xs
xsm
sm
md
lg

สื่อจีนชี้ จีน-สหรัฐฯ บทพิสูจน์โควิด-19 ใครกันแน่ ทำเพื่อประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพถ่ายทางอากาศเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2020 แสดง  หอหวงเห่อโหลว หรือ “หอนกกระเรียนเหลือง”และสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยตอนกลางของจีน ซึ่งว่างโล่งในช่วงวันตรุษจีน ผู้อยู่อาศัยเก็บตัวอยู่ในบ้าน หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อหยุดการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในภาคกลางของจีน (ภาพซินหัว)
โกลบอลไทม์ส รายงาน (7 มิ.ย.) ผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดได้รักษาหายดี ออกจากโรงพยาบาลในอู่ฮั่นแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทดสอบกรดนิวคลีอิกประชากรทั่วทั้งเมืองอู่ฮั่น ซึ่งพบผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการเพียงไม่กี่คน

บทบรรณาธิการของโกลบอลไทม์ส ระบุว่า ชัยชนะของอู่ฮั่นในการต่อสู้ที่ยากลำบากกับไวรัส เป็นหลักฐานสำคัญซึ่งแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจอันเด็ดขาดชัดเจน ในการปิดเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย เป็นรากฐานสำคัญของชัยชนะของจีน ในการรบกับโควิด-19 ทั่วประเทศ

คำสั่งในการควบคุมการเดินทางของผู้คนในอู่ฮั่นและหูเป่ย เป็นการตัดสินใจโดย สี จิ้นผิง ในวันที่ 22 มกราคม ซึ่งใช้ความรับผิดชอบในทุกตำแหน่งของตน ทั้งประธานาธิบดี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำคณะกรรมการกลางและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง

เมื่อวันที่ 22 มกราคม สี จิ้นผิง สั่งให้มีการจำกัด การเคลื่อนไหวของผู้คนและช่องทางออกในหูเป่ยและอู่ฮั่นทันที การตัดสินใจนี้ มีขึ้นล่วงหน้าสองวัน ก่อนการประกาศหลักฐานอย่างเป็นทางการเผยว่าไวรัสแพร่เชื้อผ่านมนุษย์

ในวันที่ 23 มกราคม วันรุ่งขึ้น รัฐบาลท้องถิ่นอู่ฮั่นประกาศปิดช่องทางขาออกของเมืองที่สนามบินและสถานีรถไฟตั้งแต่เวลา 10.00 น.

การตัดสินใจที่จะปิดตายเมืองอู่ฮั่นได้รับการรับรองอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ ว่าเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด ซึ่งนายแพทย์หวัง กวงฟา ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจชาวจีนกล่าวว่า โรงพยาบาลแห่งแรกที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งในปักกิ่ง ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกลุ่มแรกที่ส่งโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ไปยังอู่ฮั่นในต้นเดือนมกราคม กล่าวว่า “คุณสามารถเห็นตัวเลขของผู้ติดเชื้อ หลังจากถึงจุดสูงสุด ก็ชะลอตัวลงชัดเจนมาก”

ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) มณฑลหูเป่ยประสบความสำเร็จโดยสร้างสถิติเป็น "ศูนย์" ทั้ง 7 รายการ ได้แก่ ศูนย์ (หรือไร้จำนวน) ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่, "ศูนย์" ผู้ต้องสงสัยรายใหม่, "ศูนย์"ผู้เสียชีวิตรายใหม่, "ศูนย์" พาหะเชื้อ, "ศูนย์" ผู้ป่วยที่เดินทางเข้า, "ศูนย์" ผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ

การทดสอบโควิด-19 ทั่วเมืองอู่ฮั่น ครอบคลุมผู้พักอาศัย 9,899,828 คน ผลการวิจัยนี้ได้รับการเปิดเผยในวันอังคาร (2 มิ.ย.) พบผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการเพียง 300 ราย

หวางกล่าวว่า "สภาพที่เป็นอยู่ในสหรัฐฯ ได้พิสูจน์แล้วว่าการตัดสินใจที่จะปิดอู่ฮั่นนั้น เป็นเรื่องที่ฉลาดและทันการ"

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมว่า "การปกปิดไวรัสอู่ฮั่นของจีน ทำให้โรคแพร่กระจายไปทั่วโลก และว่าคร่าชีวิตชาวอเมริกันกว่า 100,000 คน มีผู้ติดเชื้อฯ อีกกว่าหนึ่งล้านคน"

“ผมไม่รู้ว่าเพราะคุมไม่อยู่หรือด้วยเหตุผลอื่น สหรัฐฯ ป้องกันไวรัสจากประเทศจีน แต่ไม่ได้หยุดการแพร่ไปทั่วโลก” หวางกล่าวและเสริมว่า “จีนระงับการเดินทางออกจากอู่ฮั่นเมื่อได้รับคำสั่งให้ปิดเมือง หากความจำของผมยังไม่คลาดเคลื่อน ฝ่ายสหรัฐฯ เองก็รู้ และยังแสดงความต้องการมารับคนกลับประเทศ นั่นหมายความว่า ถ้าจีนปกปิดการระบาด แล้วทำไมสหรัฐฯ รู้สถานการณ์และส่งเครื่องบินมารับคนสัญชาติตนกลับประเทศ"

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯ ยังพลาดอีกเรื่อง เมื่อเลือกป้องกันเฉพาะคนในประเทศจีน แต่ไม่สนใจนักเดินทางจากยุโรป

บทบรรณาธิการระบุว่า หัวหน้าศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติจีน (CDC) ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการระบาดของโรคในวันที่ 4 มกราคม สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่สั่งระงับเที่ยวบินไปและกลับจากจีนในปลายเดือนมกราคม

“สหรัฐฯ เชื่อว่าจะคุมได้ โดยการตัดการเชื่อมต่อที่เป็นไปได้ทั้งหมดกับจีนก็พอ” หลี่ ไห่ตง ศาสตราจารย์จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ (China Foreign Affairs University) กล่าวกับ โกลบอลไทม์ส

Scientific วารสารวิทยาศาสตร์ ระบุว่า มาตรการควบคุมของจีนในช่วง 50 วันแรกของการระบาดของโควิด-19 ช่วยชะลอการแพร่กระจายของไวรัสไปยังเมืองต่าง ๆ นอกอู่ฮั่น และป้องกันการติดเชื้อในจำนวนคนมากกว่า 700,000 คนทั่วประเทศ

ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ มีอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตสูงที่สุดในโลกสูงกว่าตัวเลขของจีนถึง 22 เท่า รายงานของนิวยอร์ก ไทม์ส เผยแพร่งานวิจัยฯ จำลองอุบัติการณ์ระบาดกล่าวว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการปิดเมืองเร็วขึ้นกว่าที่เป็นอยู่สองสัปดาห์ จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ถึงร้อยละ 83 หรือเทียบเท่ากับจำนวน 36,000 คน

บทบรรณาธิการของโกลบอลไทม์ส กล่าวว่าผลการทดสอบการต่อสู้กับโควิด-19 คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่าจีนกับสหรัฐอเมริกา ใครกันแน่ที่ทำเพื่อประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น