เค้กฝอยทองชิ้นเล็ก แสนอร่อย แบรนด์ ‘ศรีฟ้าเบเกอรี่’ ที่วางขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อชื่อดังนั้น มีต้นกำเนิดความอร่อยและความคิดสร้างสรรค์มาจากจังหวัดกาญจนบุรี ไอเดียของ “วิเชียร เจนตระกูลโรจน์” ประธานกรรมการ ศรีฟ้ากรุ๊ป ที่ตอนแรกตั้งใจจะปั้นเค้กฝอยทองให้เป็นของดีเมืองกาญจน์ แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นสินค้าขายดี ที่จำหน่ายไปทั่วประเทศ
กว่าจะมีวันนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เจ้าพ่อเค้กฝอยทองเริ่มต้นธุรกิจเบเกอรี่ของตนภายในครัวเรือน อบขนมปัง ทำขนมเค้กขายทั่วไป อาศัยแรงงานเพียง 3-4 คน วิเชียรยังจำได้ดีว่าวันแรกขายได้เพียง 37 บาทเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ท้อถอย ยังคงฮึดสู้ พัฒนาคุณภาพและรสชาติสินค้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งขายดี เป็นที่ยอมรับในท้องตลาด
เมื่อสะสมประสบการณ์จนมั่นใจในระดับหนึ่ง รวมทั้งมีโอกาสได้เปิดโลก ศึกษาดูงานการทำเบเกอรี่ทั้งในและต่างประเทศ เขาจึงเริ่มคิดสร้างความแตกต่าง เติมเอกลักษณ์ให้กับตัวสินค้า และนี่เป็นที่มาของการคิดค้นเมนูเค้กฝอยทองนั่นเอง
“ตอนที่บินไปศึกษาการทำเค้กฝอยทอง ผมจะเตรียมวัตถุดิบจากเมืองไทยไปด้วย เพื่อพิสูจน์คุณภาพเครื่องจักรว่าทำได้จริงตามที่ต้องการหรือไม่ ใช้เวลาประมาณ 2 ปี กว่าจะได้เครื่องจักรและสูตรขนมที่อร่อยลงตัว ระหว่างขนมไทยอย่างฝอยทอง และขนมนอกอย่างเค้ก หนึ่งในบทพิสูจน์ความสำเร็จคือ การที่เจ้าหน้าที่เซเว่น-อีเลฟเว่น ได้มาชิมเค้กฝอยทองของเรา แล้วเกิดติดใจ ออกปากชวนให้ทำส่งขายเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีความต้องการสินค้าหลักหมื่นชิ้นต่อวัน”
นี่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต วิเชียรต้องลงทุน 180 ล้านบาท สำหรับสร้างโรงงานใหม่เพื่อผลิตเค้กฝอยทองป้อนส่งร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง แต่ก็เป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่า น่าลอง รวมทั้งมีการปรับโฉมและพัฒนาสินค้าให้มีขนาดเล็กลงแล้วบรรจุซองขาย เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบซื้อได้โดยสะดวก ทั้งนี้ กำลังการผลิตของโรงงาน สามารถผลิตสินค้าประเภทเค้กได้มากถึงหลักแสนชิ้นต่อวัน เพราะวิเชียรมองไกลไปถึงอนาคตที่พร้อมรองรับออเดอร์ได้ไม่อั้น
ปัจจุบันศรีฟ้ากรุ๊ปก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่รายใหญ่ในกาญจนบุรี และไม่ได้มีดีแค่เค้กฝอยทอง ทุกวันนี้ธุรกิจเบเกอรี่เติบโตต่อเนื่อง แตกแขนงเป็น 3 บริษัท แตกไลน์การผลิตออกเป็น 4 สาย กับขนม 4 ประเภทที่แตกหน่อไปได้อีกนับ 1,000 ไอเทม บนพื้นที่โรงงานกว่า 20 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และมีพนักงานรวมกว่า 800 คน
ไลน์การผลิตทั้ง 4 สาย ได้แก่ หนึ่ง โรงงานผลิตแป้งโดว์แช่แข็งสำหรับทำขนมให้กับลูกค้าในลักษณะ B2B ตั้งแต่ร้านเบเกอรี่ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ต้องการลดขั้นตอนการผลิตแป้ง โดยสามารถนำแป้งแช่แข็งไปแปรรูปเป็นขนมปัง พาย เค้ก ได้สารพัด โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 700 กิโลกรัม/ชั่วโมง สอง โรงงานผลิตเค้ก โดยเฉพาะเค้กฝอยทอง สินค้าชูโรงที่ผลิตและขายส่งร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นมากว่า 8 ปี สาม โรงงานผลิตเบเกอรี่อบร้อน เช่น ขนมปังแซนด์วิช ผลิตและจำหน่ายให้กับร้านแฟมิลี่มาร์ทเป็นหลัก ทั้ง 3 ไลน์การผลิตอยู่ภายใต้การบริการโดยบริษัท ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด จำกัด
และสี่ โรงงานผลิตขนมไทย สินค้าดาวเด่นคือ ขนมทองม้วนแบรนด์ ‘สุธีรา’ ที่เปิดไลน์การผลิตมาได้ประมาณ 5-6 ปี อยู่ในการดูแลของบริษัท สุธีรา เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งนอกจากจะผลิตและขายภายในประเทศ ผ่านหน้าร้านของบริษัทเองคือ ร้านศรีฟ้าเบเกอรี่ และผลิตเสิร์ฟสายการบิน รีสอร์ทและโรงแรมต่างๆ ตลาดหลักของทองม้วนสุธีรากลับเป็นตลาดส่งออกที่มีสัดส่วนถึง 80% โดยส่งออกไปยังประเทศจีน แคนาดา สหรัฐฯ เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นต้น
“ผมมีความคิดตั้งแต่แรกเริ่มว่า อยากจะสร้างทองม้วนให้เป็นสินค้า Global Brand และเราก็ทำได้จริงๆ ปัจจุบันเราทำการรีแบรนด์ดิ้งทองม้วน ‘สุธีรา’ โดยปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีความร่วมสมัย เน้นเจาะกลุ่ม Gen Y มีกำลังการผลิตทองม้วนอยู่ที่ประมาณ 2 ตันต่อวัน นอกจากนี้ ยังได้ขยายโรงงานเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด OEM โดยผลิตและติดแบรนด์ป้อนให้กับบริษัทต่างๆ ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา อังกฤษ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ จีน สหรัฐอเมริกา เกาหลี และญี่ปุ่น”
ส่วนอีกหนึ่งบริษัทภายใต้ร่มศรีฟ้ากรุ๊ปนั้น คือ บริษัท ศรีฟ้า เบเกอรี่ จำกัด นั้น จะดูแลร้านศรีฟ้าเบเกอรี่ที่มีอยู่ 16 สาขาทั่วประเทศ โดยในปีนี้ (2560) วิเชียรมีแผนที่จะรีโนเวทสาขาที่มียอดขาย 1 ล้านบาทต่อเดือนขึ้นไป และจะขยายพื้นที่ร้านเพิ่มในส่วนของร้านที่ตั้งอยู่ในร้านแฟมิลี่มาร์ท ที่สำคัญเขามีแผนที่จะควบรวมบริษัท สุธีรา เอนเตอร์ไพรส์ เข้าไว้กับบริษัท ศรีฟ้า โฟรเซนฟู้ด เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า นั่นคือ การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลายปี 2562
วิเชียรเผยว่า ปัจจุบันยอดขายเค้กฝอยทองและท้องม้วนมีสัดส่วนเท่าๆ กันอยู่ที่ 10 กว่าล้านบาทต่อเดือน ปกติแล้วสินค้าจะมีช่วงเวลาขึ้น-ลง เป็นไปตามกลไกตลาด แต่สำหรับเค้กฝอยทองนั้น ต้องยอมรับว่าความนิยมแรงดี ไม่มีตก เนื่องจากรสชาติความอร่อยที่ขายตัวเองได้ ที่สำคัญยากต่อการลอกเลียนแบบ เพราะมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยาก ทั้งๆ ที่เป็นเค้กแช่แข็ง แต่วิเชียรมีเคล็ดลับและเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถทำเนื้อเค้กให้ได้คุณสมบัติเช่นเค้กสด ลูกค้าจึงมีแต่เพิ่มขึ้น ไม่มีลด
ปัจจุบันธุรกิจเบเกอรี่แข่งขันค่อนข้างรุนแรง โดยมีผู้เล่นรายใหญ่ทั้งไทยและเทศ ต่างลงสนามขับเคี่ยวเพื่อแบ่งเค้กก้อนใหญ่นี้ เอสเอ็มอีรายใดอยากจะเดินเข้ามาในเส้นทางสายนี้ วิเชียรแนะนำว่า ต้องรู้จักสร้างความแตกต่าง เช่น รสชาติ และบรรจุภัณฑ์ ที่สำคัญต้องมีช่องทางจำหน่ายที่ไม่ทับซ้อนกับผู้เล่นรายใหญ่ โดยอาจใช้วิธีวางสินค้าตามหน้าร้านขายของเล็กๆ เพื่อศึกษาตลาด ก่อนที่จะบุกเข้าไปในช่องทางจำหน่ายขนาดใหญ่ เช่น โมเดิร์นเทรด ต่อไป
“ศรีฟ้าเองก็ต้องปรับตัว อย่างหน้าร้านของเราจะไม่ใช่แค่ร้านขายของฝากอีกต่อไป เรากำลังมุ่งสู่การเป็น Seat and Service ในชื่อ ‘ศรีฟ้า คอฟฟี่’ ที่ลูกค้าสามารถมานั่งพักผ่อนและทำกิจกรรมได้ด้วย เรานำร่องเปิดสาขาแล้วที่กาญจนบุรี ในปี 2560 นี้จะขยายสาขาไปที่ศาลายา และในอนาคตราวๆ 1 ปีครึ่งข้างหน้า ผมตั้งใจจะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์”
ความสำเร็จของศรีฟ้ากรุ๊ปตลอด 3 ทศวรรษ ต้องยกย่องผู้บริหารอย่างวิเชียรที่มีความคิดที่เป็นระบบ แม้จะมุ่งสร้างเมนูที่แตกต่าง หลากหลาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำแบบตามใจฉัน ทุกสิ่งล้วนเกิดจากการศึกษาบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้ สินค้าที่ผลิตออกมาจากโรงงาน จึงชนะใจลูกค้ามาโดยตลอด เหนืออื่นใด คือ ความใจสู้ของวิเชียรที่ไม่ยอมแพ้ รวมถึงเพื่อนร่วมทางอย่างบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในวันนี้
“บสย. ถือเป็นหน่วยงานที่ดีมากสำหรับเอสเอ็มอี ในการเป็นกลไกช่วยให้เข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินได้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ของตัวเอง ซึ่งในส่วนของเรา ต้องการเงินทุนมาพัฒนาร้านขายของฝากที่กาญจนบุรีให้มีมาตรฐานมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจที่จะจับจ่าย จึงขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และให้ บสย.ค้ำประกัน ทำให้ได้เงินทุนมาขยายพื้นที่ชั้นล่างเพิ่มขึ้น 300 ตร.ม. ชั้นบนขยายอีก 1,000 ตร.ม. นอกจากนี้เราไม่ต้องการให้ศรีฟ้าเบเกอรี่มีภาพลักษณ์ที่ห่างไกลชุมชน เราจึงรับสินค้าโอทอปเข้ามาจำหน่ายภายในร้านด้วย เพราะเรารวยคนเดียวไม่ได้ ถ้าชุมชนอยู่ไม่ได้” วิเชียร กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อ โทร. 034-613074-6 หรือ www.srifabakery.co.th
บทความโดย : บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *