การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 จะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าขั้นวิกฤต แต่ประเทศเวียดนามกลับเป็นหนึ่งในหลายๆ ประเทศที่สามารถคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้อย่างดี ภาคเศรษฐกิจของประเทศนี้จึงสามารถฟื้นตัวได้เร็วเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ส่งผลให้ตอนนี้เวียดนามกลายเป็นประเทศ ที่นักลงทุนจับตามองมากที่สุดประเทศหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ ทาง “สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่” (NEA) จึงได้จับเทรนด์ช้อปออนไลน์ของผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม จากโครงการสัมมนา “ติวเข้ม เจาะตลาดเวียดนาม” มาเป็นไอเดียให้ผู้ประกอบการได้หยิบยกไปปรับใช้ในการทำธุรกิจให้ครองใจชาวเวียดนาม ได้แก่
1.สินค้าที่ครองใจขาช้อป : สินค้าที่ชาวเวียดนามนิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุดคือ เครื่องแต่งกายและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม โดยมีมูลค่าสูงถึง 558 ดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สินค้าเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน ตามลำดับ และสินค้าที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ คือ สินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็ก เช่น อาหารเด็ก ของเล่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เป็นต้น เพราะชาวเวียดนามมีประชากรวัยหนุ่มสาวที่นิยมแต่งงานเร็วและมีลูกไวเป็นจำนวนมาก
2.พฤติกรรมเสิร์ชก่อนซื้อ : พฤติกรรมของผู้ที่มีรายได้หรือมีกำลังซื้อในเวียดนามเน้นใช้สมาร์ทโฟนเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อถึง 80% ทั้งการหารีวิวจากผู้ใช้จริงหรือจากอินฟลูเอนเซอร์ก็ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น รวมถึงชอบค้นหาสินค้าที่ต้องการจากหลายๆ ร้านเพื่อนำมาเปรียบเทียบราคา และหากเป็นสินค้าที่มีการจัดโปรโมชันก็ยิ่งทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เช่น สินค้าซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อชิ้นที่ 2 ลด 50% เป็นต้น เพราะสิ่งที่ผู้บริโภคชาวเวียดนามให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ต้องได้สินค้าที่ดี มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม
3. Facebook ยืนหนึ่งในช่องทางโซเชียล : ประชากรในเวียดนามมีประมาณ 96 ล้านคน และใช้โซเชียลมีเดียถึง 62 ล้านคน ซึ่งช่องทางหลัก ที่คนเวียดนามนิยมใช้มากที่สุดคือ Facebook โดยนิยมเข้าใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อความบันเทิงและรับข้อมูลข่าวสารแล้ว กว่า 89% ของผู้ใช้งานนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้เป็นหลัก รวมถึงโฆษณาใน Facebook ยังมีอิทธิพลอย่างมากสำหรับชาวเวียดนาม เพราะกว่า 42% นิยมเข้าชมร้านค้าที่ขึ้น 3 อับดับแรกของการโฆษณา ดังนั้นหากผู้ประกอบการต้องการเจาะตลาดออนไลน์ที่มีผู้บริโภคจำนวนมากจึงควรขายสินค้าผ่านทาง Facebook และยิง Ads ให้แสดงผลบนสมาร์ทโฟนก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคหาร้านค้าของคุณเจอได้มากขึ้น
4. e-Commerce ตลาดใหม่ที่โตไวในเวียดนาม : ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้แพลตฟอร์ม e-Commerce ในเวียดนามเริ่มได้รับความนิยมสูงมากและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ โดยแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Shopee ที่มีผู้ใช้งานถึง 34 ล้านคน รองลงมาคือ SenDo TiKi Lazada ตามลำดับ และหากร้านค้าของคุณสามารถโต้ตอบกับผู้บริโภคได้ทันที ก็จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคชาวเวียดนามตัดสินใจซื้อสินค้าได้ไวมากขึ้น
5.สายช้อปยังนิยมสังคมเงินสด : ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักเลือกชำระเงินปลายทางเมื่อได้รับสินค้าหรือ Cash on Delivery เนื่องจากการชำระเงินด้วยเงินสดยังคงเป็นวิธีการที่สะดวกและเชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับชาวเวียดนาม เพราะถึงจะหันมานิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีความไม่มั่นใจในร้านค้าและสินค้าอยู่ จึงมักตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงิน และขอเปลี่ยนหรือคืนสินค้า รวมถึงปฏิเสธที่จะชำระเงินทันทีหากไม่พอใจในสินค้านั้น รองลงมาเป็นการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ดังนั้นผู้ประกอบการควรมีช่องทางการชำระเงินครบทั้ง 3 แบบ เพื่อเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวเวียดนาม
ขอบคุณข้อมูลจาก - สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) โครงการสัมมนา “ติวเข้ม เจาะตลาดเวียดนาม”
****************************************************************************
** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!* * *
SMEs manager