“มะนาวนิ้วมือ” หรือชื่อภาษาอังกฤษ Finger Lime แต่มีคนบางกลุ่มแอบตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "มะนาวคาร์เวีย" เหตุเพราะเป็นมะนาวมีเนื้อข้างในเหมือนไข่ปลาคาร์เวีย จุดกำเนิดมะนาวนิ้วมือ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย แต่สำหรับประเทศไทย สามารถปลูกมะนาวชนิดนี้ได้แล้ว แม้ว่าจะไม่ได้ผลผลิตที่มากนัก แต่ก็เป็นความสำเร็จที่ภาคภูมิใจของ “สมเจตน์ พิมพ์ทอง”
“สมเจตน์” ได้ทำการปลูกและขยายพันธุ์ จนได้ผลมะนาวนิ้วมือในพื้นที่อากาศเมืองไทย ได้เป็นผลสำเร็จ โดยในช่วงแรกเมื่อประมาณ 3-4 ปี ก่อนหน้านี้ที่มะนาวนิ้วมือเข้ามาเมืองไทย ได้มีการทดลองปลูกในพื้นที่ ที่่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น อาทิ จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณสังขละบุรี บนดอยจังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือ ที่หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ฯลฯได้ผลผลิตพอสมควร และด้วยความที่เป็นพืชเมืองหนาวมะนาวจึงมีคุณลักษณะพิเศษ คือ ต้องการสะสมความอากาศเย็น หรือที่เรียกว่า "ชั่วโมงชิว"
โดยในหนึ่งปี มะนาวต้องสะสมชั่วโมงชิวไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมงต่อปี แต่พอมาปลูกบ้านเราซึ่งมีอากาศร้อน ซึ่งมีชั่วโมงชิวไม่พอ มะนาวจึงเริ่มปรับตัว โดยลดชั่วโมงชิวลงมาเหลือ 100 ชั่วโมงต่อปี ก็สามารถออกดอก และออกผลได้ ปัจจุบันมะนาวชนิดนี้มีการปรับตัวได้มากกว่าเดิม เพราะเริ่มชินกับอากาศเมืองไทย ที่แทบจะไม่มีอากาศหนาวให้สะสมเลย มะนาวจึงปรับตัวสะสมชั่วโมงชิวน้อยลงไปอีก หรือแทบจะไม่ต้องอาศัยชั่วโมงชิว ในบางสายพันธุ์ ทำให้ปัจจุบัน เริ่มเห็นว่ามะนาวสามารถปลูกและออกผลได้ในหลายพื้นที่ของเมืองไทย เช่น บ้านคุณสมเจตน์ ในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ “คุณสมเจตน์” ยังทดลองนำไปปลูกที่จังหวัดลพบุรี และชลบุรี ซึ่งแทบจะไม่มีอากาศหนาวเลย มะนาวนิ้วมือก็ยังสามารถให้ผลผลิตได้ เช่นกัน ทำให้ปัจจุบันมีมะนาวนิ้วมือปลูกได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยสายพันธุ์ที่สามารถปลูกได้ในไทย มีอยู่ด้วยกัน 18 สายพันธุ์ จากกว่า 20 สายพันธุ์ที่มีอยู่ปัจจุบัน โดยแยกตามสี ้เช่น Pink Ice, Red Champagne,Green Alstonville,Yellow Sunshine,Purple Bliss,Byron Sunrise,Crimson Tide ฯลฯ
ทั้งนี้ การให้ผลผลิตของมะนาวนิ้วมือ จะให้ผลประมาณ 3 ครั้ง ใน 2 ปี โดยมะนาวจะเริ่มออกผลเมื่อปลูกและโตประมาณ 1 ปี ส่วนการดูแลต้นมะนาวนิ้วมือ ไม่แตกต่างไปจากการดูแลมะนาวของไทย คือ เป็นต้นไม้ที่ชอบดินร่วน ไม่ชอบที่ชื้นแฉะ หมั่นใส่ปุ๋ย รวมทั้งปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง 100%
"สมเจตน์" เล่าถึงที่มาของการนำมะนาวนิ้วมือมาปลูกที่เมืองไทย ว่า ในตอนแรกได้นำเข้ากิ่งของต้นมะนาวนิ้วมือมาขยายพันธุ์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก เพราะต้องใช้เวลาหลายวัน และกิ่งที่ได้ค่อนข้างช้ำ ส่งผลให้มีปัญหาในเวลาขยายพันธุ์ จึงเปลี่ยนวิธีใหม่โดยสั่งนำเข้ามาเป็นต้นแล้วมาตัดกิ่งขยายพันธุ์เอง
วิธีการขยายพันธุ์มะนาวนิ้วมือก็ไม่ยากเลย เริ่มจากการเสียบยอดจากพันธุ์ไม้อื่น ๆ เช่น ต้นส้มโอ ต้นมะนาว มะกรูด หรือ ต้นมะขวิด โดยหลังจากที่เลือกตอเพื่อจะเสียบยอดแล้วให้วัดจากดินขึ้นมาประมาณ 10-15 เซนติเมตร ตัดใบทิ้งและตัดลำต้น จากนั้นจึงคัดกิ่งมะนาวที่โตเต็มที่ ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไปและนำมีดคม ๆ ปาดเปลือกไม้ของกิ่งที่เลือกไว้ออกทั้ง 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งประมาณ 1 เซนติเมตรและปาดอีกข้างเพียงเล็กน้อย
จากนั้นจึงเฉือนเปลือกของตอและใช้กิ่งทาบลงไป โดยทาบให้แผลทั้งสองประกบกันและใช้เทปพันให้แน่น แล้วจึงคลุมด้วยถุงพลาสติก เพื่อไม่ให้ใบคายน้ำและระเหยออกไปหมด เมื่อเสร็จแล้วให้นำไปเก็บไว้ในที่ร่มเป็นเวลา 1 เดือน เมื่อครบกำหนดจึงนำกรรไกรมาตัดปลายถุงทั้งสองข้างออกเพียงเล็กน้อย และปล่อยทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์จึงนำต้นที่ได้ย้ายไปในกระถางที่กว้างกว่าของเดิมเพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตต่อไป
โดยความน่าสนใจของมะนาวนิ้วมือ คงอยู่ที่ราคาที่แพงมาก เพราะปัจจุบันราคาที่สั่งซื้อจากประเทศต้นกำเนิดจากออสเตรเลีย ราคากิโลกรัมละ 1,900 บาท ผ่านกระบวนการนำเข้าแล้วตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,500 บาท โดย 1 กิโลกรัม จะได้มะนาวแบ่งตามเกรด ถ้าเป็นเกรด A ประมาณ 35-40 ลูก แต่ถ้าเป็นเกรดรองลงมาประมาณ 60 ลูก ที่บ้านเราปลูกได้ประมาณ 60 ลูกต่อ 1กิโลกรัม ซึ่งราคาขายในบ้านเราประมาณกิโลกรัมละ 4,000 บาท ถึง 4,500 บาท เฉลี่ยลูกละประมาณ 100 บาท ถึง 200 บาทขึ้นอยู่กับขนาด
ส่วนกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมะนาวนิ้วมือ จะเป็นกลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร รีสอร์ต และโรงแรมชั้นนำ โดยปกติกลุ่มนี้ ต้องนำเข้ามะนาวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากออสเตรเลีย ซึ่งการที่เราผลิต ก็จะช่วยลดการนำเข้าได้ และช่วยให้เขามั่นใจว่า ได้มะนาวที่ราคาแน่นอน เพราะการสั่งซื้อจากต่างประเทศ ต้องผ่านกระบวนการนำเข้า ทำให้ราคาไม่แน่นอน และการซื้อผลผลิตในบ้านเราจะได้มะนาวที่สดกว่า และยังมีลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครืองสำอางสนใจ เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางเพราะให้วิตามินซีสูง
สำหรับผู้สนใจมะนาวชนิดนี้ ทาง "คุณสมเจตน์" มีการต่อและขยายพันธุ์กิ่งจำหน่ายในราคาเริ่มต้น กิ่งละ 1,000 บาท ไปจนถึงต้นละ 20,000 บาท นอกจากนี้ มะนาวนิ้วมือยังสามารถเพาะพันธุ์ด้วยเมล็ด ซึ่งขายกันในราคาเม็ดละ 20 บาท ซึ่งทางคุณสมเจตน์ บอกว่า ที่ราคาต้นมะนาวแพง เพราะไม่ได้ต้องการจะทำต้นไม้ขาย แต่ต้องการให้ความรู้ เพื่อให้ทุกคนได้นำไปทำต่อเป็นอาชีพ โดยเมื่อซื้อมะนาวจากเราจะสอนทุกขั้นตอน และต้นมะนาวที่ได้ นำไปตัดต่อและขยายกิ่งพันธุ์ได้อีกเป็น 100 ต้น โดยมะนาวหนึ่งต้นจะให้ผลผลิต ประมาณ 2-3 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 2 ปี จะออกผล 3 ครั้ง โดยจะออกผลห่างกันประมาณ 8-9 เดือน แต่ทุกอย่างก็ยังต้องขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษา และการดูแลเอาใจใส่
“สมเจตน์” บอกว่า ตอนนี้สามารถทำผลผลิตออกมาจำหน่ายได้มากขึ้นในกลุ่มสมาชิก รวมถึงผลผลิตจากไร่ของตนเองที่ได้ไปปลูกที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวนกว่า 500 ต้น เริ่มออกดอก และคาดว่าน่าจะติดผลได้ในเร็วๆนี้ โดยผลผลิตที่ได้ทั้งหมดนำไปส่งให้กับโรงแรม รีสอร์ต ในภูเก็ต ซึ่งทางเรายังต้องการมะนาวอีกมากสำหรับส่งให้กับผู้ผลิตเครื่องสำอางในอนาคต
สนใจ โทร. 09-9254-6542 www.facebook.com/ทิดโส โม้ระเบิด
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *