การสืบทอดงานฝีมือจากรุ่นสู่รุ่นมีให้เห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะงานที่ต้องอาศัยความละเอียดและประณีต อย่างการทำเครื่องเงิน แต่นับวันคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจน้อยลง ทำให้ “เครื่องเงินชมพูภูคา” แห่งเมืองน่านคิดถ่ายทอดงานสู่คนรุ่นใหม่เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เครื่องเงินของชนเผ่าเมี่ยน พร้อมสร้างงานสร้างอาชีพแก่คนในชุมชน
เป็นที่รู้กันว่า จ.น่านขึ้นชื่อในเรื่องของ “เครื่องเงิน” จากฝีมือที่มีความประณีตทุกขั้นตอน หนึ่งในนั้นคือ 'บริษัท ชมพูภูคา จำกัด' ที่มีการสานต่อองค์ความรู้เหล่านี้จากรุ่นสู่รุ่น โดยปัจจุบันทายาทธุรกิจ “นายตันติกร วรรณวิภูษิต” นั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ดูแลและสานต่อธุรกิจนี้แบบเต็มตัว ด้วยความหวังที่ว่าต้องการให้เครื่องเงินที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษให้คงอยู่ต่อไป โดยธุรกิจนี้เริ่มจากคุณอาของเขา 'นายกมล แซ่เต็น' ชาวชนเผ่าเมี่ยน มีฝีมือในการทำเครื่องเงิน โดยผลงานที่โดดเด่นคือ สร้อยคอ 9 สาย มีการผลิตและนำไปจำหน่ายที่ร้านลานนา จ.เชียงใหม่ กระทั่งผลงานดังกล่าวถูกนำไปทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทำให้นายกมลได้เข้าไปเป็นช่างเครื่องเงินในวัง
กระทั่งปี พ.ศ. 2537 นายกมลได้กลับมาบ้านเกิดก็มาพัฒนาช่างเครื่องเงิน พร้อมสร้างงานหัตถกรรมในครัวเรือนให้เป็นที่แพร่หลาย แต่ก็เกิดปัญหาในเรื่องการถูกตัดราคากันเองในกลุ่ม ดังนั้นเขาแก้ปัญหาด้วยการตั้งสหกรณ์ชมพูภูคาขึ้น เปิดรับงานของชาวบ้านทั้งหมด ต่อมาตั้งเป็น บริษัท ชมพูภูคา จำกัด
เครื่องเงินภายใต้แบรนด์ชมพูภูคาถือเป็นหัตถกรรมเมืองน่าน เป็นเครื่องเงินทำมือ เครื่องประดับที่มีมาแต่โบราณของชนเผ่าม้งและเมี่ยน ซึ่งเป็นชนเผ่าชาวเขาในพื้นที่สูงของ จ.น่าน เชี่ยวชาญงานเครื่องเงินมาแต่ยุคโบราณ โดยลวดลายเครื่องเงินที่สลักลงลายมีความเฉพาะตัว ปัจจุบันมีการผลิตและจำหน่าย รวมถึงยังจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ และฝึกอาชีพให้คนในชุมชนกว่า 200 ครอบครัว การันตีคุณภาพด้วยรางวัลสินค้าโอทอป ระดับ 5 ดาว และกลายเป็นของฝากอันเลื่องชื่อของเมืองน่าน
สำหรับเครื่องเงินของชมพูภูคาแบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม 1 คือ ผู้ผลิตเครื่องเงินแบบดั้งเดิมของเมืองน่าน เช่น ขันเงิน เชี่ยนหมาก กลุ่ม 2 คือ ช่างชาวเขา เป็นเครื่องเงินในรูปแบบของชาวเขา และกลุ่ม 3 คือกลุ่มโรงงานมีทั้งชาวต่างชาติและคนไทยเข้ามาตั้งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดน่าน โดยจุดเด่นของเครื่องเงินชมพูภูคาอยู่ที่งานแฮนด์เมด งานละเอียด เป็นงานตอกลาย เลือกใช้สิ่วละเอียด เน้นคุณภาพ และรูปแบบปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ไม่หยุดนิ่ง รวมถึงยังเน้นการผสมผสานระหว่างแบบสมัยใหม่กับแบบชาวเขาเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้กลุ่มลูกค้าเครื่องเงินชมพูภูคาค่อนข้างกว้าง และสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด โดยสัดส่วนการจำหน่ายประมาณ 70% เป็นการขายหน้าร้าน 20% ขายส่ง และอีก 10% ส่งออก ไปยังประเทศอาร์เจนตินา และบราซิล เป็นต้น
จากคุณภาพและศักยภาพในธุรกิจเครื่องเงินของชมพูภูคา ทำให้ภาครัฐบาลเล็งเห็นและพร้อมให้การสนับสนุน โดยได้รับอนุมัติวงเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จากคณะกรรมการกองทุนบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐจังหวัดน่าน จำนวน 3 ล้านบาท และได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ในโครงการ SMEs Tranformation Loan จำนวน 5 ล้านบาท รวมถึงยังได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงิน 5 ล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวนายตันติกรจะนำมาปรับปรุงภูมิทัศน์ และขยายกิจการ รวมถึงการทำพิพิธภัณฑ์เครื่องเงินเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาดูงานสำหรับผู้ที่สนใจ และเป็นแหล่งอนุรักษ์เครื่องเงินชาวเขาเผ่าเมี่ยน และม้ง ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ต.ค.นี้ หวังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ก จ.น่านที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด
ถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่ภาคเอกชนมีความตั้งใจจริงในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมาพร้อมกับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐฯ ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตยั่งยืน แถมยังช่วยสร้างชุมชนเข้มแข็งได้ในทางอ้อม
***สนใจติดต่อ 254 ม.4 ถ.น่าน-พะเยา ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน โทร. 0-5471-0177, 09-1003-7687***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
