xs
xsm
sm
md
lg

“กาแฟกลิ่นไวน์” อีกขั้นการพัฒนาผู้ประกอบการกาแฟไทย... ด้วยเทคนิคชงแบบดริป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บูทที่เปิดในงาน OTOP MIDYEAR 2017
กาแฟกลิ่นเหมือนไวน์ เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ ร้านกาแฟ ที่เข้าร่วม โครงการ G-Valley ต้นแบบของการทำธุรกิจที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการ Geniusในหลักสูตร Genius Academy ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุน โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายของโครงการเพื่ออบรมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านวิสัยทัศน์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยคัดเลือกผู้ประกอบการจากคุณสมบัติ สำคัญ คือ ความฝัน ความมุ่งมั่น ศักยภาพ และความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงความตั้งใจไม่หยุดแสวงหาโอกาสประกอบกับความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ และความเป็นไปได้ที่จะนำผลิตภัณฑ์มาต่อยอดเชิงพาณิชย์
นายสุทัศน์ ทองละเอียด เจ้่าของ
ที่ผ่านมา จี-วัลเล่ย์ ได้นำผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่น ทางด้านผลิตภัณฑ์ มาโชว์ในงาน OTOP MIDYEAR 2017 ภายใต้ คาเฟ่ แห่งรัก โดยการนำเครื่องดื่ม กาแฟกลิ่นเหมือนไวน์ และไอศกรีมผลไม้ สด ผลไม้อบแห้งฯลฯ มาโชว์ในงาน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ และการรับประทานไอศกรีม ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
การชงกาแฟ แบบดริป
ครั้งนี้ มาทำความรู้จัก กับ กาแฟกลิ่นเหมือนไวน์ เป็นผลงานของ “ คุณสุทัศน์ ทองละเอียด” เล่าว่า ที่มาของกาแฟกลิ่นเหมือนไวน์ ในครั้งนี้ มาจาก ตนเองได้วัตถุดิบเมล็ดกาแฟ คุณภาพดี ผ่านการปลูกด้วยเทคนิคพิเศษ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีกว่า กาแฟแต่ละที่จะให้รสชาติที่จะแตกต่างกัน จากสถานที่ปลูก และกาแฟกับไวน์ มีความเหมือนอยู่เรื่องหนึ่ง นั้นก็คือกลิ่นและรสชาติจะแปรผันตามคุณสมบัติของดินและอากาศมากๆ ถ้าหากพันธุ์เดียวกันปลูกในที่คนละที่ คนละระดับความสูง หรือปีไหนร้อน หนาว ฝนชุกก็จะทำให้รสชาติเปลี่ยนแปลงไปทันที วิธีการเก็บก็มีผลก็เช่นกัน หากเก็บผลที่ยังไม่สุกปนมาด้วยรสชาติก็จะด้อยลง เป็นต้น

สำหรับกาแฟ ที่ผมนำมาใช้ในครั้งนี้ เลือกกาแฟ จากไร่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ปลูกบนที่สูงอากาศจะหนาวและชื้นทั้งปี ต้นกาแฟของที่นี่จึงให้ผลกาแฟที่สุกช้ากว่าแหล่งดอยอื่นที่อยู่ต่ำกว่า ไม่น้อยกว่า 2เดือน จึงทำให้เกิดการสะสมความหอมที่ซับซ้อน คือเป็นความหอมที่มีความนุ่มนวล อมหวาน ไม่หอมเปรี้ยว ไม่เข้มฉุน และเมื่อ นำมาผ่านกระบวนการบ่มเมล็ดกาแฟด้วยเอนไซม์ สายพันธุ์พิเศษ และคุมคุมปัจจัยต่างๆ ทั้งเวลาและอุณหภูมิ ทำให้กาแฟของที่นี่มีกลิ่นหอมของไวน์ โดยไม่ต้องเทไวน์ลงไปผสม ที่สำคัญ ยังให้รสชาติกาแฟที่นุ่มนวลกว่ากาแฟทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ ยังไม่ใช่ขั้นตอนสุดท้าย เพราะเป็นเพียงแค่เริ่มต้นของการได้เมล็ดกาแฟ คุณภาพ แต่การที่จะได้กาแฟกลิ่นเหมือนไวน์ นั้นจะต้องนำเมล็ดกาแฟที่ได้มาบด และผ่านกระบวนการชง ด้วย กรรมวิธีการชงกาแฟในแบบที่เรียกว่า ดริป นั้นเอง ซึ่งวิธีการชงกาแฟแบบดริป คือ การเทน้ำร้อนหมุนวนเป็นทางเดียวกัน ให้น้ำค่อยๆซึมผ่านกาแฟคั่วบด ทำให้ยังคงกลิ่นและรสชาติของกาแฟไว้ได้ดีกว่าการชงผ่านเครื่องทำกาแฟ เคล็ดลับของกาแฟกลิ่นเหมือนไวน์ทั้งหมดนี้ ได้ถูกนำมาใช้เกิดเป็น กาแฟแก้วโปรดของใครหลายคนไปแล้ว ผ่าน ฝีมือการชงกาแฟ ของ คุณ สุทัศน์ บาริสต้าคนเก่ง ที่ทุกคนจะได้รู้จักกาแฟของเขามากขึ้น ในรูปแบบของร้านกาแฟ ในเร็วๆ นี้

คุณสุทัศน์ เล่าถึง แนวทางการทำตลาด ของเขาในอนาคต อันใกล้นี้ ว่า เขาตั้งใจ จะเปิดร้าน แต่ตอนนี้อยุ่ระหว่างการหาทำเลที่ตั้ง และแผนต่อมา คือ การเปิดขายแฟรนไชส์ ซึ่งช่วงนี้ เป็นช่วงของการแนะนำให้คนไทยได้รู้จัก และได้ชิมรสชาติของกาแฟกลิ่นเหมือนไวน์ ให้มากขึ้น โดยผ่าน การออกร้านร่วมกับ ผู้เข้าอบรม จี- วัลเล่ย์ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

สนใจโทร. 08-4163-9245 Line :@g-valley
คัดเลือกเมล็ดกาแฟ ที่ดี ถึงจะได้กาแฟกลิ่นไวน์
ราคากาแฟ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น