ไม่นานมานี้เพิ่งสุ่มพบสารปนเปื้อนในหมูบด มาวันนี้เจอ สารตกค้างในเมนูยอดนิยม “คอหมูย่าง” ทำเอาสาวกคนกินหมูสะดุ้ง สารเคมีทั้งตัวเลยเหรอเนี้ย!?!
ร.ต.ไพโรจน์ คนึงทรัพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เปิดเผยถึงกรณีที่ทาง สคบ. ตรวจสอบพบสารตกค้างในเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อหมูจากอาหารประเภทคอหมูย่าง ด้วยความเป็นห่วงหลังพบว่าส่วนใหญ่หมูที่เกษตรกรเลี้ยงจะถูกฉีดยาตรงบริเวณคอ ก่อนนำส่งโรงเชือด ซึ่งหากไม่รอให้ฤทธิ์ของยาหมดตามกำหนดเวลาแต่นำมาเชือดเพื่อบริโภคก่อน อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับสารตกค้าง
“ผู้บริโภคบางคนอาจไม่รู้มาก่อน ว่าคอหมูย่างว่าคอหมูย่างที่นิยมรับประทานกันมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับสารตกค้าง จากการใช้ยาซึ่งเกิดจากกระบวนการเลี้ยงหมู เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูบางรายอาจฉีดยาเข้าไปที่คอ แล้วนำหมูนั้นไปยังโรงเชือดเลย ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ และที่ผ่านมาก็เคยพบข้อมูลว่า มีผู้บริโภคบางคนถึงกับตกใจ รับประทานคอหมูย่างไปแล้วพบว่า มีเข็มฉีดยาหักอยู่บริเวณคอหมูที่ปรุงสุกมาแล้วด้วย ซึ่งเรื่องนี้สคบ.คงต้องชี้แจงกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยกันหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภค”
เป็นที่เห็นพ้องความรู้สึกเดียวกันว่า สันคอหมูเป็นส่วนที่เด้งนุ่มอร่อยสุด ไม่ใช่เมนูคอหมูย่างเท่านั้นที่ใช้อวัยวะส่วนนี้ เมนูถูกลิ้นของคนไทยอีกมากมาย ไม่ว่าสเต็ก หรือหมูแดง ฯลฯ ล้วนนิยมนำคอหมูมาทำ
“ถ้ามันจะตกค้างมันก็มีทั้งตัวหมูนั้นแหละ”
เสียงสะท้อนจากชาวเน็ตผ่านโลกโซเชียลฯ ซึ่งทุกคนยังจำกันได้ว่าเมื่อสองเดือนที่ผ่านมานี้เอง เพิ่งมีข่าวหมูบดอุดมสารปนเปื้อน
“หมูบดก็มียาตกค้างด้วย แย่จัง”
จากเหตุกาารณ์ที่ตำรวจ ปคบ. นำกำลังจนท.สาธารณสุข บุกตรวจแผง ขายเนื้อหมูเนื้อวัว เนื้อปลา ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี หาสารบอแร็กซ์ ซึ่งสุ่มตรวจกว่า 30 แผง พบ 8 แผงมีสารปนเปื้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมูบด
พ่อค้าแม่ขายหัวใสชอบลักลอบใส่สารบอแร็กซ์ เพื่อให้มีความนุ่มกรอบ คงตัวได้นาน ไม่บูดเสียง่าย แต่มีอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งทางสาธารณสุขได้ออกให้ข้อมูลตอนนั้นว่าอันตรายสารบอแร็กซ์เกิดได้ 2 กรณี แบบแรกแบบเฉียบพลัน จะมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน ส่วนแบบเรื้อรังจะกระทบถึงไต หากสะสมไปนานๆ เสี่ยงไตวายตาย
“มันไม่ตายทีเดียวทั้งหมด แต่มันเป็นสารที่สะสมในร่างกาย..ตายผ่อนส่ง”
ชาวเน็ตพากันถกเถียงแสดงความคิดเห็น
“ไทยแลนด์ๆๆ เคมีเยอะ จุงเบย”
“ใช้กันทุกประเทศเหละครับ ไม่ใช่ที่ไทยอย่างเดียว”
“ใช้เคมีกับผักทุกประเทศไม่ผิด แต่บ้านเราเยอะมาก ไม่ควบคุมด้วย แถบยุโรปถ้าตรวจเคมีในฟืชและสัตว์ ไม่ผ่าน เขาห้ามจำหน่ายนะคะ”
ทั้งนี้ อำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสคบ.ได้ออกมากล่าวว่า สคบ.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว และพยายามหาทางป้องกัน ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ล่าสุดได้ลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือในการเฝ้าระวังสินค้าและบริการที่ไม่ปลอดภัย และการทดสอบสินค้าเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ระหว่างสคบ.กับ 8หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แบ่งเป็นด้านความร่วมมือด้านการเฝ้าระวังสินค้า และบริการที่ไม่ปลอดภัยกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และความร่วมมือด้านการทดสอบสินค้ากับกรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันยานยนต์ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือเฝ้าระวังและตรวจสอบสินค้ากับบริการที่ไม่ปลอดภัยแบบบูรณาการร่วมกัน
ขอให้บริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง เข้มข้น และจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของเราทุกคน
