xs
xsm
sm
md
lg

“ปลูกผม” ศัลยกรรมความงามไทย ติด 1 ใน 10 ต่างชาติทั่วโลกเลือกใช้บริการ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วงที่ผ่านมามีการพูดถึงเทคโนโลยีด้านศัลยกรรมปลูกผม ซึ่งเป็นศาสตร์ด้านการแพทย์ที่ไม่ได้มีในการเรียนการสอนในสถาบันด้านการแพทย์มาก่อน ดังนั้น นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมกันเอง และปัจจุบันมีแพทย์ไทยที่ได้ไปร่ำเรียนการปลูกผมจากต่างประเทศมากขึ้น และยังมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีวิทยาการต่างๆ เข้ามาช่วย ทำให้ศัลยกรรมการปลูกผมได้ผลสัมฤทธิ์แบบ 90% และมีการกล่าวถึงกันมากในประเทศไทย

ประเทศไทย เป้าหมายต่างชาติมาใช้บริการศัลยกรรมปลูกผมอันดับต้นๆ

ทั้งนี้ จากความสำเร็จด้านการปลูกผม โดยนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นเป้าหมายของผู้ต้องการใช้บริการปลูกผมจากหลายประเทศทั้งในเอเชีย และยุโรป ซึ่งในเวลานี้บอกได้ว่าประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย และติดหนึ่งใน 10 ของประเทศในโลกที่ต่างชาติเข้ามาใช้บริการศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทย ถ้าไม่เจอสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้

นายแพทย์ ธิติวัฒน์ วีรโรจน์รัชกุล นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปลูกผม เจ้าของคลินิกปลูกผม MHC
MHC คลินิกศัลยกรรมปลูกผมเบอร์ต้นๆ ของไทย

นายแพทย์ ธิติวัฒน์ วีรโรจน์รัชกุล นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปลูกผม เจ้าของคลินิกปลูกผม Million Hair Transplant Center หรือ MHC กล่าวว่า “คลินิกของเราตั้งมา 12-13 ปี เดิมเป็นคลินิกด้านความงามทั่วไปอยู่ที่สนามบินน้ำ แต่มาปรับเป็นคลินิกปลูกผมอย่างเดียวเมื่อครั้งได้ย้ายมาอยู่ที่พระรามเก้า สาเหตุเลือกทำปลูกผมอย่างเดียว เพราะตอนที่เราเริ่มทำศัลยกรรมปลูกผมใหม่ๆ ตอนนั้นมีคลินิกที่ทำศัลยกรรมปลูกผมน้อยมาก เรามองว่าคู่แข่งน้อยน่าจะเป็นโอกาสในการเติบโตที่ดีของเรา และที่มีคลินิกศัลยกรรมปลูกผมน้อยเพราะไม่เคยมีสอนในโรงเรียนแพทย์มาก่อน ต้องไปเรียนในต่างประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่าศัลยกรรมปลูกผมเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมสนใจมาก และเดินทางไปเรียนในต่างประเทศ พร้อมกับศึกษาและนำเข้าวิทยาการเทคโนโลยีใหม่ด้านการปลูกผมเข้ามาใช้ในประเทศไทย”


หลังจากนั้น พอทำการปลูกผมให้คนไข้หลายคนได้สำเร็จ เราก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เกิดการบอกแบบปากต่อปาก ในขณะนั้นมีแพทย์ผู้ให้บริการศัลยกรรมปลูกผมน้อยมาก และประกอบกับการทำศัลยกรรมปลูกผมต้องเสียเวลาในการทำมาก เราต้องฝึกคนและต้องฝึกตัวเอง ที่สำคัญต้องหาอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เราไม่มีเวลาที่จะไปทำอย่างอื่นได้ เป็นเหตุผลที่เลือกทำศัลยกรรมปลูกผมอย่างเดียว

สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในช่วงแรกจะเป็นผู้ชาย ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ปัจจุบันก็มีผู้หญิงด้วย เพราะการทำศัลยกรรมปลูกผมไม่ได้แค่มีผมขึ้นมาเท่านั้น แต่การมีผมจะช่วยปรับในเรื่องของใบหน้าด้วย หรือผู้ที่มีปัญหาแผลเป็น ซึ่งตรงแผลเป็นผมจะมักไม่ขึ้นอยู่แล้ว เราก็ต้องใช้การปลูกผม ซึ่งคือการย้ายรากผมจากจุดหนึ่งมาปลูกตรงที่มีปัญหาและต้องการให้ผมขึ้น


ศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทย

ทั้งนี้ การทำศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นเป็นจำนวนเยอะขึ้น เรียกว่าตลาดโตแบบก้าวกระโดด นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มีเกิดขึ้นเยอะ รวมถึงมีเทคโนโลยีวิทยาการใหม่ๆ อย่างหุ่นยนต์เข้ามาช่วย ทำให้มีคนรู้จักศัลยกรรมปลูกผมมากขึ้น และการใช้บริการของลูกค้า หรือคนไข้ ปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เพราะหลายคนเริ่มเข้าใจและมองว่าปลูกผมเป็นเรื่องปกติ ต่างจากเมื่อในอดีต คนที่มาปลูกผมจะไม่กล้าบอกใครต้องแอบทำ

“ในด้านการเติบโตของศัลยกรรมปลูกผมเมืองไทย มีการเติบโตแบบ 100% ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะผลการรักษาดีขึ้น ด้วยวิทยาการและเทคโนโลยีถูกพัฒนาดีขึ้น ปัจจุบันตลาดปลูกผมทั่วโลกโตขึ้นมากหลายเท่าตัว และเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เมืองไทยมีผู้ก้าวมาสู่ธุรกิจนี้ ปัจจุบันประมาณ 20-30 ราย สำหรับกรณีที่ทำปลูกผมอย่างเดียว และปัจจุบันในกลุ่มศัลยกรรมปลูกผมได้รับความนิยมเป็นอันดับ 3 รองจากศัลยกรรมใบหน้า และรูปร่าง หรือทรวงอก” นพ.ธิติวัฒน์กล่าว


นพ.ธิติวัฒน์กล่าวถึงค่าใช้จ่ายในการปลูกผมแต่ละครั้งว่า ในส่วนค่าใช้จ่าย ตลาดทั่วไป เริ่มต้นที่ 20,000-30,000 บาท ไปจนถึงหลักหลายแสนบาท ขึ้นอยู่กับคุณหมอ ขึ้นอยู่กับเทคนิค สมัยก่อนราคาค่อนข้างสูงมาก เพราะหมอต้องใช้เวลาในการไปร่ำเรียนมา และไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหมือนอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นหมอผู้เชี่ยวชาญจะต้องทุ่มเทกับการทำงานมาก

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย และการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้มีการลดราคาลงมาสู้กัน คุณหมอบางคนที่เพิ่งเข้ามาก็อาจจะมีการลดราคาเพื่อฝึกฝีมือ ดังนั้น ในตลาดมีตั้งแต่ราคาสูงมาก และราคาลดลงมามาก เช่น ถ้าใช้หุ่นยนต์ปลูกผม ราคาสูงมากตั้งแต่ 200,000 ถึง 400,000-500,000 บาท และสำหรับผลลัพธ์ ด้วยเทคนิควิทยาการ ทำให้อัตรารอดของรากผมจากการย้ายการปลูกผมมีมากขึ้น อัตราเฉลี่ยเกิน 90-95%




เทรนด์การปลูกผมเกิดขึ้นแถบยุโรป อเมริกา

ในส่วนตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันคลินิกที่ปลูกผมจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ส่วนในเอเชียจะมี สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ไทย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งในต่างประเทศราคาค่อนข้างสูง อย่างในประเทศญี่ปุ่นราคาสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศไทย และเมื่อเปรียบเทียบความเชี่ยวชาญของคุณหมอ บวกกับเทคโนโลยี วิทยาการต่างๆ ไทยเองสามารถพัฒนาได้เทียบเท่ากับประเทศในแถบยุโรป ทำให้ต่างชาติสนใจเข้ามาใช้บริการปลูกผมในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีประเทศที่มีการทำศัลยกรรมปลูกผมราคาถูกเกิดขึ้น คือ ประเทศตุรกี และประเทศอินเดีย ราคาถูกมาก ทำให้คนหันไปปลูกผมที่ตุรกี กับอินเดียกันมาก แต่ต้องระวังมากเช่นกันสำหรับการปลูกผมราคาถูกทั้งสองประเทศนี้ เพราะจะมีคลินิกที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และก็มีคนไข้ได้รับผลเสียจากการปลูกผมทั้ง 2 ประเทศนี้ค่อนข้างมากเช่นกัน

นพ.ธิติวัฒน์ วีรโรจน์รัชกุล  และ เบลเยี่ยม ภาวินี บูรณาชีวาวิไล เจ้าของ  Bookko Surgery
จากการรายงานจำนวนคนที่ได้รับผลเสียจากการปลูกผมจำนวนมากขึ้น จากการรายงานตัวเลขในที่ประชุมระดับนานาชาติด้านศัลยกรรมปลูกผมที่จัดขึ้น แต่สำหรับประเทศไทย เมื่อเทียบกับทั้ง 2 ประเทศของเราแพงกว่า แต่เรื่องระบบความน่าเชื่อถือด้านสาธารณสุขของประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือกว่าทั้งสองประเทศ เป็นเหตุผลที่ทำให้ต่างชาติสนใจหันมาปลูกผมที่บ้านเรามากพอสมควร

ปัจจุบันตลาดปลูกผมในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดรวมต่อปีกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% ในทุกปี โดยภาพรวมของ MHC อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าถ้าสถานการณ์โควิดคลี่คลายจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทาง MHC จะมีการนำเข้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมปลูกผมของไทยในอนาคต

เบลเยี่ยม น้องบุ๊คโกะ  ก่อนทำการปลูกผม


Bookko Surgery มาเป็นเอเยนซีให้ MHC

นอกจากนี้ “บุ๊คโกะ” ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล และ “เบลเยี่ยม” ภาวินี บูรณาชีวาวิไล เจ้าของ Bookko Surgery เอเยนซีศัลยกรรมความงามที่โด่งดังจากการทำเอเยนซีด้านศัลยกรรมเกาหลี ได้เข้ามาเป็นเอเยนซีให้แก่คลินิกปลูกผม Million Hair Transplant Center ซึ่งที่มาของการมาเป็นเอเยนซี ให้ MHC ในครั้งนี้

เบลเยี่ยมเล่าว่า เกิดมาจากเธอและพี่บุ๊คโกะมีปัญหาหน้าผากกว้าง หรือที่เราเรียกว่า หัวเถิก และเพื่อปรับรูปใบหน้า เธอและบุ๊คโกะจึงเลือกใช้บริการปลูกผมของคลินิกแห่งนี้ ก่อนหน้านั้นพี่บุ๊คโกะเคยมาใช้บริการก่อน เบลเยี่ยมเพิ่งจะเข้ามารับบริการทีหลัง ส่วนแผนการทำเอเยนซี นอกจากแนะนำลูกค้าคนไทยในช่วงโควิด มีแผนที่จะดึงต่างชาติ มองไว้คือ จีน เกาหลี เข้ามาใช้บริการด้วย

เบลเยี่ยม  หลังจากผ่านการปลูกผม
“ในช่วงนี้เบลเยี่ยมเดินทางไปเกาหลีไม่ได้ ก็เริ่มศึกษาคลินิกศัลยกรรมในประเทศไทย พบว่าประเทศไทยมีสถานพยาบาลด้านศัลยกรรมที่มีคุณภาพหลายแห่ง โดยเฉพาะศัลยกรรมด้านการปลูกผม เมื่อเทียบกับประเทศเกาหลี ของเราก็ไม่ได้แตกต่าง บางครั้งของประเทศไทยเราก็ดีกว่า ซึ่งถ้ามีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ ตั้งใจที่จะแนะนำและดึงลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทย และนอกจากศัลยกรรมด้านปลูกผม ประเทศไทยยังมีวิทยาการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำอีกหลายแห่งที่สนใจให้เราเข้าไปเป็นเอเยนซีให้ แต่ต้องรอหลังโควิดลุยงานเต็มที่”

เบลเยี่ยมบอกอีกว่า หลังจากเจอสถานการณ์โควิด ตนไม่ได้มีโอกาสบินไปเกาหลีอีกเลย นับถึงตอนนี้ เกือบ 1 ปีเต็ม แต่เราต้องดำเนินธุรกิจเอเยนซีของเราต่อไปเพื่อเลี้ยงลูกน้อง ตนและพี่บุ๊คโกะจึงหันมาจับ กลุ่มธุรกิจด้านเวลเนส มีทั้งเวลเนสสแควร์ และเวลเนสซิตี้ ซึ่งมีหลายจังหวัดทั่วประเทศ ปัจจุบันมีคนไทยที่สนใจใช้บริการเวลเนสเพิ่มมากขึ้น รายได้ตรงนี้พอจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกน้องในช่วงโควิด-19 และถ้าหมดช่วงโควิด มีแผนที่จะนำเวลเนสจากประเทศไทยไปแนะนำต่างชาติ ดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น

สนใจ โทร. 0-2065-8830



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น