสำหรับการค้าขายใหม่นี้ โดยตั้งชื่อ “บะหมี่ถาด กระทะเล้ง” คือเป็นบะหมี่ที่เสิร์ฟในถาดเลย ซึ่งก็จะมีหลายไซส์หลายขนาด ตั้งแต่ทานคนเดียว ทาน 2 คนเป็นไซส์ M ทาน 4 คนเป็นไซส์ L และสูงสุดก็จะเป็น XXL ทานได้ประมาณ 10 กว่าคน “ผมค่อนข้างโชคดีหนึ่งคือแฟนทำอาหารอร่อยอยู่แล้ว และผมมีความรู้ในเรื่องของโซเชียลฯ มาจากที่กรุงเทพฯ บ้างอยู่แล้ว พอเราไปเปิดร้านที่ จ.พะเยา ก็เลยนำ2 สิ่งนี้มาประกอบกัน แฟนทำอาหารอร่อยอยู่แล้วผมก็เลยเอาอาหารตรงนี้ ถ่ายรูปให้มันหน้าตาสวย ๆ หน้าตาดี ๆ ครับแล้วก็โพสต์ลงไปในเพจ เราเปิดขายครั้งแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว สร้างเพจขึ้นมาเป็นเพจร้านก่อนเปิดร้าน15 วัน ตอนที่เราเปิดเพจวันแรกเนี่ยก็คือวันที่ 1 มกรา ร้านเราเปิดวันที่17 มกรา กระแสตอบรับในเพจนะครับตั้งแต่วันที่ 1-17 ก็คือดีมาก คนก็ให้ความสนใจเยอะมากว่าเออจะมีแบบนี้มาขายที่ จ.พะเยา แล้วนะ อะไรแบบนี้ครับ ก็เลยทำให้วันแรกที่เราเปิดร้านวันแรกเลย คนก็เยอะมากแบบเยอะมาก ทั้งที่จริง ๆ แล้วในซอยของร้านที่เราเปิดเนี่ย เป็นซอยที่เงียบมาก แต่วันนั้นวันเปิดร้านวันแรกคือรถเต็มหน้าปากซอยไปถึงหน้าปากซอยเลย”


บิ๊กไซส์ใหญ่จริง! สินค้าตรงปกไม่จกตา
ตอนที่เริ่มต้นมีการทำเพจร้านก็โดยการ ถ่ายรูปบะหมี่ถาดใหญ่เพื่อจะดึงดูดช่องทาง ทางโซเชียลฯ ให้ลูกค้าได้เห็นรูปนี้ว่าร้านนี้มีบะหมี่ถาดยักษ์นะ ถาดใหญ่ เป็นหน้าตาแรกเลยที่ลูกค้าจะได้เห็นร้านโดยผ่านทางมือถือก่อน ซึ่งพอลูกค้าได้เห็น ความรู้สึกที่เขาอยากจะมา เขาก็มีแล้ว ทีนี้พอเขามาที่ร้าน มาทานตามที่เห็นโฆษณาในเพจร้าน พอได้ทานของจริงแล้วมันอร่อยด้วย ราคาก็ไม่แพงด้วย อันนี้มันก็เหมือนเป็นการ “ปากต่อปาก” ไปในอีกช่องทางหนึ่ง ทำให้ร้านขายได้ดีมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านจนถึงปัจจุบันนี้ 5 ปีแล้ว ร้านก็คือไม่เคยเงียบเหงาเลยขายดีมาตลอด


เมนูจัดเต็ม! เลือกชิมเลือกอิ่มในราคาถูกใจ
“ซึ่งจริง ๆ แล้วบะหมี่ของเราเนี่ยมันก็มีทั้ง บะหมี่แห้ง-บะหมี่น้ำ นะครับแต่ถ้าเป็นบะหมี่แห้งเราก็จะมีน้ำซุป(น้ำซุปก๋วยเตี๋ยว) แยกออกมาให้อยู่แล้ว ถ้าเป็นบะหมี่น้ำก็เทน้ำใส่เป็นบะหมี่น้ำได้เลย สำหรับราคาเริ่มต้นจะมี 45 บาท ทานคนเดียวก็จะเป็นก๋วยเตี๋ยวธรรมดา แต่ถ้าเป็นบะหมี่เกี๊ยวก็เพิ่มเกี๊ยวมาหน่อยก็จะเป็น 55 บาทครับ แต่ว่าถ้าจะเป็นพวกตระกูลต้มยำ หรือว่าตระกูลซอสแซ่บ ก็จะเริ่มต้นที่ 69 บาท ครับผมอันนี้คือทานคนเดียว แต่ถ้าเป็นไซส์ M ที่ว่าทานได้ 2 คนก็จะราคาอยู่ที่ 159 บาท ไซส์ L ใหญ่ขึ้นมาหน่อยทานได้ 4 คนก็ราคา 299 บาท ไซส์ XL ราคา 499 และก็ใหญ่สุดเราจะเป็นไซส์์ XXL ราคา 799 บาท เป็นเซ็ตใหญ่คอมโบ้ของร้าน ซึ่งราคาตกเฉลี่ยหารออกมาคนละประมาณ 40 บาทเองครับ”

ส่วนเมนู “เล้ง” ราคาก็จะมีตั้งแต่ เริ่มต้นที่79 บาท ทานคนเดียว แล้วก็จะมีหลายไซส์ให้เลือกอิ่มได้เช่นกัน เล้งจะมีน้ำซุปแบบหลายน้ำให้เลือกด้วย เริ่มต้นก็จะเป็นเล้งซุปน้ำใส(ธรรมดา) แบบที่คนพะเยาทานกันเป็นซุปกระดูก ต่อมาเป็นเล้งแซ่บ ถ้าคนภาคกลางก็จะรู้ว่าเป็นรสแซ่บ ๆ หน่อย มีเล้งต้มยำน้ำข้น เล้งต้มยำโบราณ(อันนี้จะครบรสเลย) เมนูเล้งก็จะมีหลายไซส์ เริ่มต้นที่ไซส์ S ทานคนเดียว 79 บาท ไซส์ M ทานได้ 2-3 คนราคา 169 บาท ไซส์ L ราคา 359 บาท และถ้าเป็นกระทะใหญ่เลยราคา 459 บาท


เปลี่ยนเรื่องยาก(ร้านก๋วยเตี๋ยวมันยุ่ง!) ให้กลายเป็นเรื่องง่าย
“ด้วยความบังเอิญที่ตอนนั้นมีคนสนใจ มาขอซื้อแฟรนไชส์เรา ตั้งแต่วันที่เราเปิดร้านเลยครับ เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรที่มันเป็นระบบขึ้นมาหน่อย ถ้าเราจะขายแฟรนไชส์จริง ๆ เราต้องควรมีอะไรที่เอาไปให้ลูกค้าทำต่อได้ง่าย เราก็เลยคิดค้นสูตรกันขึ้นมาในเรื่องของตัวซอสปรุงรสต่าง ๆ เพื่อจะให้สาขาแฟรนไชส์เนี่ยเอาไปทำแล้วรู้สึกว่าเออมันทำง่าย สะดวก อะไรอย่างเงี้ยครับ นั่นก็คือจุดเริ่มต้นก็คือวันแรกเลย แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้ขายแฟรนไชส์นะครับ เราก็ผ่านระยะเวลาตอนนั้นมาประมาณ 1 ปีถึงจะเริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ครับ”

คุณอั้นยังบอกด้วย ปัจจุบันระบบของแฟรนไชส์ “บะหมี่ถาดกระทะเล้ง” ถือว่าดีมาก คนทำอาหารไม่เป็นเลยก็สามารถทำได้เพราะทางร้านแม่เองได้มีการคิดค้นสูตรซอสต่าง ๆ ขึ้นมาให้ลูกค้าทำสำเร็จอยู่แล้ว คนที่ทำอาหารไม่เป็นเลย เกิดมาทอดไข่เจียวยังไหม้เลย ก็สามารถทำก๋วยเตี๋ยวสูตรของทางร้านได้อร่อยไม่แพ้ทางต้นตำรับเลย


“ในมุมมองของลูกค้า เขาอาจจะมองว่าการทำก๋วยเตี๋ยวมันเหนื่อย มันไม่ได้เหมือนทำคนเดียวได้ หรือทำสองคนได้ อะไรอย่างเงี้ยครับ มันก็เลยทำให้เป็นจุดเล็ก ๆ อันหนึ่งที่ทำให้แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวออกขายค่อนข้างยากนิดนึง เพราะว่าคนยังมีความคิดอยู่ว่าทำยาก แต่ว่าต้องบอกเลยว่าถ้ามาติดต่อแบรนด์เราไม่ยากครับ ง่าย ทุกอย่างเราใช้ซอสสำเร็จ คุณแค่ลวกอย่างเดียว ลวกลูกชิ้น ไส้กรอก ฯลฯ ลวกก็ง่าย ๆ เลยครับก็ลงไปลวกขึ้นมาขายได้เลย”


จงเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว เพื่อชีวิตที่เติมเต็ม
ถึงตอนนี้แม้ว่าทางร้านจะเปิดขายแฟรนไชส์มาได้กว่า 3-4 ปีแล้ว แต่ทางเจ้าของแบรนด์ “บะหมี่ถาด กระทะเล้ง” ก็บอกด้วย ตรงไหนมีอบรมอะไรก็พยายามที่จะใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา หรือว่าศึกษาได้ก็จะเข้าไปศึกษาด้วย อย่างเช่นของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็จะมีประกาศรับสมัครเปิดเรียนรู้เกี่ยวกับ “แฟรนไชส์” ระบบแฟรนไชส์ ก็จะเข้าไปด้วย หรือ ธ.ออมสิน ก็เปิดอบรมแฟรนไชส์ซึ่งทำให้มีโอกาสได้เข้ามาด้วย เป็นต้น




“ทุกครั้งที่เข้าไปอบรมอะไรอย่างเงี้ยค่ะ เราจะได้ความรู้แบบใหม่ ๆ เพื่อที่จะเอามาพัฒนาธุรกิจเราให้มันดียิ่งขึ้น แล้วบางทีเราก็จะได้แบบว่าความรู้จากเวลาเราไปอบรมมันจะมีแบบ แบรนด์ใหญ่ ๆ ที่จะมาแชร์ประสบการณ์อะไรอย่างเงี้ยนะคะ เราก็เอามาปรับให้เข้ากับธุรกิจของเรา เพื่อให้แบบว่าเวลาที่เราขายแฟรนไชส์ไปแล้วเนี่ย มันง่ายต่อลูกค้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป”

ปัจจุบันนี้ทางแบรนด์ “บะหมี่ถาดกระทะเล้ง” มีแฟรนไชส์ทั้งหมด 18 สาขา ทั่วประเทศ และเจ้าของก็บอกด้วยยังไม่หยุดในการพัฒนา “พัฒนาเรื่อย ๆ ครับ ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าทำธุรกิจตรงนี้ครับ มันต้องน้ำไม่เต็มแก้ว ใครมีอะไรมาแนะนำเราสอนเรา เราก็จะรับหมดครับ แล้วก็มาคัดกรองว่าอันไหนที่มันเหมาะกับเรา หรือว่าเหมาะกับธุรกิจเรา ก็มาปรับเปลี่ยน มาแก้ไขตลอดอยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้เราก็จะพยายามรับทุกอย่างเข้ามาให้ได้เยอะที่สุด เพื่อให้ธุรกิจของเราได้เติบโต หรือว่าเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม”


ในตอนท้ายคุณอั้นบอกด้วย “6 ปีที่แล้วเนี่ยผมยังเดินตามงานอีเว้นต์ต่าง ๆ เดินเหมือนคนเดินทั่วไปอย่างเงี้ยครับ ก็มาดูแฟรนไชส์โน้นแฟรนไชส์นี้นะครับ ว่าอยากจะขายอะไรกิจการหนึ่ง ไม่ได้คิดหรอกครับว่าอยากจะมาขายแฟรนไชส์ อยากมีกิจการของตัวเอง แต่ว่าด้วยความแบบว่าบังเอิญหลาย ๆ อย่าง ช่องทางนะครับ ทำให้เราได้เปิดร้านและก็success แล้วก็ได้ขายแฟรนไชส์จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วก็คือเกินคาด นะครับแล้วก็มีคนให้ความสนใจก็ค่อนข้างเยอะ เพียงแต่ว่าในเรื่องของการขายแฟรนไชส์จริง ๆ แล้ว แบบนี้มันก็จะมีหลายที่ ซึ่งลูกค้าก็สามารถเลือกได้อยู่แล้ว”

ขอบคุณข้อมูลจาก “มหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์” สอบถามเพิ่มเติมโทร.082-562-6932 บะหมี่ถาดกระทะเล้ง



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *