รมต.เกษตรฯ สั่งการให้การยางสำรวจพื้นที่เสียหายจากโรคใบร่วงในยางพารา คาดส่งผลกระทบต่อน้ำยางลดลงร้อยละ 30-50 หรือ ประมาณ 40,000 ตัน เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาแนวทางป้องกัน ไม่ให้ลุกลามในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เตรียมใช้งบการยาง จ่ายเกษตรกร 3,000 บาทต่อไร่
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สำรวจพื้นที่เสียหายจากโรคใบร่วงในยางพาราซึ่งพบที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี และตรังรวมพื้นที่กว่า 330,000 ไร่แล้ว โรคนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ซึ่งไม่เคยเกิดในยางพารา ต้นยางที่ติดโรคจะใบร่วง ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และน้ำยางลดลงร้อยละ 30 – 50 ตั้งแต่พบการระบาดในเดือนกันยายน ประมาณการณ์ว่า ผลผลิตยางลดลงกว่า 40,000 ตันแล้ว จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไข โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Pestalotiopsis sp. แพร่กระจายโดยลมและฝน หากมีมรสุมและฝนตกชุกในภาคใต้อีกครั้งจะทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ยาก จึงเน้นย้ำให้หาแนวทางป้องกันไม่ให้ลุกลามในพื้นที่ปลูกยางทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้
ด้านนายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ร่วมกับกยท. ส่งเจ้าหน้าที่แนะนำเกษตรกรให้หมั่นสำรวจต้นยาง หากสังเกตเห็นทรงพุ่มไม่สดชื่น ใบเหลืองแจ้งกยท. พื้นที่เพื่อตรวจสอบอาการ ซึ่งหากเป็นโรคใบร่วงต้องใส่ปุ๋ยบำรุงดินเพื่อให้ต้นยางพาราสมบูรณ์แข็งแรงและใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราได้แก่ Benomyl Hexaconazole Thiophanate Methyl Triadimefon และ Difenoconazole พ่นบริเวณทรงพุ่มยาง นอกจากนี้ยังพบเชื้อราชนิดเดียวกันในวัชพืชใต้ต้นยางจึงจำเป็นต้องฉีดพ่นสาร Thiophanate Methyl ลงพื้นดินด้วย
ขณะนี้กำลังประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสซึ่งมีพื้นที่เกิดโรคมากที่สุดเพื่อขออนุญาตฝ่ายความมั่นคงในการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราในแปลงใหญ่ยางที่อำเภอแว้งเป็นพื้นที่นำร่องเนื่องจากระดับทรงพุ่มต้นยางสูงถึง 15-20 เมตร รวมทั้งจะจัดหาเครื่องฉีดพ่นแรงดันสูงมาเสริม นอกจากพื้นที่ที่พบการระบาดแล้ว ยังจำเป็นต้องฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราในพื้นที่โดยรอบที่มีความเสี่ยงติดเชื้อด้วย หากสปอร์เชื้อราถูกลมพัดพาไปจะเกิดโรคในพื้นที่ใหม่ได้
นายกฤษดา กล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ร่วมประชุมทางวิชาการกับประเทศสมาชิกสภาวิจัยและพัฒนายางระหว่างประเทศ (IRRDB) ที่มาเลเซีย ขณะนี้ประเทศอื่นที่พบโรคใบร่วงได้แก่ อินโดนีเซียเสียหาย 2.3 ล้านไร่ มาเลเซีย 16,000 ไร่ อินเดีย ศรีลังกา 6,000 ไร่ นอกจากนี้ยังพบอาการใบร่วงของสวนยางในอินเดีย แต่ทางอินเดียระบุว่า เกิดจากเชื้อราสายพันธุ์อื่น ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรงดเคลื่อนย้ายทั้งยางชำถุง กิ่งตา และใบออกนอกพื้นที่ระบาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น ทางกยท. กำลังหาแนวทางที่เหมาะสมซึ่งอาจเป็นการจ่ายค่าชดเชยตามพ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย มาตรา 49 (5) ใช้งบประมาณของกยท. จ่ายให้เกษตรกร 3,000 บาทต่อราย ส่วนอีกแนวทางหนึ่งที่กำลังพิจารณาคือ ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการประกาศเขตภัยพิบัติซึ่งจะทำให้กรมส่งเสริมการเกษตรของบกลางจากรัฐบาลช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง หรืออาจสนับสนุนเป็นค่าสารป้องกันกำจัดเชื้อราและปุ๋ยบำรุงต้นยาง โดยอยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาด่วนที่สุด
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *