ภาพของรถเข็นขายผลไม้เป็นอาชีพที่หลายคนชินตาพบเห็นได้ทั่วไป แต่จะยังไม่เคยมีใครคิดปรับรถเข็นขายผลไม้ให้ดูดีขึ้นเพื่อให้คนรุ่นใหม่กล้าที่จะลงมาขายผลไม้รถเข็น จนกระทั่งหนุ่มสาวกลุ่มนี้ได้ปรับรูปแบบของรถเข็นให้อยู่ในรูปแบบของ Food Truck รองรับการสร้างอาชีพ
ครั้งนี้กำลังจะพูดถึงแฟรนไชส์ตัวใหม่ของวงการรถเข็นขายผลไม้ ที่มีชื่อว่า “น้องหรั่ง ผลไม้ไทย” ของ “ณัฐพงษ์ วิรุฬห์ธานี” “พัชริน พันธกุล” และ“วัชร พันธกุล” ทั้ง 3 คนได้รวมตัวกัน ลบภาพรถเข็นขายผลไม้ขึ้นมาอยู่บนรถ Food Truck เพื่อต้องการเอาใจคนที่ชื่นชอบกินผลไม้รถเข็น แต่อยากได้ผลไม้ที่สด สะอาด และคัดคุณภาพ แตกต่างจากร้านรถเข็นทั่วไป
สำหรับที่มาของ รถผลไม้น้องหรั่ง เกิดขึ้นมาจาก ครอบครัวของ “พัชริน” และ “วัชระ” รับซื้อ และขายผลไม้อยู่ที่ตลาดไทมานานกว่า 30 ปี จากตลาดสี่มุมเมือง และย้ายมาเปิดที่ตลาดไท ซึ่งผลไม้หลักที่ขายคือ มะม่วง ส่งขายให้แก่พ่อค้า แม่ค้า จำหน่ายต่อ และบางส่วนก็ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ลูกค้าของร้านน้องหรั่ง ส่วนหนึ่งเป็นรถเข็นขายผลไม้
ด้วยเหตุนี้เอง ครอบครัวของ “พัชริน” คือ "แม่" มีความคิดว่า อยากให้ลูกได้ลองทำรถเข็นขายผลไม้ ที่เป็นลักษณะของ Food Truck โดยเลือกผลไม้คุณภาพเกรดดี ที่แตกต่างจากรถเข็นขายผลไม้ทั่วไป พร้อมกับออกแบบ Food Truck ให้มีสีสันสดใสสะดุดตา เน้นความสด สะอาด
“เดิมคุณแม่ทำรถขายผลไม้ที่เป็นรถพ่วงข้างอยู่แล้ว ซึ่งขายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงตลาดไทประมาณ 6 คัน ผลการตอบรับที่ออกมาค่อนข้างดี เพราะแม่จะคัดเลือก ผลไม้คุณภาพดีมาขาย และในช่วงหลังกระแสของ Food Truck เริ่มมาแรงขึ้น “แม่” ก็เลยเกิดไอเดียว่า ถ้างั้นให้ดิฉัน และ “ณัฐพงษ์” (แฟนหนุ่มซึ่งมีประสบการณ์จากการทำแฟรนไชส์วาฟเฟิลมาก่อนหน้านี้) และน้องชาย มาช่วยกันออกแบบรถตุ๊กตุ๊ก และรถบรรทุกเล็ก ปรับเป็นรถขายผลไม้ Food Truck” พัชรินกล่าวถึงที่มา
ทั้งนี้ ชนิดของผลไม้ที่นำมาขายบนรถ Food Truck มีลักษณะเดียวกันกับรถเข็นขายผลไม้ทั่วไป คือ มะม่วง มะละกอ สับปะรด ฝรั่ง แตงโม แคนตาลูป มะพร้าว รวมถึงผลไม้ตามฤดูกาลอื่นๆ ฯลฯ โดยคัดคุณภาพของผลไม้เฉพาะเกรดดีเท่านั้น ผลโต รสชาติดี ที่สำคัญต้องสดใหม่และสะอาด แต่เพิ่มขึ้นมาคือ น้ำจิ้ม น้ำปลาหวาน ฝีมือของแม่
สำหรับราคาขายปลีก จะสูงกว่ารถเข็นเล็กน้อย ตามคุณภาพของผลไม้ อาทิ มะม่วง ราคาเริ่มต้นที่ลูกละ 20-25 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล) ส่วนสับปะรดจะมีให้เลือก ได้แก่ สับปะรดภูแล ขายเป็นถุง ถุงละ 50 บาท (น้ำหนักครึ่งกิโลกรัม) สับปะรดห้วยมุ่น (ครึ่งลูก) ชิ้นใหญ่ ขายชิ้นละ 40 บาท แคนตาลูป มะละกอ ฝรั่ง และแตงโม ชิ้นละ 20-25 บาท ซึ่งเมื่อเทียบราคากับรถเข็นทั่วไปไม่ได้แตกต่างมากนัก แต่ที่แตกต่างกันมากคือ ขนาด จะเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะฝรั่ง และแคนตาลูป ฯลฯ
ด้าน “ณัฐพงษ์” เล่าว่า ได้เริ่มขายผลไม้บนรถ Food Truck ได้ประมาณ 3 เดือน มีรถ 2 แบบ คือ รถตุ๊กตุ๊ก และรถบรรทุกเล็ก ทั้งหมด 5 คัน จอดขายที่บริเวณตลาดไท 2 คัน และอยู่ในปั๊ม ปตท.ในย่านรังสิต คลอง 3 คลอง 6 และคลอง 7 โดยแต่ละสาขายอดขายแตกต่างกันไป เช่น ตลาดไท มีรายได้ประมาณวันละ 5,000 บาท ถึง 7,000 บาท ส่วนในปั๊ม ปตท.มียอดขายตั้งแต่ 8,000-12,000 บาท ซึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายเหลือประมาณ 40-50% เหลือประมาณวันละ 1,500 บาท ไปจนถึง 5,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ทาง “น้องหรั่ง” ยังไม่ได้เปิดขายแฟรนไชส์เพราะต้องการเซตระบบ และทดลองตลาดก่อน คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเปิดขายแฟรนไชส์ได้ประมาณต้นปี 2560 ซึ่งหลังจากเปิดตัวได้ 3 เดือนมีคนที่สนใจสอบถามเข้ามาค่อนข้างมาก ซึ่งได้มีการเซตราคาไว้คร่าวๆ คือ ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท ได้อุปกรณ์ทั้งหมด และผลไม้ พร้อมจำหน่ายมูลค่า 10,000 บาท ส่วนราคารถเริ่มต้นที่ 160,000 บาท ไปจนถึง 300,000 กว่าบาท
“โดยลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ของเราไปจะต้องรับซื้อผลไม้จากเราเท่านั้น โดยเราจะจัดส่งผลไม้พร้อมปอกเปลือกถึงมือลูกค้าทุกวัน โดยลูกค้าไม่ต้องทำอะไรเลย ขายอย่างเดียว ส่วนราคาผลไม้แตกต่างกันออกไป เช่น มะม่วง ขายส่งลูกละ 12-15 บาท (ราคาเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) สับปะรดห้วยมุ่น ส่งชิ้นละ 20 บาท เป็นต้น” ณัฐพงษ์ กล่าว
“ณัฐพงษ์” บอกกับเราว่า ทีมงานของเรามีประสบการณ์จากการทำแฟรนไชส์วาฟเฟิล มาก่อน และครั้งนี้กล้าการันตีโอกาสการคืนทุน ไว้ที่ตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน ไม่เกิน 1 ปี ถ้าลูกค้าซื้อแฟรนไชส์ของเราไปแล้วไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้า หรือไม่คืนทุนภายในระยะเวลาที่เรากำหนด ยินดีที่จะรับซื้อคืนด้วย
โทร. 09-1424-4454
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
