เกษตรกรรุ่นใหม่เจ้าของสวนหนูแดงฝรั่งหงเป่าสือ ที่ บ้านเกาะ สมุทรสาคร ค้นพบวิธีการตลาดในแบบของตนเอง ไม่ง้อแผงค้าไม่พึ่งคนกลางที่กดราคา ใช้ทักษะแม่ค้าออนไลน์ขายเองราคาหน้าสวน เน้นคุณภาพ ใครได้ชิมก็ติดใจมีเท่าไรถูกจองเกลี้ยง!!
แบงค์-บัญชา และหนูแดง-สุพรรษา ชาวบ้านเกาะ เกษตรกรรุ่นใหม่เจ้าของสวนฝรั่ง “หงเป่าสือ” บนเนื้อที่ผลิต 5 ไร่ ในเขตตำบลบ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่วันนี้กำลังทำเงินให้อย่างดีมาก ๆ หลังชิมรางในการออกผลผลิตมาตั้งแต่ต้นปี2565 ถึงตอนนี้ จากต้นอายุ 2 ปีเศษแล้ว โดยฝ่ายการตลาด “หนูแดง” บอกกับเราว่า สำหรับฝรั่งหงเป่าสือเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่และยังถือเป็นอาชีพการเกษตรอย่างเต็มตัวครั้งแรก ของตนเองและก็สามีด้วย โดยก่อนหน้านี้ ใหม่ ๆ ยังไม่รู้จะเริ่มต้นกันอย่างไร ปรากฏก็ไปเช่าแผงขายอยู่ในตลาดเอาไว้ และต้องวางเงินไปกว่า 2 แสน! ในขณะที่ตอนนั้นฝรั่งเองก็ยังออกไม่เต็มที่ดีนัก ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเปิดในราคาที่ค่อนข้างแรงอยู่คือ 100 บาท/กก. ใคร ๆ ก็ว่าฝรั่งอะไรทำไมแพงจัง! สาเหตุมาจากการที่มีภาระค่าเช่าที่ด้วยในตอนนั้น
“ตอนที่หนูขายครั้งแรกเลย หนูก็จะไปเช่าที่ขายอยู่นะคะหนูขายกิโลกรัมละ 100 บาท ตอนนั้นก็คือว่าหนึ่งราคาแรงด้วย สองผลผลิตยังน้อยอยู่ ความต้องการก็ยังเฉย ๆ อยู่ แต่พอสักพักหนึ่งลูกค้าได้ทานแล้วเขารีวิวให้หน้าเฟชบุ้กเรา การันตี คนนี้แท็กคนนี้ ๆ เพื่อนของเพื่อน ๆ เริ่มเห็นแล้ว พอเริ่มเห็นก็อยากชิม พอดีกับที่ผลผลิตเราเริ่มออกแล้ว ก็เริ่มขายได้แล้วเริ่มมีกำลังใจ เราก็เลยมองแล้วว่าการเช่าแผงกับผลผลิตของเรา ถ้าเราอยากขายได้เยอะ เราก็ต้องไปลดต้นทุน เราจะมองหาไงดี? อาศัยเราขายเองดีกว่ามั้ย ก็คือว่าพอเราขายเองเราไม่ต้องไปเสียค่าที่ ลูกค้าก็ออนไลน์ก็คือทั่วไปหมดเลย อย่างเพื่อนเราก็วิ่งมาเอาที่บ้านหรือหน้าสวนได้ อะไรอย่างเงี้ยค่ะ คือมันเริ่มกว้างแล้ว พอเริ่มกว้างแล้วเราก็ปล่อยวางเรื่องการเช่าที่มาขายเอง คือเราก็เซฟตรงนั้นมาลดต้นทุน จากโลละ100 ก็เหลือแค่ กิโลละ 50 บาท เพราะเราขายหน้าสวนเราไม่ต้องเสียค่าเช่าที่แล้ว”
ปลูกฝรั่งหงเป่าสือ 5 ไร่ ที่ตอนแรกใคร ๆ ก็ไม่เห็นด้วย!
หนูแดง เล่าให้ฟังว่า เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นสวนมะม่วงอยู่ก่อนหน้ามานานหลายปีแล้ว โดยคุณพ่อของแบงค์จะมีปลูกมะม่วงมันขุนศรีเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่ทำกันมาตามแนวถนัดเดิม จนกระทั่งพอแบงค์ได้ลองไปชิมรสชาติของฝรั่งพันธุ์ใหม่จากไต้หวันมา ชื่อว่าสายพันธุ์ “หงเป่าสือ” แล้วรู้สึกว่ามันอร่อยดีนะฝรั่งพันธุ์นี้ ก็เลยอยากจะลองปลูกดู โดยขอแบ่งซื้อพันธุ์มาจากเจ้าของต้นซึ่งเขาเองมีการนำเข้าพันธุ์ดีมาจากไต้หวัน ในราคาซื้อมาตอนนั้นกิ่งละ 200 บาท ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่มาขอแบ่งพื้นที่เพื่อจะลองปลูกฝรั่งพันธุ์ใหม่นี้ ปรากฏว่าคุณพ่อเองรวมทั้งอีกหลาย ๆ คนต่างก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไร มันจะขายได้จริงไหม แล้วใครจะกิน? แต่ว่าในที่สุดพ่อก็ยอมให้ลองปลูกกันดู ทั้งหมดจำนวน 5 ไร่ (400 ต้น) ซึ่งในช่วงระหว่างที่รอผลผลิตนั้นแบงค์เองก็มีงานฟรีแลนซ์(ช่างภาพและกราฟิก) ที่ทำอยู่ก่อนหน้าแล้วตั้งแต่หลังเรียนจบ ป.ตรี มา และส่วนตนเองคือทำอาชีพค้าขายมาตลอด กับเป็นแม่ค้าออนไลน์ขายพวกเสื้อผ้าควบคู่ด้วย
ผลผลิตทยอยออกเป็นรุ่น การตัดส่งจะนัดเป็นแต่ละรอบ ๆ ไป
“ฝรั่งพออายุได้แล้ว เราเริ่มไว้ลูกเพื่อจะเอาผลผลิตควบคู่ไปกับการบำรุงดูแลต้นให้สมบูรณ์อยู่ตลอด ก็จะทยอยออกเรื่อย ๆลูกออกมาเราก็ห่อ ออกมาเราก็ห่อ เป็นชุด ๆ ไปอย่างเงี้ยค่ะ ก็จะมีเว้นช่วงบ้างไม่ได้ตัดทุกวัน แบบว่าเดือนหนึ่งก็จะมีช่วงเว้นบ้างให้เราได้พักและก็ดูแลต้นด้วย”
โดยหลังจากออกดอกถึงติดผล ขนาดเท่าเหรียญ 2 บาทจะเริ่มห่อ จนไปถึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน หนูแดงบอกว่าฝรั่งถ้าเริ่มห่อเร็วจะทำให้ผิวออกมาสวย เทคนิคการห่อผล คือ อันดับแรกจะห่อด้วยถุงพลาสติก(ยี่ห้อแม็คโคร) ช่วยป้องกันแสงแดดให้อีกชั้นหนึ่ง และตามด้วยการห่อกระดาษปรูฟที่คลุมไว้ชั้นบนของการห่อผล ซึ่งที่สวนจะใช้แบบนี้ทั้งถุงพลาสติกและก็กระดาษห่อ การใช้งานเพียงครั้งเดียวแบบรอบต่อรอบเท่านั้น ซึ่งพอเก็บเกี่ยวผลได้แล้วก็จะต้องตัดโดยใช้กรรไกรตัด ถือเป็นการตัดแต่งกิ่งและเล็มกิ่งที่เสียออกไปพร้อมในคราวเดียวกัน จากนั้นก็บำรุงดูแลต้นให้สมบูรณ์อยู่ตลอดพร้อมให้ผลผลิตรุ่นต่อไป
รสชาติดี เพราะได้เปรียบ “ดิน 3 น้ำ” จืด-กร่อย-เค็ม ที่พอเหมาะ!
“เวลาลูกค้าสั่งก็จะบอกเราว่า เอาแบบเนื้อนุ่มบ้าง กรอบบ้าง ผสมกันมานะ เราก็ตามใจลูกค้าค่ะ หนูจะหยิบรวมกันไปให้ ลูกค้าสั่งได้เลยชอบแบบไหนเนื้อกรอบ เนื้อนุ่ม แต่ถ้าเกิดมีเวลามันจะเป็นรอบใช่มั้ยคะ จะมีรอบส่งต่างจังหวัดอย่างเงี้ยค่ะ ก็จะเก็บเนื้อที่เป็นแบบว่า “ห่าม” นิดนึง พอถึงลูกค้าก็กำลังอร่อยเลย เพราะจัดส่ง 1 วันค่ะ”
ด้าน “แบงค์” ได้เสริมเรื่องของรสชาติให้ฟังด้วย สำหรับฝรั่งหงเป่าสือจะมีความเด่นทางด้านรสชาติที่นำของพันธุ์นี้ คือ หวานอมเปรี้ยว แต่ว่าพอมาปลูกอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นเขตที่มีดินเป็นแบบ 3 น้ำ (จืด-กร่อย-เค็ม) ก็เลยจะทำให้ค่อนข้างมีความ “หวาน” และความครบรสที่ว่า “เปรี้ยวอมหวาน” จะมีความเข้มข้นขึ้นมากว่าที่ปลูกในเขตอื่น รวมทั้งกลิ่นก็จะชัดขึ้นด้วย “ก็คือว่าที่นี่ดินเขาเป็นดินที่มีรสชาติ เวลาปลูกอะไรก็แล้วแต่ ผลไม้ที่ตำบลบ้านเกาะเนี่ย จะมีรสชาติที่เข้มข้นเป็นเอกลักษณ์เลย อย่างถ้าเป็นมะพร้าวน้ำเขานี่จะหวานนะครับ ถ้าเป็นผลไม้ชนิดอื่นคือที่นี่มันปลูกอะไรก็จะหวาน เพราะดินเขาจะมีรสชาติอมเค็มนิด ๆ อย่างที่อื่นที่เขาบอกว่าเอาเกลือหรือขี้แดดนาเกลือไปโรยก็จะหวาน แต่ที่นี่ไม่ต้องเลย ที่นี่เขาจะมีรสชาติอยู่ในดินอยู่แล้วสำหรับดินของตำบลบ้านเกาะนะครับ”
ฝรั่ง 5 ไร่ สร้างรายได้หลายหมื่นบาท/วัน!
ด้วยความที่สวนแห่งนี้จะเน้นทำคุณภาพเป็นหลัก จะตัดฝรั่งให้กับลูกค้าคือจะต้องได้อายุ/แก่จัดเต็มที่แล้วเท่านั้น จะไม่ตัดอ่อนกว่าหรือเผื่อใด ๆ ทั้งสิ้น กอปรกับการดูแลเอาใจใส่อย่างมีความตั้งใจของเจ้าของสวน ดังนั้นเลยทำให้รสชาติของฝรั่งที่ได้พอใคร ๆ ชิมแล้วก็ติดใจกันทุกคน ซึ่งหลังจากเจาะตลาดออนไลน์หันมาขายผ่านช่องทางนี้เป็นหลักแทน หนูแดงบอกว่า แต่ละรอบที่จะมีการตัดฝรั่งในรุ่นที่พร้อมเก็บเกี่ยว การบอกกล่าวเพื่อให้ลูกค้าได้ทราบว่าสวนจะเปิดขายฝรั่งแล้ว โดยตนเองก็จะโพสต์ผ่านเฟซบุ้กส่วนตัวหรือในเพจกลุ่มฯ ที่เป็นสมาชิกอยู่ด้วย เนื้อหาของการโพสต์บางทีก็จะออกแนวแบบฮา ๆ ตามสไตล์ของตนเอง พร้อมแอบนัดแนะด้วยข้อความที่ระบุไว้เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจฝรั่งได้สั่งจอง หรือพรีออร์เดอ เข้ามาก่อนซึ่งปรากฏว่า ทุกครั้งไม่นานนักก็มียอดจองเข้ามาจนเต็ม! ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นคนในละแวกและมีจากต่างจังหวัดด้วย
จากราคาจำหน่ายที่หน้าสวนตั้งเอาไว้ คือ กิโลกรัมละ 50 บาท และแบบคัดพิเศษ 80 บาท/กก. ด้วย หนูแดงบอกว่า กลุ่มลูกค้าจะมีทั้งแบบซื้อไปบริโภคเองด้วย จะสั่งทีละมากกว่า 1 กก.ขึ้นไป น้อยมากต่อคนที่จะสั่งเพียงแค่กิโลเดียว กับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งจะเป็นลักษณะของอาชีพใหม่ในยุคนี้ นั่นก็คือการรับจ้าง “หิ้ว” เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอที่ตนเองได้รับมา แต่ทว่าจากการผลิตที่ยังมีน้อยรวมถึงคนทำงานหลัก ๆ ซึ่งก็จะมีแค่ตนเองกันสามี ที่ช่วยกันทำเพียง 2 คน ดังนั้นการตัดฝรั่งส่งต่อรอบก็จะถูกจำกัดด้วยแรงงานที่มีอยู่ โดยเฉลี่ยต่อวันก็จะตัดได้ประมาณ 300-500 กก. หรืออย่างเต็มที่เลยคือ 1,000 กิโลกรัมหรือ 1 ตัน/วันเท่านั้น กลายเป็นอาชีพหลักที่ต้องมาช่วยกันอย่างเต็มตัวแล้ว นอกจากนี้ในช่วงที่มีการห่อผลกับตัดหญ้าในแปลงผลิตจำเป็นจะต้องจ้างแรงงานเข้ามาช่วยบ้าง
“ทุกวันนี้ลูกค้ารอแล้ว ออร์เดอจะเต็มครั้งต่อครั้ง เพราะว่าเราปักหมุดไว้ใช่มั้ยคะ อย่างเมื่อวานเราก็ไล่ส่งออร์เดอของวันนี้กันไปแล้ว เพราะเรารู้ว่าเราจะมีธุระเรื่องงานด้วย เราอยากให้คนทานบอกตรง ๆ เลยว่า ถ้าเราคิดมาทำแล้ว เราอยากให้คนทานได้ราคาที่สมเหตุสมผล เราได้ ไม่ขาดทุน และก็ลูกค้าได้ทานของอร่อย อยากให้ลูกค้าเปิดใจในผลผลิตใหม่ ๆ ด้วย ทุกวันนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ แล้วก็ลูกค้าชอบมาก” แม่ค้าคนสวยกล่าวทิ้งท้ายในที่สุด
ขอบคุณ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และฟอร์ด(ประเทศไทย) ในการลงพื้นที่ทำข่าวครั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.089-333-3801 fb: หนู แดง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *