xs
xsm
sm
md
lg

เทรนด์เบียร์กาแฟโตสวนกระแส “ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์” ยึดตำแหน่งเบียร์ผสมกาแฟสกัดเจ้าแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ ทำคะแนนดีต่อเนื่องหลังเปิดตัวในตลาดเบียร์ทางเลือก (Specialty Beer) ได้ไม่นาน โดยมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นสวนกระแสการเติบโตของตลาด ครองตำแหน่งเบียร์ผสมกาแฟสกัดเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย มุ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสายคราฟต์ที่ชอบทดลอง และหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดื่ม ด้วยความพิเศษของรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมความหอมที่โดดเด่นของกลิ่นกาแฟคั่ว

จากเมล็ดกาแฟที่คัดสรรจากแหล่งผลิตที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน 3 ประเทศ ไทย ลาว และเวียดนาม ผ่านกรรมวิธีการปรุงเบียร์โดย ช้าง บรูว์ มาสเตอร์ ทีม (Chang Brew Master Team) ที่ได้มาตรฐานระดับโลก การันตีคุณภาพทุกหยดภายใต้แบรนด์ช้าง

เมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา นักดื่มทั่วประเทศต่างให้ความสนใจสินค้าใหม่จากฝั่ง “ช้าง” ที่แอบเปิดตัวแบบเงียบๆ แต่สร้างกระแสอย่างถล่มทลายให้นักดื่มต่างออกมาตามหา และตั้งคำถามถึงความแปลกตาจากรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ และความแปลกใหม่ของรสชาติที่ไม่เคยมีมาก่อน กับ ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ (Chang Espresso Lager) ที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นลาเกอร์เบียร์ผสมกาแฟสกัด (Coffee Infused Beer) เจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย


มร.เลสเตอร์ ตัน ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล (จำกัด) กล่าวว่า “ผู้บริโภคในปัจจุบันให้คุณค่ากับความละเมียดในการใช้ชีวิต ซึ่งก็คือการใส่ใจในรายละเอียดและความซับซ้อนของสิ่งที่เลือกให้ตัวเองมากขึ้น และความละเมียดในที่นี้ ยังชื่อมโยงกับความพรีเมียม แปลกใหม่ และการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” การส่ง ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ ลงแข่งในตลาดเบียร์เป็นการสร้างสีสันให้ตลาด มุ่งตอบโจทย์กลุ่มคอเบียร์ที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มองหาประสบการณ์และบรรยากาศที่ดีในการดื่มให้แก่ตัวเองอยู่เสมอ 

ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ นับว่าเป็นนวัตกรรมการผลิตเบียร์ที่ผสมผสานลาเกอร์เบียร์เข้ากับกาแฟสกัดออกมาได้อย่างลงตัว ถือว่าครั้งนี้ช้างกล้าเขย่าวงการเบียร์กลุ่มทางเลือก (Specialty Beer) ด้วยการนำเสนอสินค้าที่ไม่เคยมีในตลาดมาก่อน และผลที่ได้รับคือกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักดื่มทั่วไปที่อยากทดลองอะไรใหม่ๆ หรือสายคราฟต์ที่สนใจความมีเอกลักษณ์ ยังรวมไปถึงกลุ่มคอกาแฟซึ่งถือเป็นการเจาะอีกฐานกลุ่มลูกค้า และยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงอีกด้วย”

ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ เติบโตได้ดีอย่างสวนทางกับการเติบโตของตลาดเบียร์ทางเลือกโดยรวม (Specialty Beer Market) จากกระแสการตอบรับที่ดีของกลุ่มลูกค้าที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วางขาย การันตีคุณภาพภายใต้แบรนด์ช้างที่ให้ความสำคัญต่อทุกหยดของน้ำเบียร์ ผ่านกรรมวิธีการปรุงจากช้าง บรูว์ มาสเตอร์ ทีม (Chang Brew Master Team) ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงเบียร์กับประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ที่ออกแบบกรรมวิธีการปรุงเบียร์สุดพิเศษ ให้ได้น้ำเบียร์ที่มีคุณภาพและรสชาติที่ถูกใจนักดื่มชาวไทย ซึ่งช้างให้ความสำคัญเรื่องการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการดื่มและครองใจลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมาโดยตลอด

ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ เบียร์คุณภาพมาตรฐานระดับสากล ตามแบบฉบับเบียร์ช้าง ถูกคิดค้นโดย ช้าง บรูว์ มาสเตอร์ ทีม (Chang Brew Master Team) ผู้ปรุงเบียร์ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันสอนการปรุงเบียร์ระดับโลกและประกาศนียบัตรจากหลากหลายสถาบันเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง เช่น สถาบัน The Scandinavian School of Brewing ประเทศเดนมาร์ก, สถาบัน The Versuchs - Under Lehranstalt fuer Brauerei ประเทศเยอรมนี และสถาบัน International Centre for Brewing and Distilling (ICBD) Herion-Watt University ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งได้ร่วมกันรังสรรค์สูตรน้ำเบียร์จากวัตถุดิบที่เลือกมาอย่างพิถีพิถัน มอลต์ ฮอปส์ และน้ำที่ได้มาตรฐาน ผสมผสานอย่างลงตัวกับเมล็ดกาแฟสองสายพันธุ์ อะราบิกา และโรบัสตา โดยช้างเลือกที่จะใช้เมล็ดกาแฟที่เพาะปลูกโดยเกษตรกรท้องถิ่นบนพื้นที่ที่ยึดหลักวิถียั่งยืน (Sustainability) จาก 3 ประเทศ ไทย ลาว และเวียดนาม

- ประเทศไทย​ เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิกา ชุมชนเกษตรกร จังหวัดน่าน
- ประเทศลาว  เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิกา จากไร่ปลูกกาแฟบนพื้นที่ราบสูงโบลาเวน เมืองปากซอง
- ประเทศเวียดนาม เมล็ดกาแฟโรบัสตา จากแหล่งเพาะปลูกที่ราบสูงภาคตะวันตก ตอนกลางของประเทศ

เป็นที่มาของคำว่า Asian Blend บนบรรจุภัณฑ์ ที่หมายถึงการนำเมล็ดกาแฟที่เป็นผลิตผลที่มีคุณค่าของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาใช้ และสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืนของชุมชนในท้องถิ่น ส่งผลต่อการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมต่อไป

การเลือกเมล็ดกาแฟ ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของ ช้าง บรูว์ มาสเตอร์ ทีม (Chang Brew Master Team) ที่ต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้เรื่องการนำกาแฟมาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบการผลิตที่ไม่เคยทำมาก่อน เป็นการเปิดกว้างองค์ความรู้ที่มากกว่าการ Brew Beer นั่นคือการ Brew Coffee ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ (แอลกอฮอล์ 4.8 เปอร์เซ็นต์) จะมีปริมาณกาเฟอีนจากเมล็ดกาแฟเพียง 5 มิลลิกรัมต่อปริมาตร 490 มิลลิลิตร ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มทั่วไปปริมาณกาเฟอีนถึง 140 มิลลิกรัมต่อปริมาตร 180 มิลลิลิตร แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษาและคิดค้นอย่างมุ่งมั่นของช้าง บรูว์ มาสเตอร์ ทีม (Chang Brew Master Team) คือเบียร์ผสมกาแฟสกัด (Coffee Infused Beer) ที่ยังคงความหอมของเมล็ดกาแฟคั่วที่โดดเด่น ถูกปากนักดื่ม โดยลูกค้าทุกคนยังสามารถสัมผัสรสชาติของกาแฟและได้รับประสบการณ์ในช่วงเวลาที่ดีจากการดื่มเบียร์ได้เช่นเดิม

ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์ วางจำหน่ายแล้วที่ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วประเทศ และยังคงได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเกินคาดจากกลุ่มลูกค้า จนเริ่มมีการวางแผนสำหรับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองของแบรนด์เครื่องดื่มตราช้าง ในฐานะผู้นำตลาด ที่นอกจากจะวางกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของเบียร์กระแสหลักแล้ว ยังพยายามตอบโจทย์ลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น