สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จัดงานคล้ายวันสถาปนา ส.ป.ก. ครบรอบ 45 ปี ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชานำให้อยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข” โดยตลอดระยะเวลา 45 ปี ส.ป.ก. ดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน และเพิ่มศักยภาพพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร สู่ความผาสุก โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร เริ่มจากพัฒนาแหล่งน้ำ สนับสนุนพืชพรรณต่าง ๆ ตลอดจนลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสในการมีที่ดินทำกิน เพื่อให้เกิดความมั่นคง และยั่งยืน มีความรักหวงแหนผืนแผ่นดินไว้จนชั่วลูกหลาน ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม 2563 เวลา 08.00-17.00 น. ณ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 45 ปี ที่ผ่านมา ส.ป.ก. ได้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินตามเจตนารมณ์และปณิธานในการก่อตั้งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วยความมุ่งมั่น วิริยะ อุตสาหะ ในการปรับปรุงสิทธิและการถือครองที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมทั้งส่งเสริม การพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันได้ดำเนินการจัดที่ดินไปแล้วจำนวน 36.2 ล้านไร่ คิดเป็นเกษตรกร 2.9 ล้านราย ทั้งยังได้สนองนโยบายรัฐบาลในการจัดที่ดิน ทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ใน 8 จังหวัด จำนวน 21 พื้นที่ เนื้อที่ 20,541 ไร่ จัดให้เกษตรกร 1,490 ราย ภายใต้ การบริหารจัดการของสหกรณ์ 13 แห่ง โดย ส.ป.ก. ได้เข้าไปช่วยพัฒนาพื้นที่ให้มีความเหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรม และการดำรงชีพของเกษตรกร รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความมั่นคง
โอกาสนี้ เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้เชิญชวนร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนา ส.ป.ก. ครบรอบ 45 ปี ซึ่งจัดไปแล้ว 1 วัน เหลือสองวัน คือ ระหว่างวันที่ 6-7 มีนาคม 2563 ณ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก ซึ่งเหลือสองวันสุดท้ายโดยภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการรายภาค ทั้งหมด 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ : วนเกษตร ภูมินิเวศสู่ความยั่งยืน, ภาคใต้ : เขา ป่า นา เล, ภาคอีสาน : เศรษฐกิจดีมีมาตรฐานอินทรีย์ และภาคกลาง : ธุรกิจชุมชน จัดแสดงภายใต้แนวคิด “อยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข” และมีจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ร้านค้าวิสาหกิจชุมชนจากเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ มากกว่า 300 รายการ อาทิ ภาคเหนือ:พืชผักและผลไม้ กระเทียมอินทรีย์ หอมแดง กระเทียมพวง มะม่วงน้ำดอกไม้ และอาหารแปรรูป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เนื้อโคขุนย่าง หอม กระเทียม ข้าวอินทรีย์ ผลิตภัณ์จากผ้า ภาคกลาง: เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ผัก ผลไม้ ปลาช่อนแม่ลา ส่วนภาคใต้: ไข่เค็ม กะปิ กาแฟ ปลาจิ้งจ้าง และยังมี ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารแปรรูป อาหารปรุงสุก เครื่องดื่ม สมุนไพรผลิตภัณฑ์จากผ้า เครื่องจักสาน และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย พร้อมลานโปรโมชั่นสินค้านาทีทอง กิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัล กิจกรรม Workshop ต่าง ๆ และยังสามารถชำระเงินผ่าน QR code และ Mobile Banking ได้อีกด้วย