รอยเตอร์ - นายกเทศมนตรีเวนิสในวันพุธ(13พ.ย.) เรียกเมืองแห่งนี้ว่าเป็น "เขตภัยพิบัติ" หลังตลอดคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำขึ้นสูงแตะระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ เข้าท่วมโบสถ์โบราณสถาน ทำให้จัตุรัสทั้งหลายและตรอกซอกซอยต่างๆจมอยู่ใต้บาดาล
นอกจากนี้แล้วหน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่าชายท้องถิ่นรายหนึ่งจากเกาะเปลเลสตรินา หนึ่งในหลายๆเกาะในทะเลสาบเวนิเทียน เสียชีวิตจากการถูกฟ้าฝ่าระหว่างเปิดใช้งานเครื่องสูบน้ำ
เจ้าหน้าที่ของเมืองเผยว่าระดับน้ำขึ้นสูงสุด 187 เซนติเมตร ตอนเวลา 22.50น.วันอังคาร(ตรงกับเมืองไทย 04.50วันพุธ) ห่างจากสถิติสูงสุด 194 เซนติเมตรของปี 1966 แคไม่กี่เซนติเมตร
ลูกา ซาเยีย ผู้ว่าการแคว้นเวเนโต ให้คำจำกัดความภาพที่เกิดขึ้นว่าเป็นภัยพิบัติทำลายล้าง ส่วน ลุยจิ บรูกนาโร นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส บอกว่ามันเป็นสถานการณ์ที่น่าตกใจ "เราร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ค่าเสียหายคงสูงมาก นี่เป็นผลจากภาวะโลกร้อน" เขากล่าวในทวิตเตอร์
นายกเทศมนตรียังเผยต่อว่าเขาจะประกาศให้เมืองแห่งนี้เป็นเขตภัยพิบัติและร้องขอรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะเปิดทางสำหรับรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางเพื่อจัดการกับความเสียหายต่างๆ ท่ามกลางความคาดหมายว่าเหตุน้ำท่วมสูงครั้งนี้จะก่อความเสียหายทางการเงินหลายร้อยล้านยูโร
ด้านปรานเชสโก โมราเกลีย หัวหน้าบาทหลวงประจำเมืองเวนิสแถลงกับผู้สื่อข่าว เผยว่ามหาวิหารเซนต์มาร์ค โบราณสถานของเวนิส เสี่ยงได้รับความเสียหายจนไม่อาจบูรณปฏิสังขรณ์ได้อีก "มหาวิหารได้รับความเสียหายทางโครงสร้างเพราะระดับน้ำขึ้นสูง และมันเป็นต้นตอของความเสียหายที่ไม่อาจบุรณะได้"
ปรากฏการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้น้ำทะเลที่มีความเค็มสูงกัดกร่อนฐานรากของบ้านเรือนประชาชน, แหล่งธุรกิจและอาคารราชการ รวมถึงโบราณสถานทั้งหลาย
บริเวณจัตุรัสเซนต์มาร์ค ถูกน้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร ในขณะที่มหาวิหารเซนต์มาร์คที่อยู่ติดกันโดนน้ำท่วมเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 1,200 ปี แต่ในนั้น 4 ครั้งเกิดขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
คันกั้นน้ำท่วมถูกออกแบบขึ้นในปี 1984 เพื่อปกป้องเวนิสจากน้ำขึ้นสูงแบบเดียวกับที่เล่นงานเมืองเวนิสในวันอังคาร(12พ.ย.)และวันพุธ(13พ.ย.) แต่โครงการมูลค่าหลายพันล้านยูโร ที่เรียกกันว่า " Mose" ถูกห้อมล้อมไปด้วยเรื่องคอรัปชันอื้อฉาวและจนถึงบัดนี้ก็ยังใช้งานไม่ได้
ในตอนวันพุธ(1พ.ย.) ระดับน้ำลดลงสู่ระดับ 145 เซนติเมตร แต่คาดหมายว่ามันจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 160 เซนติเมตรในช่วงระหว่างวัน
เหตุน้ำขึ้นสูงยังเป็นชนวนให้เกิดไฟไหม้หลายจุด หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นที่หอศิลปะสมัยใหม่นานาชาติ Ca' Pesaro ขณะที่หน่วยดับเพลิงได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุไฟไหม้หลายร้อยสาย
ระดับน้ำที่ขึ้นสูงในเมืองเวนิส เกิดขึ้นในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของอิตาลีโดนฝนถล่มอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อน้ำท่วมในวงกว้าง โดยเฉพาะในทางภาคใต้ของประเทศ ท่ามกลางความคาดหมายว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลงไปกว่านี้อีกในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า