ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ หลัง บสย. จัดงานเปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับธนาคารพันธมิตร เพื่อประกาศความพร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS6) วงเงิน 100,000 ล้านบาท ถึงปัจจุบันพบว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากธนาคารต่างๆ ตอบรับเข้าร่วมโครงการ โดยมีธนาคารที่ร่วม MOU แล้วทั้งสิ้น 16 แห่ง และคาดว่าจนถึงสิ้นปี ธนาคารที่เหลืออีก 3 ธนาคารจะร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบสย. ภายในสิ้นปีนี้ (2559)
ภายในช่วง 1 สัปดาห์ หลายธนาคารเริ่มมีการอนุมัติสินเชื่อโดยใช้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุนฯ ผ่านโครงการนี้แล้ว อาทิ ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ซึ่งถือได้ว่าโครงการนี้ ออกมาได้สอดรับกับการเร่งปล่อยสินเชื่อช่วงในช่วงปลายปีของธนาคารต่างๆ อย่างพอดิพอดี
เพื่อเตรียมการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในส่วนกระบวนการภายในของ บสย. ก็ได้เตรียมความพร้อมรับคำขอค้ำประกันฯ จากธนาคารต่างๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจนถึงสิ้นปี 2559 จะสามารถค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการผ่านโครงการนี้ได้ 3,000 ล้านบาท และตลอดโครงการซึ่งสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561 จะสามารถช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้ 33,000 ราย
“SMEs ทวีทุน” หรือเรียกอีกชื่อว่า PGS6 เป็นโครงการต่อเนื่องมาจาก PGS5 ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุน โดยเป็นหนึ่งในมาตรการรัฐในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs แบบต่อเนื่อง
ย้อนกลับไป PGS (Portfolio Guarantee Scheme) เป็นโครงการที่ค้ำประกันสินเชื่อที่ บสย. พัฒนาขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการทั่วไป โดยค้ำประกันเป็นรายพอร์ตแต่ละธนาคาร ถือเป็นโครงการซีรี่ส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยโครงการ PGS 1- 4 วงเงิน 120,000 ล้านบาท (ตั้งแต่ปี 2552-2555) และ โครงการ PGS 5 วงเงิน 2.6 ล้านบาท (2556-2559) บสย. สามารถช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้ถึง 142,558 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 477,211 ล้านบาท มียอดสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติถึง 778,292 ล้านบาท
ถือเป็นการใช้กลไกการค้ำประกันสินเชื่อ ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และการเข้าถึงแหล่งทุน จนโครงการเป็นที่เชื่อมั่นกับธนาคารในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
มาครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 6 เพื่อสร้างการจดจำที่ง่ายขึ้น และสื่อถึงความหมายของโครงการได้ง่ายขึ้น บสย. ได้ทำการเปลี่ยนชื่อมาเป็นโครงการค้ำประกันสินเชื่อ “SMEs ทวีทุน” เพื่อบ่งบอกคุณสมบัติโครงการ ที่เป็นการช่วยเหลือ SMEs เพื่อเสริมสภาพคล่อง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุน ขยายกิจการ ฯลฯ
วันนี้ผู้ประกอบการรายไหน ต้องการขอสินเชื่อธุรกิจ สามารถเข้าไปติดต่อที่ธนาคาร โดยระบุว่าต้องการให้ บสย.ค้ำประกันในโครงการ SMEs ทวีทุน หรือจะเป็นโครงการค้ำประกันอื่นๆ ของ บสย. ซึ่งมีอย่างหลากหลายในปัจจุบัน
ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมหลักฐานการขอกู้ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น เอกสารประจำตัว, เอกสารเกี่ยวกับรายได้ ประกอบด้วย หลักฐานการรับเงิน, สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร, สำเนางบการเงินปีล่าสุด และย้อนหลังไม่น้อยกว่า 3 ปี ฯลฯ แต่ที่เพิ่มเติมเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการให้บสย.ค้ำประกันในโครงการนี้ คือ ต้องมี “หลักฐานแสดงการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้” ทั้งที่แบบบุคคลธรรมดาและแบบนิติบุคคลในรอบปีปัจจุบัน หรือ 1 ปีก่อนหน้า เพิ่มเข้ามาด้วย
ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ SMEs ที่อยู่ในระบบฐานภาษี สามารถเข้าถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ของภาครัฐ ซึ่งหมายถึงการได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย
วันนี้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน กำลังขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ จากความร่วมมือของธนาคารและ บสย.ผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อ แต่มีปัญหาเรื่องหลักประกันไม่เพียงพอ สามารถใช้บริการ บสย. ในโครงการนี้ได้ หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center บสย. 02-890-9999
บทความโดย: บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *