ธพว. เดินหน้าโครงการกองทุนร่วมลงทุนพันธกิจ SMEs เชิงเกษตรและที่เกี่ยวข้องวงเงิน 100 ล้านบาท ประเดิม ร่วมทุนธุรกิจ SMEs เชิงเกษตร 2 กิจการ วงเงิน 40 ล้านบาท บริษัทฟาร์มเห็ดระยอง และ บริษัท ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้แปรรูป โจ-ลี่ แฟมิลี่
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประทศไทย ( SME Development Bank ) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารได้เปิดโครงการกองทุนร่วมลงทุนพันธกิจ SMEs เชิงเกษตรและที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการเติบโตของธุรกิจ SMEs ที่มีศักยภาพ และสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในกลุ่ม S - Curve ตามนโยบายรัฐนั้น คณะกรรมการร่วมลงทุน (Venture Captial Committee) ได้อนุมัติหลักการ ให้ ธพว.เข้าร่วมลงทุนธุรกิจ SMEs เชิงเกษตรและเกษตรแปรรูป 2 กิจการ คือ บริษัท ฟาร์มเห็ดระยอง แอนด์ วีวีไบโอเทค จำกัด 20 ล้านบาท และบริษัทโจ-ลี่ แฟมิลี่ จำกัด 20 ล้านบาท เช่นกัน
สำหรับ บริษัท ฟาร์มเห็ดระยอง แอนด์ วีวีไบโอเทค จำกัด เป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเห็ดออรินจิน ภายใต้ตรา "Super Muchroom" ตั้งอยู่ที่ จังหวัดระยอง เป็นผู้ผลิตเห็ดออริจิน 1 ใน 3 ของประเทศไทยที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูง ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง วางจำหน่ายผ่าน Modern Tradeภัตตาคาร และร้านค้าอาหารชั้นนำ ด้วยความโดดเด่นของความสดใหม่มากกว่าเห็ดออรินจิที่นำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งปลอดสารพิษ เนื่องจากเพาะปลูกในระบบปิดที่มีมาตรฐานและความปลอดภัย โดยได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การเข้าร่วมทุนของ ธพว.จำนวนเงิน 20 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการผลิต รองรับการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รวมถึง มีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เนื่องจากโอกาสทางธุรกิจมีความต้องการของผู้บริโภคสูงอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามกระแสความนิยมอาหารเพื่อสุขภาพ ประกอบกับภาครัฐได้ส่งเสริม SMEsโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการเกษตร และเกษตรแปรรูปในรูปแบบต่างๆ ในส่วนธพว.ได้เข้าไปสนับสนุนกิจการ ด้านเงินทุน และความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อต่อยอดกิจการขยายเติบโตยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้ประกอบการ SMEs อีกรายที่ธนาคารเข้าร่วมลงทุน คือ บริษัทโจ-ลี่ แฟมิลี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้แปรรูปอบกรอบ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งคณะกรรมการร่วมลงทุนได้อนุมัติหลักการเบื้องต้น ให้ธพว.เข้าร่วมลงทุน 20 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายนี้ขยายไลน์การผลิต มีเงินทุนซื้อวัตถุดิบ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจผลไม้แช่แข็ง (Frozen) เน้นผลไม้ประเภททุเรียน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศจีน ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศชื่นชอบผลไม้ไทย จึงเป็นโอกาสของธุรกิจจะขยายตัวและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ประกอบการรายนี้ มีส่วนช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการช่วยรับซื้อพืชผลทางการเกษตรจากเกษตรกรไทย มูลค่าไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อปี ทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศด้วย
ด้านกรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวอีกว่า การร่วมลงทุนของธนาคารในกิจการเชิงเกษตรแปรรูปดังกล่าวนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ก่อให้เกิดการสร้างรายได้สู่ชุมชน หรือแรงงานท้องถิ่น มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาการเติบโตของ SMEs ที่มีศักยภาพ แต่ขาดแคลนเงินทุน สามารถเดินหน้ากิจการต่อไปได้ โดยมี ธพว.ร่วมสนับสนุนเป็นหุ้นส่วนทางการเงินและช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการในด้านต่างๆ สู่ความสำเร็จของธุรกิจต่อไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *