ปัญหาการเผาไหม้ฟางข้าวในหลายพื้นที่ทำให้เกิดมลภาวะกับสิ่งแวดล้อม ทำให้แบรนด์ Wasoo เล็งเห็นความสำคัญในส่วนนี้ นำฟางข้าวที่ไร้ประโยชน์มาสร้างสรรค์ให้เป็นแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียง ช่วยให้ลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่ต้องการ
กรรจิต นาถไตรภพ เจ้าของธุรกิจผลิตแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียง แบรนด์ Wasoo เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์นี้ขึ้นมานั้น เริ่มต้นจากในช่วงแรกอาจารย์ที่เป็นนักวิจัยได้เริ่มทำผ้ากันน้ำและไฟ หลังจากนั้นนำไปทดลองในห้องแล็ปหรือห้องปฏิบัติการแล้วผลออกมาสามารถกันความร้อนได้ ตนจึงมีความสนใจที่จะเป็นทางเลือกในการต่อยอดจึงได้มีการทำงานวิจัยร่วมกันและได้นำออกมาทำธุรกิจในเชิงพาณิชย์ รวมถึงในปัจจุบันฟางข้าวเป็นวัสดุเหลือใช้ที่มีการนำไปใช้แค่ 30% ส่วนที่เหลือเป็นการเผา การเผาฟางในประเทศสามารถให้เกิดก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์จำนวนมากต่อปี ทำให้ตนเกิดความคิดที่จะนำมาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมได้
ทั้งนี้ปัจจุบันดำเนินธุรกิจร่วมกับการทำงานวิจัยนั้นได้ประมาณ 5 ปี และเพิ่งเริ่มต้นทำการตลาดได้ประมาณ 2-3 ปี สำหรับส่วนผสมที่นำมาทำแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียงนั้นมีส่วนผสมของฟางข้าว และเยื่อกระดาษรีไซเคิลเป็นตัวประสาน ไม่มีกาวผสม แต่ด้วยความที่มีฟองอากาศอยู่ในตัวอยู่แล้วทำให้สามารถกันความร้อนและซับเสียงได้เป็นอย่างดี ซึ่งกรรมวิธีในการผลิตจะเป็นการผลิตผ่านกระบวนการอัดแผ่นและอบแห้ง
ในส่วนของการตลาดในช่วงนี้จะเน้นเป็นการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลต่างๆ นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทองค์กรและลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาให้ความสนใจต่อสินค้าของทางแบรนด์ ทำให้ผลตอบรับจากลูกค้าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ในช่วงแรกทางแบรนด์ได้นำเสนอประเภทสินค้า แผ่นซับเสียงเข้าตลาดก่อนที่จะเริ่มโปรโมทสินค้าประเภทแผ่นกันความร้อนและนำเข้าตลาดในปีนี้
โดยสินค้าทั้งสองประเภทนั้นมีความบางเพียง 1 เซนติเมตร สามารถกันความร้อนได้เท่ากับใยแก้วขนาด 3 นิ้ว ทำให้ลูกค้ามีพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้นทั้งผนังและเพดาน ทั้งนี้เมื่อนำแผ่นกันความร้อนไปติดกับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีแสงแดดส่องด้วยอุณหภูมิ 66 องศาเซลเซียสแล้วนั้นความร้อนจะหายไปเหลือเพียง 43 องศาเซียลเซียส ทำให้ความร้อนหายไป 23 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้แผ่นซับเสียงที่ทำจากฟางข้าวและมีฟองอากาศอยู่ในตัวนั้นเมื่อนำไปติดกับผนังห้องเวลาเกิดเสียงจะทำปฏิกิริยากันแผ่นซับเสียงโดยเสียงจะสะท้อนกลับไปกลับมาทำให้เสียงที่จะออกสู่ภายนอกนั้นออกมาช้า ส่วนในพื้นที่ที่มีเสียงก้องมากๆ ทางแบรนด์จะมีอีกหนึ่งตัวที่รองรับสำหรับพื้นที่ดังกล่าว จะทำให้การซับเสียงได้ดีขึ้น
ทั้งนี้กำลังการผลิตในช่วงนี้สามารถผลิตได้ต่อเนื่อง และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้เพิ่มขึ้น สำหรับวิธีการขายให้กับลูกค้านั้นจะมีทั้งที่สั่งเป็นล็อตและจัดการนำส่งให้ถึงที่ นอกจากนี้สำหรับตัวฟางข้าวนั้นทางแบรนด์ในตอนนี้ยังคงรับซื้อจากคนที่รับตัดฟาง ซึ่งในอนาคตทางแบรนด์มีแนวคิดที่ต้องการทำธนาคารฟางกับเกษตรกร เพื่อต้องการสร้างฟางข้าวจากเกษตรกรเพิ่มมูลค่ามากขึ้นแทนการเผาไหม้
สำหรับราคาแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียงเริ่มต้นที่ ตารางเมตรละ 350 บาท นอกจากนี้สินค้าของทางแบรนด์มีจุดเด่นและความแตกต่างในเรื่องของการนำวัสดุธรรมชาติโดยที่ไม่มีใยแก้วและใยหินไม่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ มาดัดแปลงให้เกิดสินค้าที่สามารถช่วยกันความร้อนและซับเสียงได้เป็นอย่างดี ปลวกไม่กิน น้ำหนักเบา และได้มีการทำในรูปแบบของการตกแต่ง ทั้งสี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม สามารถนำไปติดกันความร้อนภายในห้องได้บวกกับตกแต่งห้องไปในตัวได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้อายุการใช้งานทางแบรนด์การันตีได้ว่าสามารถอยู่ได้นานถึง 10-20 ปี
ในอนาคตจะมีการต่อยอดธุรกิจแผ่นซับเสียงและกันความร้อนในส่วนของรูปแบบการตกแต่ง ให้สามารถใช้งานได้มากขึ้น สนุกขึ้น และผลิตสินค้าที่มีส่วนผสมแค่ฟางข้าว 100% เพื่อลดการเผาฟางและเกิดการใช้ได้มากขึ้น รวมถึงขยับไปใช้วัสดุเหลือใช้อื่นๆ เช่น กะลากาแฟ ที่มีปัญหาการเผาไหม้ต่างๆ นำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียง แบรนด์ Wasoo เป็นนวัตกรรมแปลกใหม่ที่มีไอเดียมาจากการนำฟางข้าวมาดัดแปลงและผลิตเป็นสินค้าที่เกิดประโยชน์ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงช่วยลดภาระให้กับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสามารถช่วยลดการเผาไหม้และนำเอาวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติกลับมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าได้
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Wasoo
Website : wasoo
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
กรรจิต นาถไตรภพ เจ้าของธุรกิจผลิตแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียง แบรนด์ Wasoo เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์นี้ขึ้นมานั้น เริ่มต้นจากในช่วงแรกอาจารย์ที่เป็นนักวิจัยได้เริ่มทำผ้ากันน้ำและไฟ หลังจากนั้นนำไปทดลองในห้องแล็ปหรือห้องปฏิบัติการแล้วผลออกมาสามารถกันความร้อนได้ ตนจึงมีความสนใจที่จะเป็นทางเลือกในการต่อยอดจึงได้มีการทำงานวิจัยร่วมกันและได้นำออกมาทำธุรกิจในเชิงพาณิชย์ รวมถึงในปัจจุบันฟางข้าวเป็นวัสดุเหลือใช้ที่มีการนำไปใช้แค่ 30% ส่วนที่เหลือเป็นการเผา การเผาฟางในประเทศสามารถให้เกิดก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์จำนวนมากต่อปี ทำให้ตนเกิดความคิดที่จะนำมาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมได้
ทั้งนี้ปัจจุบันดำเนินธุรกิจร่วมกับการทำงานวิจัยนั้นได้ประมาณ 5 ปี และเพิ่งเริ่มต้นทำการตลาดได้ประมาณ 2-3 ปี สำหรับส่วนผสมที่นำมาทำแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียงนั้นมีส่วนผสมของฟางข้าว และเยื่อกระดาษรีไซเคิลเป็นตัวประสาน ไม่มีกาวผสม แต่ด้วยความที่มีฟองอากาศอยู่ในตัวอยู่แล้วทำให้สามารถกันความร้อนและซับเสียงได้เป็นอย่างดี ซึ่งกรรมวิธีในการผลิตจะเป็นการผลิตผ่านกระบวนการอัดแผ่นและอบแห้ง
ในส่วนของการตลาดในช่วงนี้จะเน้นเป็นการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลต่างๆ นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทองค์กรและลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาให้ความสนใจต่อสินค้าของทางแบรนด์ ทำให้ผลตอบรับจากลูกค้าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ในช่วงแรกทางแบรนด์ได้นำเสนอประเภทสินค้า แผ่นซับเสียงเข้าตลาดก่อนที่จะเริ่มโปรโมทสินค้าประเภทแผ่นกันความร้อนและนำเข้าตลาดในปีนี้
โดยสินค้าทั้งสองประเภทนั้นมีความบางเพียง 1 เซนติเมตร สามารถกันความร้อนได้เท่ากับใยแก้วขนาด 3 นิ้ว ทำให้ลูกค้ามีพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้นทั้งผนังและเพดาน ทั้งนี้เมื่อนำแผ่นกันความร้อนไปติดกับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีแสงแดดส่องด้วยอุณหภูมิ 66 องศาเซลเซียสแล้วนั้นความร้อนจะหายไปเหลือเพียง 43 องศาเซียลเซียส ทำให้ความร้อนหายไป 23 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้แผ่นซับเสียงที่ทำจากฟางข้าวและมีฟองอากาศอยู่ในตัวนั้นเมื่อนำไปติดกับผนังห้องเวลาเกิดเสียงจะทำปฏิกิริยากันแผ่นซับเสียงโดยเสียงจะสะท้อนกลับไปกลับมาทำให้เสียงที่จะออกสู่ภายนอกนั้นออกมาช้า ส่วนในพื้นที่ที่มีเสียงก้องมากๆ ทางแบรนด์จะมีอีกหนึ่งตัวที่รองรับสำหรับพื้นที่ดังกล่าว จะทำให้การซับเสียงได้ดีขึ้น
ทั้งนี้กำลังการผลิตในช่วงนี้สามารถผลิตได้ต่อเนื่อง และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้เพิ่มขึ้น สำหรับวิธีการขายให้กับลูกค้านั้นจะมีทั้งที่สั่งเป็นล็อตและจัดการนำส่งให้ถึงที่ นอกจากนี้สำหรับตัวฟางข้าวนั้นทางแบรนด์ในตอนนี้ยังคงรับซื้อจากคนที่รับตัดฟาง ซึ่งในอนาคตทางแบรนด์มีแนวคิดที่ต้องการทำธนาคารฟางกับเกษตรกร เพื่อต้องการสร้างฟางข้าวจากเกษตรกรเพิ่มมูลค่ามากขึ้นแทนการเผาไหม้
สำหรับราคาแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียงเริ่มต้นที่ ตารางเมตรละ 350 บาท นอกจากนี้สินค้าของทางแบรนด์มีจุดเด่นและความแตกต่างในเรื่องของการนำวัสดุธรรมชาติโดยที่ไม่มีใยแก้วและใยหินไม่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ มาดัดแปลงให้เกิดสินค้าที่สามารถช่วยกันความร้อนและซับเสียงได้เป็นอย่างดี ปลวกไม่กิน น้ำหนักเบา และได้มีการทำในรูปแบบของการตกแต่ง ทั้งสี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม สามารถนำไปติดกันความร้อนภายในห้องได้บวกกับตกแต่งห้องไปในตัวได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้อายุการใช้งานทางแบรนด์การันตีได้ว่าสามารถอยู่ได้นานถึง 10-20 ปี
ในอนาคตจะมีการต่อยอดธุรกิจแผ่นซับเสียงและกันความร้อนในส่วนของรูปแบบการตกแต่ง ให้สามารถใช้งานได้มากขึ้น สนุกขึ้น และผลิตสินค้าที่มีส่วนผสมแค่ฟางข้าว 100% เพื่อลดการเผาฟางและเกิดการใช้ได้มากขึ้น รวมถึงขยับไปใช้วัสดุเหลือใช้อื่นๆ เช่น กะลากาแฟ ที่มีปัญหาการเผาไหม้ต่างๆ นำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามแผ่นกันความร้อนและแผ่นซับเสียง แบรนด์ Wasoo เป็นนวัตกรรมแปลกใหม่ที่มีไอเดียมาจากการนำฟางข้าวมาดัดแปลงและผลิตเป็นสินค้าที่เกิดประโยชน์ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงช่วยลดภาระให้กับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสามารถช่วยลดการเผาไหม้และนำเอาวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติกลับมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าได้
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Wasoo
Website : wasoo
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager
กำลังโหลดความคิดเห็น