xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “บุ๊กโกะ” ลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก เปิดตัว 3 เดือนขายเกือบหมื่นกิโล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก เป็นลูกชิ้นปลาสอดไส้ ไส้ข้างในทำมาจากปลาสับน้ำมันงา ที่สองพี่น้อง บุ๊คโกะ “ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล” และ “เบลเยี่ยม” “ภาวินี บูรณาชีวาวิไล” ที่ได้พยายามคิดออกแบบลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก จนลงตัวที่สูตรลูกชิ้นปลาสอดไส้ปลาสับน้ำมันงา




ไอเดียมาจาก “มันดู” เกี๊ยวในแบบฉบับเกาหลี

ส่วนที่มาของชื่อ “มันดู น้ำแตก” ก็มาจากทั้งสองคนเดินทางไปเกาหลีบ่อย และชื่นชอบการรับประทานมันดู ก็เลยนำไอเดียมันดูเนี่ยมาใช้กับลูกชิ้นของเขา “มันดู” ก็คือเมนูเกี๊ยวในแบบฉบับของเกาหลี เป็นเกี๊ยวที่สอดไส้เนื้อหมูหรือเนื้อวัว หรืออาจจะผสมผักต่าง และพริกไทย เพื่อให้มีกลิ่นหอม เวลารับประทานส่วนใหญ่จะต้องนำไปนึ่ง ใครชอบกินเกี๊ยวบอกเลยว่าไปเกาหลีแล้วต้องห้ามพลาด เพราะเป็นเมนูที่ขายดี และมีให้สั่งตามร้านอาหารเกาหลีทั่วๆ ไป เชื่อกันว่าเมนูมันดูนี้ ถูกนำเข้ามาในเกาหลีตั้งแต่ช่วงราชวงศ์โครยอ จากชาวมองโกล เวลารับประทานกัดเข้าไปน้ำจะแตก และเมื่อบุ๊คโกะคิดทำลูกชิ้น ก็เลยนำไอเดียมันดูมาใช้ เวลากินก็นำไปนึ่งเช่นเดียวกับมันดู และเวลากัดเข้าไปน้ำจะแตก ทั้งหมดเลยเป็นที่มาของชื่อลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก บาย บุ๊คโกะ

ภาวินี (เบลเยี่ยม)
เล่าว่า ตนเองและพี่บุ๊กโกะ ได้เริ่มทำลูกชิ้นปลามันดู น้ำแตก ผ่านมาได้เกือบ 4 เดือน ผลตอบรับออกมาดีมาก มียอดขายไปแล้วกว่า 8,000 กิโลกรัม โดยใช้ช่องทางขายผ่านหน้าเพจ ลูกชิ้นบุ๊กโกะ ไอจี และ อินสตราแกรม เป็นการขายด้วยตัวเอง ไม่ได้มีการตั้งตัวแทนจำหน่าย เพราะในช่วงแรกเคยมีตัวแทนจำหน่าย แต่การมีตัวแทนจำหน่ายอาหารไม่เหมือนกับตัวแทนขาย เครื่องสำอาง หรือสินค้าอื่นๆ เนื่องจากรายละเอียดอาหารต้องการความสดและใหม่ ดังนั้น เพื่อควบคุมรสชาติ ตนเองและพี่บุ๊คโกะ เราเห็นว่า คงจะต้องขายเอง เพื่อป้องกันปัญหา เพราะเราเป็นศิลปินดารา มีคนรู้จักทั้งประเทศ ถ้าขายอาหารไม่มีคุณภาพ มันไม่คุ้มเลยกับการที่เราจะเอาชื่อเสียงมาแลก


จ้างโรงงาน OEM ได้มาตรฐานฮาลาล และอย.

“ส่วนที่มาของลูกชิ้น เริ่มมาจากเพื่อนได้แนะนำให้รู้จักกับโรงงานผลิตลูกชิ้น และเราได้เข้าไปดูโรงงานเห็นว่า โรงงานเขาได้มาตรฐาน เลยตัดสินใจว่าจ้างโรงงานแห่งนั้นช่วยผลิตให้ ก่อนจะได้ลงมือทำการผลิตทางโรงงานเขาได้ส่งลูกชิ้นมาให้เราชิมหลายสูตร ซึ่งตอนนั้นเลือกอยู่หลายสูตรมาก และใช้เวลาร่วมกับทางโรงงาน เพื่อปรับสูตรให้ได้อย่างที่เราต้องการ ใช้เวลานานกว่า 3-4 เดือน จนมาลงตัวกับสูตรลูกชิ้นที่นำออกมาจำหน่าย และทางโรงงานยังผลิตในมาตรฐานของอาหารฮาลาล ลูกค้ากลุ่มฮาลาลก็สามารถซื้อรับประทานได้ และทางโรงงานยังได้มาตราฐาน อย. เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานการผลิตทุกอย่าง ทำให้เรามั่นใจระดับหนึ่ง ส่วนรสชาติเป็นการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งลูกค้าชื่นชอบคงต้องดูจากยอดขาย” เบลเยี่ยม กล่าว

สำหรับที่มา ของการตัดสินใจมาขายลูกชิ้น ของ “บุ๊กโกะ” และ “เบลเยี่ยม” ในครั้งนี้ เบลเยี่ยม เล่าว่า เกิดขึ้นมาจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ธุรกิจที่เบลเยี่ยม ทำกับพี่บุ๊กโกะ การเปิด Bookko Surgery เอเจนซี่ศัลยกรรมความงาม ในการพาคนไทยไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี เกิดสะดุดลง เพราะเดินทางไม่ได้ และไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเดินทางได้ปกติ และถ้ากลับมาเดินทางได้ปกติ และกำลังซื้อจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะพิษเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด ไม่รู้จะฟื้นเมื่อไหร่




วิกฤตโควิด-19 เบนเข็มจับธุรกิจเวลเนส เสริม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เราไม่มีรายได้ แต่ค่าใช้จ่ายของบริษัทต้องจ่ายตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นค่าพนักงาน และอื่นๆ และเพื่อให้บริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เบลเยี่ยมกับ พี่บุ๊คโกะ คิดหาทางออกไว้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำลูกชิ้นขาย ในครั้งนี้ หรือ การหันมาเป็นเอเจนซี่ให้กับคลินิกศัลยกรรมความงามในประเทศ และ การเป็นเอเจนซี่ให้กับกลุ่มธุรกิจเวลเนส ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนี้

สำหรับกลุ่มธุรกิจ “เวลเนส” (Wellness) ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่มาซัพพอร์ตการใช้ชีวิตของเราให้สุขสบายขึ้น อาทิ การแพทย์ การเดินทาง สปา ความงาม ฟิตเนส อาหารเสริม เทคโนโลยี การเงิน และงานสถาปัตย์ เมื่อมาบรรจบกับไลฟ์สไตล์ของคนเจนใหม่ที่ทุ่มเงินทองให้กับการเอาใจใส่ตัวเองทำให้เกิดเงินทุนไหลเวียนในธุรกิจเวลเนสมหาศาล เป็นเหตุผลที่ทำให้เบลเยี่ยม และบุ๊กโกะ เลือกที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจเวลเนส




หลังโควิด ดึงลูกค้าต่างประเทศใช้บริการเวลเนสในไทย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา “เบลเยี่ยม” เล่าว่า เธอได้มีการดิว กับเจ้าของธุรกิจเวลเนสไว้หลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตั้งใจว่าจะพยายามทำให้ได้ทุกภาค เพราะปัจจุบัน เวลเนส ไม่ได้มีเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ในจังหวัดเล็ก บางจังหวัดเริ่มมีแล้ว และการที่เป็นเทรนด์ของคนรักษ์สุขภาพมาแรงในช่วงนี้ โดยเฉพาะเวลเนส เราก็เลยเลือกที่จะทำเอเจนซี่ กับ เวลเนส พยายามจะทำให้ครอบคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ และเมื่อถึงเวลาที่สามารถเดินทางออกต่างประเทศได้ปกติ ตั้งใจว่า จะนำธุรกิจเวลเนส จากประเทศไทย ไปนำเสนอขายลูกค้าในต่างประเทศ ด้วย ที่มองๆ ไว้จะเป็นประเทศจีน และเกาหลี ฯลฯ

นอกจากนี้ เนื่องด้วยประเทศไทย เป็นเสมือนฮับทางด้านเมดิคอล ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และเคยมีต่างชาติ เดินทางเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลในประเทศไทย เรามีเครื่องมือ เทคโนโลยี และนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเก่ง และมีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง สนใจให้เราเป็นเอเจนซี่ หาลูกค้าต่างประเทศให้  แต่ยังติดโควิดอยู่ 


ยอดขายลูกชิ้นปลาพุ่ง เตรียมมุ่งเป้าธุรกิจอาหารอย่างจริงจัง 

เบลเยี่ยม เล่าว่า ในส่วนของการทำลูกชิ้นบุ๊กโกะ จากเดิมเราคิดว่าจะทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกน้อง ไม่ได้คาดหวังรายได้มากนัก แต่พอเราเปิดตัว เดือนแรกก็ตกใจ เพราะสามารถขายได้เป็นพันกิโลกรัม พี่บุ๊กโกะเลยคิดว่า คงจะต้องทำอย่างจริงจัง และมีแผนที่จะมีผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ออกมาภายใต้แบรนด์ของลูกชิ้นบุ๊คโกะ อีกหลายตัว เพราะโดยส่วนตัวครอบครัวของเราก็ชื่นชอบที่จะหาของกินกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะพี่บุ๊คโกะ ชอบอาหารอร่อยมากินอยู่ เรื่อย จึงมั่นใจว่า ถ้าอันไหนที่พี่บุ๊กโกะว่าอร่อย ก็เชื่อว่าต้องอร่อยจริงและขายได้ ส่วนการจะมีโรงงานเองเราคงไม่คิด เพราะประเทศไทยมีโรงงานผลิตอาหารแบบนี้เยอะมากอยู่แล้ว และแต่ละโรงงานเขาก็โดดเด่นต่างกัน เราก็ไปเลือกเอาที่เขาเด่นมาขายดีกว่า

ในส่วนผลงานการทำธุรกิจของ บุ๊กโกะ พิธีกร นักแสดง และดีเจ นักจัดรายการวิทยุ ฝีปากเก่ง คนนี้ ได้เป็นรู้จักจากการได้เป็นพิธีกร และเป็นดีเจเอไทม์ ในค่ายของแกรมมี่ เขาได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากได้มาเป็นพิธีกรร่วมกับดีเจ คนอื่นๆ เช่น มดดำ คชาภา ฯลฯ ส่วนการทำธุรกิจของบุ๊กโกะ เขามีความตั้งใจกับการทำธุรกิจอย่างมาก และธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่น การเป็นเอเจนซี่ ด้านศัลยกรรมความงามจากประเทศเกาหลี ทำให้คนไทย ได้รู้จักอาชีพเอเจนซี่ ศัลกรรมความงาม มาจากดีเจบุ๊กโกะ คนนี้ 


สนใจ FB: ลูกชิ้นบุ๊กโกะ lookchin bookko








* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น