xs
xsm
sm
md
lg

กรมพัฒน์ฯ เตรียมเชื่อมออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ชี้วิกฤตเป็นโอกาสผู้ส่งอาหาร และร้านอาหารรายได้เพิ่มหลายเท่าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ดันธุรกิจร้านอาหารที่ให้บริการพร้อมส่งแบบฟูดดีลิเวอรีโตแบบก้าวกระโดด ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว พนักงานส่งอาหารแบบฟูดดีลิเวอรียิ้ม ด้านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาผู้ประกอบการร้านอาหารนำเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการร้านค้า และส่งเสริมให้เชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน รองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด สร้างผลกำไรระยะยาวให้ธุรกิจ

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยได้ออกมาตรการคุมเข้มการระบาด โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้านเป็นหลักไม่ให้การแพร่ระบาดขยายไปในวงกว้าง รวมถึงขอความร่วมมือร้านอาหารต่างๆ จำกัดการให้บริการเฉพาะผู้ที่ซื้อกลับไปรับประทานที่อื่น หรือใช้บริการพนักงานส่งอาหาร (Food Delivery) เท่านั้น ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวทำให้ธุรกิจร้านอาหารที่มีการให้บริการส่งอาหารแบบฟูดดีลิเวอรีมียอดสั่งอาหารเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด

จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีการให้บริการแบบฟูดดีลิเวอรี พบว่ามียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดประมาณ 2-3 เท่าตัว ขณะเดียวกันก็ได้พูดคุยกับพนักงานส่งอาหารแบบดีลิเวอรี พบว่าช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีลูกค้าใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว ปกติจะวิ่งรถช่วงเวลาประมาณ 10.00-17.00 น. รายได้ประมาณ 250-300 บาท แต่พอเข้าสู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ขยายเวลาวิ่งรถตั้งแต่ 07.00-21.00 น.เนื่องจากมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รายได้ที่ได้รับก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกันเป็นประมาณ 500-700 บาทต่อวัน ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น รู้สึกยิ้มได้กว้างมากขึ้น

“จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการร้านอาหารของไทยให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยบริหารจัดการร้านค้า ส่งเสริมให้เชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) เข้าด้วยกัน เน้นทำการตลาดผ่านระบบฟูดดีลิเวอรีควบคู่ไปกับการบริการที่ดีเยี่ยมภายในร้าน รวมทั้งมีระบบการชำระเงินแบบออนไลน์ ซึ่งจะทำให้การบริการของผู้ประกอบการร้านอาหารของไทยครบวงจรมากขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เป็นการเพิ่มยอดขายและรายได้ให้แก่ธุรกิจในระยะยาว โดยหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงให้กรมฯ รีบดำเนินการทันที”




“เบื้องต้นกรมฯ เตรียมเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการร้านอาหารของไทยภายใต้โครงการ “Smart Restaurant 2020” โดยจะมีการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการจำนวน 2 รุ่น แบ่งเป็น 1) รุ่นมือใหม่ สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารที่ต้องการเพิ่มองค์ความรู้ระดับพื้นฐาน เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นประกอบธุรกิจร้านอาหาร โดยเนื้อหาจะเน้นเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ (Restaurant Branding) พื้นฐานการจัดการร้านอาหาร กลยุทธ์ธุรกิจดีลิเวอรี การทำการตลาดด้วยสื่อโซเชียลมีเดีย เทคโนโลยีสำหรับร้านอาหาร การจัดการสต๊อก/เมนูพื้นฐาน และการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเบื้องต้น”

“2) รุ่นมือโปร สำหรับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่มีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหารอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มพูนองค์ความรู้ใหม่ๆ เช่น การปรับตัวในยุค 5G การวางแผนระบบร้านค้าและการขยายสาขา เทคนิคการจัดการบัญชีร้านอาหาร การทำการตลาดด้วยสื่อโซเชียลมีเดียระดับสูง การบริหารการตลาดและกลยุทธ์การทำการตลาดผ่านระบบดีลิเวอรี และการประชาสัมพันธ์ร้านค้า”

สำหรับการทำการตลาดแบบ O2O คือการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำ สร้างฐานลูกค้าประจำ ขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขาย สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันคือ ต้องเชื่อมโลกออฟไลน์เข้ากับโลกออนไลน์อย่างลงตัว ผ่านระบบดีลิเวอรีที่จะช่วยสร้างผลกำไรให้ธุรกิจในระยะยาว ฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น ธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ก้าวทันโลกธุรกิจ ก็สามารถที่จะเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคได้อย่างไม่ยากด้วยเช่นกัน” รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563) มีนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจภัตตาคารร้านอาหารจำนวนทั้งสิ้น 15,260 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 106,461.97 ล้านบาท โดยในปี 2563 (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) มีผู้จดทะเบียนธุรกิจภัตตาคารร้านอาหารทั้งสิ้น 416 ราย ทุนจดทะเบียน 852.17 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 2,113 ราย ทุนจดทะเบียน 4,272.13 ล้านบาท ปี 2561 จำนวน 2,058 ราย ทุนจดทะเบียน 6,633.47 ล้านบาท และปี 2560 จำนวน 1,916 ราย ทุนจดทะเบียน 4,396.19 ล้านบาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2547-5963 e-Mail : bizservicedbd@gmail.com สายด่วน 1570 www.dbd.go.th




** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

SMEs manager


กำลังโหลดความคิดเห็น