ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของหรือพนักงานธุรกิจ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน ล้วนต้องเผชิญความท้าทายที่แตกต่างกันในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องปรกติที่ทุกคนล้วนมองหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อย่างนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ และนักวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เราคอยติดตามข่าวอยู่ทุกวัน
ไม่ว่าคุณกำลังหยุดกิจการของคุณชั่วคราว หรืออยู่ระหว่างการเลือกตัดสินใจครั้งสำคัญ เฟดเอ็กซ์มี 7 คำแนะนำที่จะมาช่วยคุณ:
1. ทรัพยากรสำหรับธุรกิจขนาดเล็กมีอยู่ล้นหลาม เพียงแค่มองหาให้ถูกที่คอยติดตามโครงการช่วยเหลือจากรัฐบาล เช็ควันลงทะเบียนอย่าให้พลาด ควรติดตามข่าวและคำแนะนำจากช่องทางสื่อสารของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง คอยติดตามและติดต่อของความช่วยเหลือจากสถาบันทางการเงินทั้งหลาย เช่น ธนาคารสหภาพแรงงาน หรือสมาคมทางการค้า เพราะสถาบันเหล่านี้ล้วนมีประสบการณ์แก้ไขปัญหาธุรกิจในภาวะวิกฤตการณ์ต่าง ๆ
อย่าปฎิเสธความช่วยเหลือเกี่ยวกับธุรกิจ อย่างมาตราการด้านสินเชื่อ ทั้งการผ่อนปรน การยกเว้น หรือการพักชำระหนี้ชั่วคราว รวมไปถึงเงินอุดหนุนบุตร ซึ่งสามารถลดภาระทางการเงินและช่วยบรรเทาความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี และอย่าลืมว่าคุณสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานและอุตสาหกรรมในตำแหน่งที่คล้ายกันได้ผ่านงานสัมมนาออนไลน์ หรือจะเป็นคนเริ่มเปิดการสนทนาบน LinkedIn ก็ยังได้
2. ดูแลสุขภาพจิตของตัวเองและคนใกล้ตัวให้ดีอยู่เสมอ
ในช่วงวิกฤตนี้ สภาวะทางอารมณ์ของหลายคนอาจมีความแปรปรวนเป็นอย่างมาก จึงไม่ควรใช้พลังงานทั้งหมดในการนั่งกังวลเรื่องในอนาคต ดังนั้นการจัดสรรเวลาทำงานและพักผ่อนอย่างเพียงพอจึงสำคัญมาก เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของคุณ และพนักงานของคุณ ในปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ช่วยให้พนักงานที่มีความกังวลและรู้สึกว้าเหว่สามารถเข้าถึงบริการ และแอปพลิเคชันที่ช่วยดูแลสุขภาพจิตได้ เพราะสิ่งที่บริษัทปฎิบัติต่อพนักงานในช่วงวิกฤตโรคระบาด จะส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กรในอนาคตอย่างมาก
หลายบริษัทได้ใช้โอกาสนี้ในการยกเลิกระบบบางอย่างที่ล้าสมัย หรือทำให้ระบบการทำงานภายในองค์กรใช้งานได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มเวลาในการกระตุ้นการเติบโตขององค์กร หรือกำหนดทิศทางใหม่ของบริษัท และแน่นอนว่าจะช่วยให้คุณมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ในขณะที่พนักงานเองก็จะมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้นเช่นกัน
3. รักษาสภาพคล่องทางการเงินเอาไว้ และทบทวนความสำคัญก่อนการปล่อยกระแสเงินสด
ในช่วงเวลาที่ไร้ความแน่นอนนี้ คุณควรตรวจสอบสภาพคลองทางการเงินของคุณเอาไว้ให้ดี การเข้าถึงแหล่งเงินทุนและความสามารถในการหาเงินสำรองฉุกเฉินได้จัดเป็นเรื่องที่สำคัญมากในยามวิกฤต หากทางบริษัทไม่ได้มีการจัดเตรียมเงินทุนสำรองเอาไว้ใช้ การจำกัดรายจ่ายให้น้อยจึงเป็นตัวช่วยในการชดเชยความเสียหายได้ ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทิ้งไป อย่างค่าเดินทาง เงินก้อนสำหรับลงทุนให้เก็บเอาไว้ก่อน และเลือกจ้างเฉพาะพนักงานที่สามารถผลักดันให้บริษัทเติบโตในระยะยาวได้เท่านั้น
อย่าลืมว่าสถาบันการเงินที่เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อจะคอยติดตามรายจ่ายบริษัทของคุณอย่างใกล้ชิด จึงควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนการใช้จ่ายทุกครั้ง และหากบริษัทของคุณดำเนินการในหลายประเทศ ควรทำความเข้าใจโอกาสและอุปสรรคทางการค้าของคุณด้วยเช่นกัน
4. สร้างความภักดีต่อองค์กร
ในขณะนี้ทุกคนล้วนมีเวลาไตร่ตรองถึงสิ่งที่มีความสำคัญต่อพวกเขาในขณะนี้มากเป็นพิเศษ ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งสิ่งที่สำคัญเหล่านั้นคือสิ่งเล็ก ๆ ที่จะพาคุณผ่านวิกฤตไปได้ ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านอีคอมเมิร์ซขนาดเล็กเพื่อขายรองเท้า หรือจัดจำหน่ายชิ้นส่วนจำเป็นที่ทำให้เครื่องจักรดำเนินการได้ หรือธุรกิจครอบครัวที่ผลิตเครื่องสำอางซึ่งมีลูกค้าประจำอยู่เสมอ แน่นอนว่าธุรกิจของคุณย่อมมีคนรอสนับสนุนอยู่ แต่พวกเขาย่อมอยากที่จะช่วยเหลือคุณในระยะสั้น เพื่อให้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณต่อไปในระยะยาว
มีลูกค้าหลายคนที่หันมาใช้วิธีช่วยระดมทุนสาธารณะ ไม่ขอเงินคืนจากบริษัท หรือจ่ายเงินซื้อของล่วงหน้าแก่บริษัทที่พวกเขารัก เพื่อไม่ให้บริษัทเหล่านี้ล้มเลิกกิจการไป หรือการขอความช่วยเหลือบนโซเชียลมีเดียก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากสังคม และบางบริษัทก็เริ่มเปิดตัวเงินกู้ยืมในช่วงวิกฤตโควิด-19 ขึ้นแล้ว
5. การสื่อสารมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
วิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนรู้สึกใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม เพราะในขณะที่เราไม่สามารถเดินทางมาพบกันได้ เราได้ค้นพบหนทางในการติดต่อสื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม นอกจากนี้บรรดาเจ้าของบริษัทต่างเข้าใจแล้วว่า พนักงานทุกคนสามารถทำงานที่บ้านของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อสำคัญในการทำงานจากระยะไกลคือการสื่อสาร และความโปร่งใสในการทำงาน เพื่อให้พนักงานและผู้ถือหุ้นทุกคนรับทราบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้เป็นเวลาสำคัญที่บริษัทจะต้องสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร ความไม่แน่นอนและการขาดปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพสามารถก่อให้เกิดความกดดันทางธุรกิจ และอาจทำให้พนักงานที่มีสำคัญต่อองค์กรลาออกได้ เฟดเอ็กซ์จึงได้เพิ่มการติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อลดความกังวลของพนักงาน และเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครที่ไม่ได้รับข่าวสารเริ่มตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เพราะได้ส่งข่าวสารแก่พนักงานทุกสัปดาห์ พร้อมภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าพนักงานของเรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบพันธสัญญาสีม่วงของเฟดเอ็กซ์ ด้วยบริการส่งพัสดุที่สร้างความประทับใจแก่ลูกค้าทุกคน
โดยข่าวสารของเราเน้นย้ำถึงความทุ่มเทในการช่วยรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจของเฟดเอ็กซ์ ผ่านการดูแลและจัดส่งผลิตภัณฑ์ในสายการผลิตของลูกค้าโดยไม่ยอมหยุดพัก ซึ่งข่าวของเราได้รับการตอบรับอย่างล้มหลาม เพราะพนักงานของเรารู้สึกยินดีที่ความพยายามของเพื่อนร่วมงานได้รับการชื่นชม
6. เตือนตนเองและลูกค้าว่ามีเทคโนโลยีให้ใช้มากมาย
เราต่างทราบดีว่าความเคยชินนั้นเปลี่ยนยาก เช่นเดียวกับการจ่ายเงินสดแทนการจ่ายเงินออนไลน์ แม้ว่าลูกค้าบางคนจะใช้บริการขนส่งของเฟดเอ็กซ์ทุกวัน แต่พวกเขาก็ยังจ่ายค่าบริการเป็นเงินสด เรามักเตือนลูกค้าประจำของเราอยู่เสมอว่า ระบบปฎิบัติงานอัตโนมัติจะช่วยให้บริษัทของลูกค้าทำงานได้ง่ายขึ้นในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจออนไลน์ที่สามารถใช้เครื่องมือดิจิทัล อย่างระบบจัดการขนส่งนานาชาติของเฟดเอ็กซ์ หรือ FedEx Delivery Manager International (FDMi) ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการการขนส่ง ติดตามสถานะพัสดุ และเลือกลายเซ็นรูปแบบต่าง ๆ ผ่านสมาร์ทโฟนของพวกเขา
และในตอนนี้ที่เราต้องเว้นระยะห่างทางสังคม การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง เช่น สามารถเพิ่มจำนวนตัวเลือกสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัลจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าของคุณ และช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินต่อไปได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณอยากคิดการใหญ่ การตามติดเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างธุรกิจที่ดียิ่งกว่า นาย แบรด สมิธ ประธานกรรมการ บริษัท ไมโครซอฟท์ จำกัด เชื่อว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามาเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ และข้อมูลที่จะส่งเสริมการทำงานของ AI ล้วนเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21 นี้ เพราะฉะนั้นการมีพันธมิตรเป็นบริษัทเทคโนโลยีตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้บริษัทของคุณดำเนินธุรกิจได้อีกไกลในอนาคต
7. สร้างโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่น และอย่าปล่อยให้บริษัทล้าหลัง
เราได้เห็นธุรกิจขนาดเล็กในทั่วโลกที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจได้ในชั่วข้ามคืน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจภัตตาคารหรู ที่หันมาจัดส่งอาหารถึงบ้าน หรือโรงงานที่เปลี่ยนอุปกรณ์การผลิตเพื่อใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น
แล้วยังไงต่อล่ะ? แม้ว่าเราจะไม่สามารถบอกได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ธุรกิจขนาดเล็กอาจต้องเลือกระหว่างรายได้ที่น้อยลง และการปิดกิจการลง แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่จะได้ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการที่สามารถรับมือกับวิกฤตผ่านการตัดสินใจที่ยากลำบากอย่างรวดเร็วคือผู้ที่ชนะในวิกฤตการณ์นี้
World Economic Forum ได้กล่าวไว้ว่า ราว 60% ของผู้บริหารระดับโลกเชื่อว่าจะสามารถฟื้นกิจการจากวิกฤตได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีระยะห่างระหว่างขาลงและขาขึ้นกิจการที่ยาวนาน ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจขนาดเล็กจะปรับตัวเข้าหาหนทางการอยู่รอดที่แปลกใหม่ไปจากเมื่อก่อนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการธุรกิจในช่วงวิกฤตโควิด-19 ของบริษัทเฟดเอ็กซ์ได้ที่: http://fedexbusinessinsights.com/en/healthcare/coronavirus/
เฟดเอ็กซ์เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งแบบด่วนรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดส่งพัสดุสู่จุดหมายปลายทางทั้งหมด 220 ประเทศ มีเครือข่ายทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศ