ฝรั่งเป็นพืชที่เกิดตาดอกจากกิ่งอ่อนเสมอ ดังนั้นถือเป็นเทคนิคสำคัญที่ชาวสวนใช้ในการบังคับนอกฤดู ผลิตฝรั่งให้ออกตรงช่วงที่ขายได้ราคาแพงกว่า ใช้วิธีการตัดแต่งหรือการโน้มกิ่งเท่านั้น!
หลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้วก็เข้าทำงานประจำ ทำอยู่ที่แบงก์ออมสินได้สักพัก “เจ๊ป้อย-วราภรณ์ ขุนพิทักษ์” เล่าว่า ก็เลยลาออกมาผันตัวสู่การทำสวนฝรั่งอย่างจริงจัง อาศัยประสบการณ์จากเห็นพ่อแม่ทำอาชีพนี้มานาน แต่ว่าสมัยก่อนฝรั่งที่ปลูกกันอยู่ก็จะเป็นพันธุ์ “แป้นสีทอง” กับ “กลมสาลี่” เป็นหลัก ซึ่งพอเริ่มนานวันเข้าราคาที่ได้กลับไม่ค่อยเป็นใจนัก เจอราคาบาทถึง 4 บาท/กก. ก็มี พอดีในช่วงนั้นเริ่มมีพันธุ์ใหม่ “ฝรั่งกิมจู”ที่เข้ามาก็เลยลองปลูกดู สรุปเพียงมีดแรกที่ตัดก็ขายได้ 18 บาท!ทันทีจากปลูกอยู่เพียง 2 ไร่เท่านั้นซึ่งย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และจากนั้นมาจึงขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันปลูกกิมจูแล้วกว่า 23 ไร่ กับพันธุ์ใหม่ “หงเป่าสือ” มี 2 ไร่(400 ต้น) ที่กำลังให้ผลผลิตอยู่ด้วย และเตรียมปลูกใหม่เพิ่มอีก 5 ไร่ (1,000 ต้น) รวมเป็นพื้นที่ผลิตทั้งหมดเต็ม 30 ไร่
“กิมจู ต้องบอกว่ายังติดตลาดอยู่เลยนะคะ เพราะว่าอย่างช่วงนี้(ก.พ.) ฝรั่งขาดตลาด ราคาเนี่ยจากสวน 30 กว่าบาท
แถมเวลาถูกตอนนี้ก็ไม่ถูกมาก อย่างปีที่แล้วที่ผ่านมาถูกมากอยู่ที่ประมาณ 18 บาทเองค่ะ ถือว่ายังไปได้ดี แล้วเวลาถูกกิมจูจะมีช่วงถูกน้อย ปีนึงอาจจะเจอถูก 1-2 ครั้ง แล้วครั้งนึงอาจจะเจอแค่เดือนเดียวเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นราคาที่แบบแพงตลอด อยู่ได้ค่ะน่าสนใจอยู่สำหรับกิมจู”
แม้ว่าจะเคยเห็นและคลุกคลีมากับสวนฝรั่งแต่เด็ก ๆ เจ๊ป้อยบอกว่าพอเวลามาทำเองจริงจังมันกลับไม่ได้ง่าย เพราะจะต้องเรียนรู้เพิ่มใหม่ในหลาย ๆ เรื่องที่นอกจากการผลิตแล้ว จากการที่เขตนี้ ย่านคลองจินดา อ.สามพราน ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตพืชและไม้ผลต่าง ๆ มานานการรับมือกับโรค-แมลงศัตรูมีอยู่พอสมควรเลย ปัญหาหลัก ๆ ของฝรั่งเช่น เพลี้ยอ่อน แมลงวันทอง และเพลี้ยไฟ-ไรแดง ต้องอาศัยความมีวินัยในการจัดการดูแลไม่ว่าจะเป็น การให้น้ำ-ให้ปุ๋ย การฉีดยาเพื่อควบคุมป้องกัน รวมทั้งการห่อผลก็มีส่วนช่วยลดการเสียหายได้มากเช่นกัน ต่อมาสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าขึ้นไปอีกก็คือว่า การทำอย่างไรให้ขายฝรั่งได้ราคาดีมีกำไรที่คุ้มค่ากว่า ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนที่ดีด้วย
“เริ่มแรกเรา ก็เริ่มจด จดราคาว่าช่วงไหนมันแพง/มันถูก จดไว้หลายปีอยู่ค่ะ และก็มาเทียบดูว่าฝรั่งจะแพงเดือนไหน/ถูกเดือนไหน แล้วเราก็เริ่มนับหลังจากวันที่ทำการโน้มกิ่ง กี่วันจะตัดได้ เสร็จแล้วเราก็มาไล่ดูว่าเดือนนี้มันได้ราคาปุ๊บ เราก็ไล่ย้อนกลับไปเราต้องโน้มเดือนนี้ เพื่อให้มันออกเดือนนี้ เราทำอย่างนี้อยู่ประมาณ 2-3 ปี เราก็รู้ว่ามันตรงจริง ๆ หลังจากนั้นเราก็จับเรื่อยมา ว่าเราต้องโน้มเดือนนี้นะเพื่อที่มันจะได้ตัดเดือนนี้ แต่ตอนนี้..มันเปลี่ยนไปแล้ว เดี๋ยวนี้เรามีกลุ่มเกษตรเพิ่มมากขึ้น พอทุกคนรู้แล้วว่าจะต้องโน้มกิ่งเดือนไหน จะได้มาออกเดือนไหน ตอนนี้เราก็ต้องจับกระแสใหม่! คือเราดูในกลุ่มก่อนสมมุติว่ามีคนโพสต์ห่อเยอะ-ลูกเยอะ เราจำเป็นจะต้องเลี่ยงไปจากเขา คือทำยังไงก็ได้ ห่อให้น้อยลงหรือพยายามโน้มกิ่งแทนเพื่อจะหนีจากเขา ทำให้เรามีตัดในช่วงที่เขาตัดหมดต้นแล้ว ซึ่งถ้าทำแบบนี้ได้อันนี้จะตรงราคาได้อยู่ค่ะ”
ฝรั่งเป็นพืชที่หลังจากปลูกโตเต็มที่ 1-2 ปี ก็จะออกดอก-ติดผลให้เป็นปกติ การปลูกด้วยกิ่งตอนก็จะให้ผลเร็วกว่าปลูกด้วยเมล็ด ตาดอกของฝรั่งจะออกในกิ่งที่เป็นกิ่งอ่อน แต่การบังคับฝรั่งให้ออก “นอกฤดู”ก็สามารถทำได้เช่นกัน วิธีการที่นิยมใช้กันอยู่ 1. การตัดแต่งกิ่ง ทำให้ฝรั่งมีกิ่งก้านเพิ่มพร้อมการแทงตาดอกออกมาด้วย กับ 2.การโน้มกิ่งในอยู่แนวระนาบ โดยการนำกิ่งที่อยู่สูงโน้มลงมาและมัดไว้กับกิ่งอื่นหรือไม้ค้ำ ตัดยอดสักหน่อย ก็จะทำให้ฝรั่งแตกกิ่งและออกดอกได้ แต่ก็ต้องดูแลเรื่องการให้น้ำ-ให้ปุ๋ยแก่พืชอย่างเพียงพอ เจ๊ป้อยบอกว่า การทำนอกฤดูมีส่วนช่วยเรื่อง “ราคา” ได้เป็นอย่างมากทีเดียว ซึ่งหลังจากวางแผนได้แล้วว่าจะให้ออกในช่วงเดือนไหนที่ขายได้ราคาดีกว่า จากนั้นก็ทำการโน้มกิ่งและนับไปอีกราว5-6 เดือน ก็จะเริ่มตัดฝรั่งขายได้อีกครั้ง เทคนิคนี้รวมทั้งการดูแลต่าง ๆ ทั้งกิมจูและหงเป่าสือจะใช้แบบเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็ไม่ต่างกันเลย
“ที่สวนของเรา 30 ไร่เต็มเนี่ยนะคะ ไม่ได้ส่งพ่อค้าคนกลางเลยนะ ส่วนหนึ่งเราจะส่งห้างแม็คโคร ส่งตรงเข้าบางสาขาของแม็คโคร ส่วนที่สองเราจะส่งเข้าโรงงานเพื่อไปทำการตัดแต่ง เป็นแบบผลไม้พร้อมรับประทาน และก็ส่วนที่สามเราจะขายผ่านออนไลน์ ขายทุกเกรดเลย ทั้งในเบอร์ที่ส่งห้างไม่ได้หรือส่งโรงงานไม่ได้เราก็จะขาย ออนไลน์ เราก็จะมีแบบแพ็กโฟมส่งไปถึงบ้านสำหรับคนที่ซื้อปลีกก็มีค่ะ ที่สวนจะมีเพจ : สวนฝรั่งกิมจูวราภรณ์ เราก็ขายผ่านเพจหรือโฆษณาผ่านเพจเป็นหลักแบบนี้ค่ะ
ก็จะมีลูกค้าสอบถามเข้ามาเกือบทุกวัน”
เจ๊ป้อยบอกด้วยว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมาถือว่าสวนแทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย การขายผ่านช่องทางออนไลน์ช่วยได้มากทำให้ยิ่งขายดีกว่าด้วยซ้ำ และตอนนี้มี "หงเป่าสือ” ที่เพิ่มเข้ามาด้วยเป็นฝรั่งที่กินอร่อยมาก รสชาติเปรี้ยวอมหวาน แม้ว่าราคาทั้งกิ่งพันธุ์เองและผลยังสูงกว่าอยู่สักหน่อยแต่ว่าก็ได้ผลตอบรับจากลูกค้าดีมากไม่แตกต่างจาก “กิมจู” เลย จากตอนแรกซื้อมา 2 กิ่งเพราะราคาแพงเกิน ตอนนี้หลังจากที่มีการขยายพันธุ์เพิ่มได้เองก็เตรียมจะขยายจาก2 ไร่ที่กำลังให้ผลผลิตอยู่ ปลูกเพิ่มอีกกว่า1,000 ต้นด้วย
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 097-043-8939
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *