ใบตองแห้งที่ถูกทิ้งเป็นขยะโดยเปล่าประโยชน์ แต่แบรนด์ P.a.d Banana Leaf Product กลับนำเอาใบตองแห้งนำมาทำให้เกิดประโยชน์ โดยนำมาผลิตเป็นสินค้าที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ต่อยอดมาจากโปรเจ็กต์จบตอนเรียนสู่ธุรกิจสุดปังในปัจจุบัน ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสิ่งแวดล้อมและงานออกแบบที่แตกต่างแต่ลงตัว
นางสาวพัชรียา แฟงอ๊อด เจ้าของธุรกิจสินค้ารักษ์โลก แบรนด์ P.a.d Banana Leaf Product เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์นี้ขึ้นมาเริ่มจากการที่ในช่วงการเรียนระดับอุดมศึกษาจะมีการทำโปรเจ็กต์ ซึ่งตนได้เรียนเกี่ยวกับอุตสาหกรรม และได้มีแนวคิดที่ว่าต้องการหาวัสดุที่แตกต่างจากเดิมที่เคยใช้ เช่น หนัง งานไม้ กระดาษ สิ่งที่ได้จากการคิดค้นและได้ไปเจอ คือ ใบตองแห้ง โดยตนได้มองเห็นว่าใบตองแห้งไม่ได้นำไปใช้งานที่เกิดประโยชน์ได้มากนัก ส่วนมากอาจจะปล่อยให้แห้งทิ้งไปทำให้เกิดความเสียดาย บวกกับการที่เคยได้ยินมาว่าต้นกล้วยสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น รากต้นกล้วยสามารถนำไปผลิตเป็นกระดาษได้ ก้านกล้วยหรือหัวปลีก็สามารถนำไปทอผ้าได้เช่นเดียวกัน ใบสดก็มีมูลค่า แต่ส่วนของใบแห้งกลับถูกทิ้งและรอเวลาย่อยสลายตามธรรมชาติ คิดได้ดังนั้นตนจึงนำแนวคิดที่จะนำเอาใบตองแห้งมาทำให้เกิดประโยชน์ได้
ทั้งนี้ในกระบวนการผลิตตนได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการยืดหยุ่นที่จะไม่ทำให้ใบตองกรอบหรือแตกได้ ความคิดในตอนแรกไม่ได้มีความคิดที่จะใช้ธรรมชาติแบบ 100% เพราะว่าสิ่งที่เรียนมาก็จะเป็นการนำสารเคมีมาใช้ เช่น สารเคลือบผิวบนสินค้าต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์จุดประสงค์ที่ตั้งไว้ เนื่องจากเมื่อนำสารเคมีมาเคลือบลงบนผิวใบตองทำให้เกิดการกรอบและแตกในที่สุด หลังจากนั้นจึงได้นำแนวคิดสมัยก่อนในการนำมารองกับเตารีด ซึ่งในใบตองจะมีน้ำมันในตัวเองทำให้ตนทดลองนำใบตองแห้งมารีดซึ่งเมื่อรีดแล้วใบตองไม่ได้แห้ง 100% แห้ง แต่ส่วนที่เป็นน้ำแต่ยังเหลือน้ำมันที่ระเหยจากความร้อนมาเคลือบตัวมันเองโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี รวมถึงจะมีกลิ่นจากตัวใบตองให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติและกลิ่นคล้ายขนมกาละแมร์
ทั้งนี้ได้นำเอาตัวยางกล้วยและผ้ามาผสมเข้าด้วยกัน และใบตองที่ได้นั้นยืดหยุ่นไปตามเนื้อผ้า ทำให้สามารถนำไปตัดเย็บได้ ยิ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติยิ่งทำให้เกิดการยืดหยุ่นสูง ทำให้ตัววัสดุที่ต้องการสามารถเข้าในเครื่องจักรได้และยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สิ่งที่ตนได้ผลิตบวกกับมีเพื่อนคู่คิดที่ช่วยกันคิดค้นและผลิตมาด้วยกัน คือ นางสาวชนากานต์ มูลเมือง ที่ร่วมด้วยช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานและได้มีการส่งเข้างานประกวดจนได้รางวัลที่เกี่ยวกับการนำเอาวัสดุเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ หลังจากนั้นก็ได้ต่อยอดมาอย่างต่อเนื่องและได้มีนำมาทำเป็นโปรเจ็กต์จบของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เมื่อทำจบแล้ว ตนและเพื่อนทำแจกคนอื่นใช้ ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์ในช่วงเรียนจะเป็นประเภท กระเป๋าใส่มือถือต่างๆ โคฟเวอร์บุ๊ค ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้
นอกจากนี้เมื่อคนทีได้รับไปมีฟีดแบกกลับมาว่าสามารถใช้งานได้ทน ทำให้ตนและเพื่อนจุดประกายการสร้างผลงานจากสิ่งนี้เพิ่มมากขึ้น เมื่อจบการศึกษาแล้วนั้นก็เริ่มสร้างเป็นแบรนด์ P.a.d Banana Leaf Product ขึ้นมา ปัจจุบันดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 3 ปี ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งของใช้ทั่วไปและของตกแต่งบ้าน เช่น โคมไฟ กระจก หมอนอิง เนื่องจากตัววัสดุสามารถใส่เครื่องซักผ้าได้ด้วย ทั้งนี้เนื้อสัมผัสของตัวใบตองจะมีความแตกต่างกันเนื่องจากกล้วยที่ได้มาจะต่างสายพันธุ์ เฉดสีที่ได้ก็จะแตกต่างกันและมีความเป็นสีธรรมชาติ สินค้าทั้งหมดจะมีสีโทนเอิร์ธโทนทั้งหมดเป็นไปตามอายุและการแห้งของแต่ละใบ
ในส่วนของการตลาดทางแบรนด์ในช่วงแรกเน้นไปที่การส่งประกวดเพื่อที่จะได้การันตีได้ว่าสินค้าของทางแบรนด์มีคุณสมบัติมากพอที่จะสร้างเป็นแบรนด์สินค้าได้ หลังจากส่งเข้าประกวดอย่างต่อเนื่องก็ได้มีการติดต่อจากกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและได้มีการเริ่มออกบูธในสถานที่ต่างๆ และได้มีห้างสรรพสินค้าต่างๆ เริ่มให้ความสนใจติดต่อกลับมา
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าถ้าเป็นการออกบูธ ลูกค้าต่างชาติจะให้ความสนใจมากกว่าคนไทย แต่ถ้าเป็นคนไทยจะเป็นกลุ่มของโรงแรมเป็นส่วนมากที่มีการสั่งผลิตโคฟเวอร์สำหรับใช้ในเคาท์เตอร์ ห้องอาหาร หรือห้องพักต่างๆ ในตอนนี้มีการสต็อคสินค้าที่นำไปจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะมีวางจำหน่ายที่ ไอคอนสยาม และอื่นๆ เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต่างชาติจะอยู่ที่ 70% และคนไทย 30% แต่ยังไม่มีการเริ่มต้นส่งออก
สำหรับผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ที่ได้นำเอาใบตองแห้งมาผสมผสานกับใยผ้าจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เป็นแบรนด์แรกที่ริเริ่มทำสินค้าจากใบตองแห้ง และเมื่อใช้งานไปนานๆ ก็สามารถย่อยสลายเองได้ 100% โดยไม่ทิ้งมลภาวะหรือป็นภาระสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ในส่วนของการรับซื้อใบตอง ทางบ้านของเจ้าของแบรนด์จะมีสวนกล้วยก็จะนำมาใช้และได้รับซื้อจากชุมชน ซึ่งปกติชุมชนจะมีการขายให้กับแม่ค้าในท้องตลาดช่องทางเดียว ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มช่องทางการขายให้แก่แม่ค้าในชุมชนอีกด้วย รวมถึงได้ราคาที่สูงขึ้นด้วย นอกจากจะช่วยลดภาระให้แก่สิ่งแวดล้อมและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์และได้ช่วยชุมชนอีกด้วย
นอกจากนี้อายุการใช้งานสินค้าแต่ละประเภทจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ซึ่งสินค้าแต่ละตัวสามารถใช้เตารีดรีดซ้ำได้หลายครั้ง ในส่วนของการออกแบบลวดลาย ตนและเพื่อนเป็นผู้ออกแบบเองทั้งหมด ทั้งนี้ทางแบรนด์จะมีการคิดคอลเล็กชั่นใหม่ทุก 3-6 เดือน ทั้งนี้ผลตอบรับจากลูกค้าให้ความสนใจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ทางแบรนด์กำลังเร่งผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับสินค้าที่ลูกค้าส่วนมากเลือกซื้อจะเป็นประเภทของฝาก เช่น สมุด ซองใส่หนังสือเดินทาง ซองใส่บัตร(Passport) ราคาเริ่มต้นที่ 290 บาท
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทางแบรนด์มีการวางแผนที่จะต่อยอดธุรกิจตัวนี้ในส่วนของการเพิ่มขนาดของสินค้า และแตกไลน์สินค้าที่จะสามารถรองรับในการใช้งานได้มากขึ้น รวมถึงสามารถใช้งานในห้องพักได้มากขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้มีกลุ่มลูกค้าที่สนใจนำไปตกแต่งห้องค่อนข้างมากแต่ติดตรงที่ตอนนี้ยังมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอ เนื่องจากยังคงใช้แรงมือและแรงคนที่มีกำลังน้อย แต่ในอนาคตคาดว่าจะเติบโตและสามารถรองรับความต้องการได้มากขึ้น
ติดต่อเพิ่มเติมFacebook : P.a.d Banana Leaf ProductInstagram : p.a.d_studio
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *