เฉาก๊วยเห็ดหูหนู การแปรรูปเห็ดหูหนู เพื่อเป็นทางเลือกให้คนที่ชื่นชอบการับประทานเห็ดเพื่อสุขภาพ โดยไอเดียเฉาก๊วยเห็ดหูหนู นี้ ในครั้งนี้ เป็นของ “สงกรานต์ หาญไชบนะ” เจ้าของเฉาก๊วยเห็ดหูหนูแบรนด์แม่นาย
คุณสงกรานต์ เล่าว่า สำหรับที่มาของเฉาก๊วยเห็ดหูหนู เริ่มขึ้นมาจาก เมื่อครั้งหนึ่งตนเองได้ไปอบรมการทำฟาร์มเพาะเห็ดครบวงจร ของโครงการลูกพระดาบส ที่จังหวัดสมุทรปราการ และในครั้งนั้น สอนทำฟาร์มเห็ดแบบครบวงจร รวมถึงการแปรรูปเห็ด และตนเองก็เรียนการทำเฉาก๊วยเห็ดหูหนู จากที่โครงการพระดาบสด้วย
สำหรับการทำเฉาก๊วยเห็ดหูหนูขาย เริ่มขึ้นปี 2559 หลังจากทำฟาร์มมาได้สักระยะ เกิดปัญหา คือ มีคนทำฟาร์มเห็ดเยอะมาก ทำให้เห็ดราคาตกมาก ตอนนั้นคิดถึงการแปรรูปเห็ดที่ได้อบรมมา ซึ่งตอนอบรมก็มีหลายเมนู แต่ส่วนใหญ่ก็มีคนทำกันเยอะแล้ว แต่เฉาก๊วยเห็ด ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ก็เลยตัดสินใจทำเฉาก๊วยเห็ด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
คุณสงกรานต์ บอกว่า ที่เลือกทำเฉาก๊วยเห็ดหูหนู ไม่ได้แค่ต้องการเพิ่มมูลค่าเห็ดที่เพาะปลูกไว้เท่านั้น แต่ก่อนจะทำขายก็ทำเฉาก๊วยเห็ดหูหนูรับประทานเองอยู่แล้ว เพราะตนเองเป็นคนธาตุไฟ เหงื่อออกเยอะมาก และมีกลิ่นตัว ซึ่งเป็นปัญหากับการเข้าสังคมหรือพบปะผู้คน ซึ่งการแก้ปัญหาตรงนี้ คือ การหาอาหารที่เป็นธาตุเย็นรับประทาน และเฉาก๊วยกับเห็ด เป็นยาเย็น ก็ลองทำกินอย่างจริงจังกินมาได้ 5-6 เดือนปรากฏว่า อาการเหงื่อออกเยอะ หรือ กลิ่นตัวหายไป และทำให้เพื่อน และต้อนรับแขกที่มาที่บ้าน ทุกคนชื่นชอบ และให้ทำขาย ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นทำขาย โดยทำขายที่ตลาดนัด ในจังหวัดกาฬสินธ์
การทำเฉาก๊วยเห็ดหูหนูในช่วงแรก เป็นนำทั้งสองอย่างมาผสมกัน แต่เก็บได้ไม่นาน และก็จะแยกกันไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ก็ลองปรับสูตร ประมาณ 1 ปี โดยการเห็ดมาตุ๋นกับน้ำเฉาก๊วย น้ำเฉาก๊วยซึมเข้าไปเป็นเนื้อเห็ด ซึ่งรสสัมผัสที่ได้ คือ เป็นเฉาก๊วยที่มีความกรุบกรอบของเห็ด และมีความหนึบเหมือนการกินเฉาก๊วย หลังจากปรับสูตรได้รับการตอบรับดีมากเดิม คนจะมีความรู้สึกถึงความเป็นเฉาก๊วยเห็ดมากกว่า สูตรเดิม
ในส่วนของการรับประทานเฉาก๊วยเห็ดหูหนู เหมือนกับเครื่องดื่มทั่วไป คือ ใส่ในแก้วพลาสติก เติมน้ำแข็ง และเติมเครื่องดื่ม น้ำเชื่อม หรือ น้ำหวาน ได้เหมือนกับเครื่องดื่มทั่วไป และยังได้บรรจุใส่ขวด โดยส่งขายให้กับโรงเรียน เพราะทางโรงเรียนเองก็อยากให้เด็กได้รับประทานเครื่องดื่มและขนมหวานที่ประโยชน์ จึงเลือกเฉาก๊วยเห็ดหูหนูเข้าไปขาย
ส่วนราคาขายเฉาก๊วยเห็ดหูหนู อยู่ที่กิโลกรัมละ 180 บาท (ในช่วงที่เห็ดราคา 70-80 บาท) แต่ถ้าช่วงที่เห็ดราคาลดลงเหลืออยู่ที่ 50-60 บาท ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท แต่ถ้าตลาดนัดขายเป็นแก้วละ 35 บาท โดยเห็ด 1 กิโลกรัม ขายได้ 40 แก้ว ซึ่งที่ผ่านมา ขายช่องทางตลาดนัด แห่งเดียว ขายได้วันละ 50-80 แก้ว
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา มีแผนจะเพิ่มยอดขาย และมีคนติดต่อขอสูตร ขอเป็นแฟรนไชส์ และต้องการจะรับสินค้าของเราไปจำหน่าย แต่ปัญหาที่ยังไม่สามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าไปจำหน่ายได้ เพราะเฉาก๊วยเห็ดหูหนู ต้องทำสดใหม่ แบบวันต่อวัน เนื่องจากเห็ดเมื่อโดนน้ำตาล ก็จะเกิดเชื้อราได้ง่าย ซึ่งตอนนี้ ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปทางศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจชุมชน ของมหาวิทยาลัย ในจังหวัดกาฬสินธุ์ และยังได้รับความช่วยเหลือ จากศูนย์อุตสาหกรรมภาค 5 ในขั้นตอนการยืดอายุ การทำบรรจุภัณฑ์ โดยเร็วๆ นี้ จะมีการเฉาก๊วยเห็ดหูหนูกระป๋อง และถ้างานวิจัยออกมาสมบูรณ์ เมื่อไหร่ ทางอุตฯภาค 5 ก็จะช่วยดำเนินเรื่องในขั้นตอนการขอ อย.ด้วย
สนใจโทร.06-4624-6635
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
กำลังโหลดความคิดเห็น