xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงตู่” ส่งสัญญาณอะไร? ไม่มีผม ก็ต้องมีคนอื่น “อดีตบิ๊ก ศรภ.” ซัด หาเสียงค่าแรง 600 คนไทยเดือดร้อนหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
“บิ๊กตู่” พูดเป็นนัย? “...ใครจะเป็น หรือใครจะมา ใครจะไป ประเทศไทย ต้องอยู่ได้ ไม่มีผม ก็ต้องมีคนอื่น ขณะ “ภท.” ส่ง “อนุทิน” แคนดิเดตนายกฯ “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ซัดหาเสียงค่าแรง 600 ส่งผลข้าวแกงจานละ 70-80

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (17 ธ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า
“รักกันจริง อย่าทิ้งกันนะ”
ไม่มีผม ก็ต้องมีคนอื่น
“บิ๊กตู่” ขอร่วมมือร่วมใจเดินหน้าประเทศ
ไม่ว่าใครจะอยู่
ใครจะเป็น
หรือใครจะมา ใครจะไป
ประเทศไทย ต้องอยู่ได้
ไม่มีผม ก็ต้องมีคนอื่น
อยู่ที่พวกเราทุกคนจะชี้ชะตาประเทศไทยยังไง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ในระหว่างเดินชมบูธภายในงาน มีกลุ่มผู้ประกอบการ มอบของที่ระลึก พร้อมส่งเสียงให้กำลังใจ นายกฯ

โดยกล่าวว่า รักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ อยากให้อยู่นานๆ แม้จะอยู่อีกแค่ 2 ปี ก็อยากให้อยู่

พล.อ.ประยุทธ์ จึงหันมาบอกว่า “รักกันจริง อย่าทิ้งกันนะ”

นายกฯ ได้กล่าวในงานในตอนหนี่ง ว่า ไม่ทราบว่าผมพูดหนักไปหรือเปล่า ผมคิดทั้งวันว่าจะทำอะไรให้กับประเทศไทย ไม่เคยคิดอย่างอื่น เพียงแต่หวังว่า ขอความร่วมมือร่วมใจจากพวกท่าน เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตของประเทศไทย ไม่ว่าใครจะอยู่ ใครจะเป็นใคร หรือใครจะมา ใครจะไป ประเทศไทยต้องอยู่ได้ ไม่มีผม ก็ต้องมีคนอื่น อยู่ที่พวกเราทุกคนจะชี้ชะตาประเทศไทยให้เจริญได้อย่างไรในอนาคตเพื่อลูกหลาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ถ้าเราไม่รักประเทศของเรา ไม่รู้เราเป็นใครมาจากไหน เราจะรู้จักอัตลักษณ์ประเทศไทยได้หรือไม่ ว่า เราเป็นใครมาจากไหนเดินมาจากที่ไหน บรรพบุรุษเราเป็นใคร เราจะไม่รู้จักประเทศของเราไม่ได้ ถ้าไม่รู้จะรักได้อย่างไร เพราะนี่คือบ้านของเรา คือ ที่เกิด ที่ทำมาหากิน และเป็นที่ตายของเรา

ภาพ นายภราดร ปริศนานันทกุล จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน วันนี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลาออกจาก ส.ส.ของหลายพรรคการเมือง และมาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย วานนี้ (16 ธ.ค.) ว่า

ขอบคุณเพื่อน ส.ส. ทุกท่าน ที่เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย จะเดินหน้าทำงานร่วมกันเพื่อประชาชน การลาออก และเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เมื่อวานนี้ เป็นความสมัครใจของทุกท่าน ที่มีความพร้อม และเพื่อจะเดินหน้าทำงานในพื้นที่ร่วมกับประชาชน ชี้แจงแนวทางของพรรคได้อย่างเต็มที่

“มีเพื่อน ส.ส.อีกจำนวนหนึ่ง ที่จะมาร่วมกันทำงาน และลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทย แต่ยังมีภารกิจก็ยังไม่ได้ลาออก และไม่ได้มาเมื่อวานนี้ แต่พรรคไม่ได้บังคับ หรือมีเงื่อนไขว่าต้องลาออกเมื่อวานนี้ แต่ได้มีการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองช่วงใกล้ครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร และช่วงปลายรัฐบาล ซึ่งทุกคนที่ต้องการสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา จะประมาทไม่ได้” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

นายภราดร กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย มีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน เมื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็จะทำงานให้ประชาชนได้มากขึ้น ตามแนวทางของพรรค ซึ่งเป็นพรรคคนทำงาน การเลือกตั้งครั้งต่อไป หากประชาชนให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย เราก็พร้อมจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี

“ในเรื่องของการเสนอแคนดิเดตผู้จะเป็นนายกรัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทย มีแนวทางชัดเจนมาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ว่า พรรคจะเสนอ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว เพราะเห็นว่า การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรจะมีเพียงชื่อเดียว ไม่ต้องมีตัวสำรอง แม้กฎหมายจะอนุญาตก็ตาม แต่ พรรคภูมิใจไทย เห็นว่า เราต้องแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ เนื่องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีเพียงตำแหน่งเดียว พรรคควรจะเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมที่สุด เพียง 1 คนเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค ที่จะใช้ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ ในการเลือกตั้งอย่างไร ก็เป็นสิทธิของพรรคการเมือง และเป็นการพิจารณาของประชาชน” นายภราดร กล่าว

ภาพ พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

ค่าแรง 600 บาทนั้น ถือว่าเป็นความผิดพลาดทางนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย อย่างเต็มที่ ทั้งๆ ที่รู้ว่า ถ้าใช้แรงงานขั้นต่ำในอัตรานี้ คนไทยจะได้ประโยชน์น้อยมาก แต่แรงงานต่างด้าวจะได้ประโยชน์สูงสุด และจะส่งผลทำให้มีการหลบหนีเข้าเมืองอย่างมโหฬาร

ส่วนแรงงานไทยที่มีฝีมือส่วนใหญ่ได้ค่าแรงในระดับนี้อยู่แล้ว บางคนอยู่ในระดับ 1,000 บาทด้วยซ้ำ ดังนั้น จะไปขึ้นค่าแรง 600 บาท ให้เป็นฐานในการขอขึ้นราคาสินค้าต่างๆ เช่น จะทำให้ข้าวแกงเพิ่มราคาขึ้นเป็น จานละ 70-80 บาทไปทำไม (วะ)

การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งที่ผ่านมา ก่อนเกิดโควิดเล็กน้อย ทางกระทรวงแรงงาน มีการขอรับความคิดเห็นจากคนงานและผู้ประกอบการทุกภาค ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก โดยตรง ว่า ควรจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำขนาดไหน เพื่อป้องกันนายจ้างเอาเปรียบ แต่คนงานเกือบ 70% ตอบกลับมาว่า ไม่ขอขึ้นกลัวตกงาน อีก 20% บอกว่า ควรขึ้นเพียงเล็กน้อย อีก 10% ไม่ได้แสดงความคิดเห็นกลับมา

นอกจากนั้น การขึ้นค่าแรงเกินมาตรฐานนั้น ควรรู้ว่าผู้ประกอบการจะต้องรับภาระค่าแรงให้กับคนงานเก่าตามไปด้วย ยุ่งแน่ๆ

ปัจจุบันนี้เวียดนามก็ได้เปรียบเราอยู่แล้วในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ถ้าขึ้นสูงไปอีก คงไม่มีใครมาลงทุนในไทยแน่ๆ สักแต่มีปากพูดหาเสียง โดยไม่เคยคิดถึงความจริง เอาแต่จะคิดหาประโยชน์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว

อย่าอ้างคุณชัชชาติ เพราะแกหาเสียงแล้วอันไหนทำไม่ได้ แกก็ไม่ทำ แต่ไม่มีใครเดือดร้อน แล้วก็เป็นเรื่องแค่คนใน   กทม.เท่านั้น ไม่เดือดร้อนไปทั้งประเทศ แบบนี้แค่หาเสียงยังผิดพลาดแบบตื้นๆ แล้วจะมาเป็น นายกฯไม่พังกันไปทั้งประเทศหรือไง หรือจะใช้เรื่องนี้มาปิดข่าวอื่น ซึ่งทำอย่างไรก็คงปิดไม่มิด ไม่หมดแน่นอนครับ

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ คำพูดของ “บิ๊กตู่” ที่ดูเหมือน ทำใจได้แล้ว กับตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” หากไม่สามารถเป็นต่ออีกสมัย หรือ 2 ปีที่เหลือ

ยิ่งกว่านั้น ยังดูเหมือนพร้อมส่งมอบตำแหน่งที่แบกภาระประเทศอันหนักอึ้งต่อให้คนอื่น รวมถึงฝากให้ประชาชนช่วยกันดูแลก็ตาม

ถ้าเป็นคนอื่นพูดอย่างนี้มีนัยยะอย่างแน่นอน แต่สำหรับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น