ไอศกรีมผลไม้แท้ไม่ผสมนม ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งสีสังเคราะห์ แบรนด์ “ไอติมละมุน” เปิดมา 7 ปี มี 7 สาขา แต่ต้องปิดตัวลงเพราะมีการเกิดธุรกิจขายไอศกรีมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทางแบรนด์จึงหันมาทำออนไลน์เป็นเต็มตัวและจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ บวกกับสถานการณ์ โควิด-19 นี้ ทำให้ผู้คนสนใจสั่งซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้สามารถเติบโตยิ่งขึ้นไปได้
ชญาณ์พิมพ์ อำนวยปรีชากุล เจ้าของธุรกิจไอศกรีม แบรนด์ ไอติมละมุน เล่าว่า เดิมทีไอติมละมุนมีรสชาติแค่ 3 รส ได้แก่ กะทิ ชาไทย และโอวัลติน ดังนั้นตนจึงเริ่มวางแผนที่จะต่อยอดให้ไอศกรีมเพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้ โดยเริ่มจากไอศกรีมรสกะทิ ปรับสูตร คิดสูตรใหม่จนแน่ใจว่าอร่อยสามารถขายได้ หลังจากจึงได้มีการสร้างแบรนด์ ชื่อ “ไอติมละมุน” และได้ออกบูธโปรโมทสินค้า ซึ่งทางแบรนด์ได้มีการโปรโมทสินค้าผ่านการออกบูธอยู่ประมาณ 1 ปี ทำให้สามารถเปิดหน้าร้านสาขาแรกอยู่ที่เซ็นทรัลพระราม 3 เปิดตัวด้วยการเป็นไอศกรีมโบราณ สตรีทฟู้ด ยกระดับด้วยการขายในห้างสรรพสินค้า หลังจากนั้นก็เริ่มมีสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหมด 7 สาขา ทำให้ตนได้ลาออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลธุรกิจตัวนี้อย่างเต็มตัว
ทั้งนี้ หลังจากมีธุรกิจเหล่านี้เกิดขึ้นมากมาย ทำให้การขายในสาขาต่างๆ ไม่ได้รับความนิยมมากนัก ทำให้ตนเกิดแนวคิดที่จะสร้างธุรกิจให้สามารถเติบโตขึ้นไปอีก ด้วยการสร้างเป็นโรงงานขึ้นมาเพื่อรองรับการขายแบบ OEM และ B2B หรือ Business to Business และลงทุนสร้างสินค้าให้ได้มาตรฐาน GMP และ HACCP เพื่อทำให้สินค้าได้รับการรองรับมาตรฐานและคุณภาพที่ถูกต้อง ใช้เวลาในการสร้างโรงงานอยู่ประมาณ 1 ปี ประกอบกับดูแลหน้าร้านไปด้วย
ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็น B2B หลายราย รวมถึงลูกค้าที่รับไปขายในร้านอาหารไทยบนห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทำให้ตอนนี้แบรนด์ ไอติมละมุน ดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 7 ปี ทั้งนี้เนื่องด้วยทางแบรนด์มีความต้องการที่จะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้า B2B มากกว่าจึงได้มีการปิดสาขาลงทั้งหมด 6 สาขา และเหลือไว้เพียง 1 สาขาเท่านั้น แต่ก็ต้องปิดตัวลงอีกเช่นเดียวกันสาเหตุมาจากสถานการณ์ในประเทศและทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 บวกกับการหมดสัญญาการเช่าพื้นที่ ทำให้ต้องปิดตัวสาขาสุดท้ายลงไป
นอกจากนี้ในช่วง โควิด-19 นี้ทางแบรนด์ได้มีการต่อยอดและสร้างแบรนด์โดยการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์โดยเป็นการส่งแบบเดลิเวอรี่ ซึ่งเป็นการท้าทายอย่างมากสำหรับแบรนด์ เนื่องจากตนนี้ไม่มีการขายแบบออฟไลน์ ต้องขายแบบออนไลน์ 100% ทั้งนี้ความพิเศษและความแตกต่างของตัวไอศกรีม โดยการที่ทางแบรนด์ใช้ผลไม้จริงในการทำไอศกรีม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไอศกรีมที่มีราคาไม่สูงมากจะมีการผสมกลิ่นสังเคราะห์ สีหรือแต่งรสเพิ่ม แต่ของทางแบรนด์จะใช้ผลไม้แท้และของจริงในการทำ เช่น เมื่อกินไอศกรีมรสชาติมะพร้าวก็จะได้รสชาติมะพร้าวแท้ รวมถึงมีความชัดเจนในความเป็นไทยเป็นอย่างมาก เพราะต้องการที่จะสนับสนุนเกษตรกรและผลผลิตจากไทยให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบันแบรนด์ ไอติมละมุน มีไอศกรีมรสผลไม้อยู่ทั้งหมด 30 กว่ารสชาติ รวมถึงรสชาติอื่นๆ เช่น ช็อกโกแลต วานิลา ชานมไต้หวัน ชาเขียว ฯลฯ ทั้งหมดรวมกันประมาณ 50 กว่ารสชาติ ซึ่งไอศกรีมรสชาติผลไม้จะขายดีมากกว่ารสชาติอื่นๆ ทางแบรนด์ใส่ใจในขั้นตอนการผลิตทั้งหมด วัตถุดิบที่เลือกสรรมาก็มีคุณภาพได้มาตรฐาน ทำให้ไอศกรีมแบรนด์ ไอติมละมุน นั้นมีรสชาติที่แตกต่าง ธรรมชาติ 100% ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้สำหรับผลไม้นอกฤดูกาล เช่น ทุเรียน ที่มีในฤดูกาล ทางแบรนด์แก้ปัญหาตรงนี้โดยการสต็อคไว้ด้วยการแช่แข็งเพื่อที่จะได้มีวัตถุดิบมาผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้กลยุทธ์ในการทำการตลาดนั้นทางแบรนด์ได้มีการโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ หรือ โซเชียลมีเดียทุกช่องทางเพื่อเป็นการกระจายข้อมูลและเผยแพร่ข้อมูลแบรนด์ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้กลยุทธ์อีก 1 วิธีที่ทางแบรนด์ใช้นั่นก็คือ การสื่อสาร ซึ่งไอศกรีมของทางแบรนด์เป็นไอศกรีมเพื่อครอบครัว เพื่อเด็ก เพื่อผู้ใหญ่
นอกจากนี้การส่งของเดลิเวอรี่ได้รับการนิยมอย่างมากในขณะนี้ เนื่องด้วยกระแสของโควิด-19 ทำให้ทางแบรนด์พยายามกระจาย Hub ให้ทั่วกรุงเทพฯ ทำให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อทำให้ลูกค้าเวลาสั่งไอศกรีมและต้องจ่ายค่าส่งนั้นสามารถเลือกได้ว่าราคาไหนเหมาะสมหรือไม่ ตามความต้องการของลูกค้าซึ่งเมื่อลูกค้าต้องการสั่ง สินค้าจะนำส่งให้ภายใน 40 นาที
ในส่วนของการกำลังการผลิตทางแบรนด์จะไม่มีสต็อคทิ้งไว้ จะผลิตตามที่ลูกค้าสั่งมา เพื่อที่สินค้าจะเป็นสินค้าที่ใหม่ตลอดเวลาเนื่องจากถ้าหากผลิตสต็อคทิ้งไว้นานๆ จะทำให้ตัวไอศกรีมเกิดเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งเมื่อเป็นไอศกรีมผลไม้แล้วนั้นยิ่งทำให้รสชาติแย่ลงและไม่สดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ในช่วงฤดูร้อนในตอนนี้ผลตอบรับจากลูกค้าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และเป็นช่วงที่ขายดีทำให้เล็งเห็นโอกาสคลอดสินค้าใหม่ คือ ผลไม้สมู้ทตี้ พรีมิกซ์หรือเรียกได้ว่า สมู้ทตี้ ดีไอวาย โดยนำเอาผลไม้สดที่ใช้ทำไอศกรีมมาปรุงใหม่ให้พร้อมเสิร์ฟมากขึ้น ซึ่งสามารถฉีกซอง ใส่น้ำแข็ง ลงในเครื่องปั่นก็จะได้สมู้ทตี้ผลไม้กินเองอย่างง่ายดาย
สำหรับฝั่งขายส่งนั้นเมื่อสั่ง 4 กล่องขึ้นไปทางแบรนด์จะส่งให้ฟรี คละรสชาติได้ รวมถึงทางแบรนด์จะแนะนำลูกค้าที่เข้ามาสั่งไอศกรีมว่านำไปขายในร้านอาหารประเภทใด ทางแบรนด์ก็จะแนะนำไปว่ารสชาติแบบไหนเหมาะสมกับร้านอาหารประเภทใดบ้าง ซึ่งราคาของแต่ละเกรดก็จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ในส่วนของการขายเดลิเวรี่นั้น ถ้วยเดียวก็สามารถสั่งได้ แต่ค่าส่งก็จะคิดตามระยะทาง รวมถึงในช่วงนี้ได้มีการออกโปรโมชั่นเพื่อเอาใจลูกค้า ซึ่งปกติแล้วทางแบรนด์จะจัดโปรโมชั่นเป็นเซตเมนู เช่น ชุด 6 ถ้วย ราคา 295 บาท ปกติขายถ้วยละ 55 บาทขนาด 90 กรัม และแต่ละเซ็ตจะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีทั้งหมด 6 เซ็ต เช่น เซ็ตจันทร์ –ศุกร์ เซ็ตสาวหวานมุ้งมิ้ง เซ็ตครอบครัว เซ็ตปาร์ตี้ และเซ็ตเฮลท์ตี้ ปัจจุบันมีโปรโมชั่น 10 กิโลเมตรแรกส่งฟรีจาก Hub ในแต่ละพื้นที่ เช่น ถนนจันทร์ รากหญ้า สุขสวัสดิ์ ลาดพร้าว และสุขุมวิท 26
ทั้งนี้ลูกค้าออนไลน์จะเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทครอบครัว และทั่วไป หลายหลายเพศและหลากหลายวัย เนื่องจากในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 นี้ ทำให้ผู้คนสนใจสั่งสินค้าผ่านออนไลน์มากยิ่งขึ้น สินค้าของทางแบรนด์ จึงได้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น บวกกับสภาพอากาศที่ร้อนในขณะนี้ด้วย นอกจากนี้ใน 1 วันสามารถขายได้ประมาณ 150-200 ทิกเก็ตต่อวัน เป็นตัวแรกที่ไม่สูงมาก เพราะเป้าหมายตั้งไว้วันละ 500-1,000 ทิกเก็ต
อย่างไรก็ตามในอนาคตได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจแบรนด์ ไอติมละมุน จะเน้นที่การขยาย Hub เดลิเวอรี่ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากที่สุด เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการสั่งเดลิเวอรี่ของลูกค้าน่าจะเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน รวมถึงเตรียมเปิดร้านประจำ 1-2 สาขาเป็นอย่างน้อยภายในปีนี้ และเพิ่มเดลิเวอรี่ให้มากยิ่งขึ้น
ติดต่อเพิ่มเติมFacebook : ไอติมละมุน Itim-lamoonLine : https://line.me/R/ti/p/%40pon5601l
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
