กสอ.ผนึก สสว.เร่งแก้ปัญหาหนี้เสียของธุรกิจระดับเอสเอ็มอี ระบุเสริมศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถการแก้แข่งขัน ควบคู่เปิดโอกาสได้รับเงินทุนฟื้นฟูธุรกิจ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท เงื่อนไขไร้ดอกเบี้ย วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย คืนใน 7 ปี แจงคืบหน้าล่าสุดมีทั้งอนุมัติแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากปัญหาสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ของสถาบันการเงินในกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะระดับเอสเอ็มอีที่เพิ่มมากขึ้น และยังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งในด้านโปรแกรมการช่วยเหลือทางด้านการเงินและโปรแกรมการพัฒนาต่างๆ ของกรมฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารการเงิน การประเมินความเสี่ยงของการลงทุน การยกระดับธุรกิจด้วยระบบดิจิตอล ซึ่งจะช่วยให้ทำธุรกิจประสบความสำเร็จได้สูงขึ้น เท่ากับเป็นการลดการเกิดหนี้เสียไปพร้อมกัน
นอกจากนั้น เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีที่มีหนี้เสียสามารถขอรับสินเชื่อเพื่อมาฟื้นฟูธุรกิจให้มีศักยภาพอีกครั้ง ควบคู่กับการพัฒนาผ่านโปรแกรมต่างๆ ของกรมฯ และเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์เพื่อให้เอสเอ็มอีมีรายได้เพิ่มขึ้น มีเงินทุนมาหมุนเวียนและสามารถนำกลับไปชำระหนี้ได้อย่างสม่ำเสมอจนพ้นจากการเป็น NPL ตลอดจนสามารถเข้าสู่ระบบการเงินปกติได้อีกครั้ง โดยการช่วยเหลือดังกล่าวได้ดำเนินการผ่านกองทุนส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอี มูลค่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการพลิกฟื้นวิสาหกิจขนาดย่อม 1,000 ล้านบาท และโครงการฟื้นฟูวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 2,000 ล้านบาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดการเป็น NPL ของธุรกิจเอสเอ็มอีที่กำลังประสบปัญหาได้ระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการปล่อยอนุมัติเงินกู้ไปแล้วบางส่วน และอีกส่วนหนึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาการให้กู้ยืม ซึ่งกองทุนดังกล่าวนี้มีเงื่อนไขไร้ดอกเบี้ย ในวงเงินให้ยืมสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย กำหนดระยะใช้คืนภายใน 7 ปี
ดร.พสุเผยด้วยว่า นอกเหนือจากการให้เงินทุนกู้ยืมแล้ว หน่วยงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมจะเข้าไปให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจ เช่น การวางแผนธุรกิจ การจัดทำบัญชี การบริหารจัดการด้านต่างๆ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการสร้างช่องทางการตลาดใหม่ๆ เป็นต้น
“เชื่อว่ากองทุนเหล่านี้จะช่วยยกระดับเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าสู่ระบบการเงินปกติได้โดยเร็ว ช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยรักษาอัตราการจ้างงาน และช่วยให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้นี้” อธิบดี กสอ.ระบุ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *