“เค้กกระถาง” ไอเดียการออกแบบเค้กของร้าน FLOWERPOT CAFÉ ร้านเบเกอรีที่ออกแบบภายใต้แนวคิดของ “อรณิชา ชุณหศรี” ผู้ซึ่งหลงรักธรรมชาติ และชื่นชอบการกินเค้กเป็นชีวิตจิตใจ และเมื่อเธอมีโอกาสทำเค้กขาย จึงได้นำทั้งสองสิ่งมารวมกัน และได้ออกมาเป็นเค้กที่ใส่อยู่ในภาชนะที่เป็นธรรมชาติอย่างกระถาง และตกแต่งหน้าเค้กได้เหมือนกับต้นไม้ที่ออกดอกในกระถาง
ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่หน้าตาที่โดนใจคนที่เห็นเท่านั้น แต่รสชาติที่ถูกปาก ทำให้เค้กกระถางแจ้งเกิดได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว จากการออกร้านงานอีเวนต์ต่างๆ ทำขายเฉพาะเค้กกระถางอย่างเดียวไม่กี่สิบกระถาง ไม่กี่เดือน “อรณิชา” เธอมั่นใจว่าเดินมาถูกทาง ลูกค้าชื่นชอบและถูกใจในรสชาติ ตัดสินใจเปิดร้านเบเกอรีในร้านขายต้นไม้ของคุณอา บนถนนรามคำแหง 21
"อรณิชา" เล่าว่า ได้เริ่มทำเค้กขาย จากความไม่ตั้งใจ เพราะครอบครัว (แม่) เปิดร้านเบเกอรี ชื่อร้านขนม ในหมู่บ้านสัมมากร ซึ่งร้านขนมของแม่เป็นขนมราคาถูก ราคาชิ้นละ 12 บาท รวมถึงขนมเค้กด้วย และหลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี ตอนนั้นตัดสินใจทำงานโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ในช่วงนั้นพนักงานที่ช่วยทำขนมที่ร้านของแม่ลาออก ทำให้ตัวเองก็ต้องหันมาช่วยแม่ตามคำขอ สุดท้ายก็เลยต้องช่วยแม่ทำขนมขายมาตลอด
จนกระทั่งวันหนึ่ง อยากจะทำขนมเค้กที่หน้าตาดี ราคาแพง ใช้วัตถุดิบดี ออกมาขายบ้าง และได้ทดลองทำอย่างที่ฝัน และวางขายในร้านของแม่ ขายชิ้นละ 45 บาท ปรากฏว่าขายไม่ได้เลย เพราะลูกค้าร้านแม่น่าจะเป็นคนละกลุ่มกับที่เราตั้งใจ ทุกคนต้องการมาซื้อเค้กราคาถูก ซึ่งสุดท้ายก็เลยต้องแยกตัวออกมาเดินตามฝันที่อยากจะทำเค้กในแบบของเรา โดยเริ่มออกแบบเค้กในกระถาง เพราะถ้าจะทำเค้กสามเหลี่ยมเหมือนคนอื่นๆ ก็คงจะขายยาก คู่แข่งเยอะ ต้องทำอะไรให้แตกต่าง ประกอบกับตนเองชื่นชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติ ก็เลยลองนำเค้กมาใส่ภาชนะกระถาง
และที่เลือกกระถางเพราะอยากจะทำเค้กในแบบของธรรมชาติ โดยกระถางเป็นภาชนะที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งเห็นว่าภาชนะดินเผาที่นำมาใส่อาหารก็มีอยู่บ่อย เช่น หม้อดินในร้านจิ้มจุ่ม เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะหากระถางดินเผาที่เป็นฟูดเกรดได้ สุดท้ายมาได้กระถางที่โรงงานกระถางแห่งหนึ่งสั่งทำพิเศษ ซึ่งเป็นฟูดเกรด โดยเค้กที่ทำจะเป็นเค้กรสช็อกโกแลต รสเดียวในครั้งแรก และเลือกช่องทางการขายโดยการแนะนำผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก่อนที่จะหันมายึดช่องทางขายหลักผ่านการออกงานอีเวนต์ ซึ่งการออกงานอีเวนต์ในครั้งแรกประสบความสำเร็จเลย ทำมาประมาณ 50 กระถางก็ขายหมด จุดขายอย่างหนึ่งในการออกงานอีเวนต์ การตกแต่งร้าน และหน้าตาเค้กต้องไปด้วยกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าทำทั้ง 2 อย่างออกมาได้ดี สะดุดตาคนที่พบเห็น ทำให้เราประสบความสำเร็จกับการออกงานอีเวนต์ ยึดช่องทางขายตรงนี้มาตลอด
หลังจากออกงานอีเวนต์ได้ 5-6 เดือน “อรณิชา” ตัดสินใจเปิดร้าน โดยวางคอนเซ็ปต์คือ ต้องเป็นร้านเบเกอรีในสวนที่เป็นธรรมชาติ เหมือนกับคอนเซ็ปต์เค้กกระถางที่เธอได้วางไว้ตั้งแต่ต้น และคุณอาเปิดร้านขายต้นไม้อยู่แล้ว ก็เลยขอพื้นที่ร้านต้นไม้ของอามาเนรมิตเป็นร้านเบเกอรี ความรู้ที่ได้สะสมมาระหว่างช่วยแม่ทำเค้ก และช่วงที่ทำเค้กขายตอนออกงานอีเวนต์ ก็ได้มีโอกาสไปเรียนเพิ่มเติมอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเปิดร้านก็นำความรู้ทั้งหมดมาใช้ เลยได้มาเป็นสารพัดเมนูใน Flower Pot Café ทุกวันนี้ เมื่อมีเวลาก็จะต้องไปเรียนเพิ่มเติมอยู่เรื่อย แต่จะเป็นหลักสูตรระยะสั้นตามเวลาที่เราพอจะมี
ภายในร้านจะมีมุมในสวนสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ นั่งพักผ่อนสบายๆ มีบริการ Wi-Fi และในส่วนภายในร้านมีห้องติดแอร์ไว้บริการ “อรณิชา” บอกว่า การจัดร้านในมุมต่างๆ ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้คนที่มาใช้บริการที่ชื่นชอบถ่ายภาพอวดในโซเชียลได้ภาพสวยในมุมต่างๆ ของร้านทั้งอาหาร และสถานที่ ไปอวดเพื่อนๆ และสิ่งที่ตามมาคือ ร้านได้ประชาสัมพันธ์ไปในตัวด้วย
สำหรับลูกค้า เกือบครึ่งหนึ่งที่เป็นลูกค้าเดินทางมาเพราะการแนะนำผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะเดินทางกันมาเป็นครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนๆ ส่วนวันธรรมดาจะได้คนทำงานในย่านนั้น และเธอก็เตรียมจะเปิดพื้นที่บางส่วนเป็นสถานที่สำหรับสอนการทำเบเกอรีให้แก่คนที่สนใจด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเค้กกระถาง ในปัจจุบันพัฒนาเพิ่มสูตรใหม่ออกมาเพิ่มเป็น 4 สูตร จากเดิมที่ขายเพียงสูตรเดียว คือ เค้กช็อกโกแลต ราคาเค้กเริ่มต้น 75 บาท มีของตกแต่งเพิ่มเป็น 85 บาท และได้คิดสูตรมิลก์เชก เครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ออกมาขายในร้านด้วย ส่วนรายได้หลังจากเปิดร้านมาได้ 2 ปีมีรายได้ในระดับที่พอใจ การลงทุนเปิดร้านในครั้งแรกที่ใช้เงินไปประมาณ 1 ล้านบาทก็สามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 1 ปี ยอดขายต่อวันประมาณ 15,000 บาท ส่วนเมนูเค้กกระถาง จะได้กลุ่มลุกค้าหน้าใหม่ ทุุกคนก็จะต้องสั่งเมนูนี้ วันหนึ่งขายได้ 40-50 กระถาง แต่รายได้ของร้านมาจากส่วนอื่นๆ ด้วย เพราะลูกค้าที่เคยมาก็จะเปลี่ยนเมนูไปเรื่อย เป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องมีเมนูใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
อรณิชาพูดถึงการขายเค้ก 2 แบบ คือ เค้กพรีเมียม อย่างร้านของเธอ กับกิจการร้านเค้กของแม่ ที่เน้นขายเค้กราคาถูก ว่า วันนี้ถ้าถามว่าใครประสบความสำเร็จมากกว่ากัน ก็ยังต้องบอกว่าเค้กของแม่ก็ยังทำรายได้มากกว่าเรามาก แม้ว่าร้านขนมของแม่จะได้กำไรต่อหน่วยน้อยกว่าเรามาก แต่ด้วยความที่แม่เน้นขายปริมาณ ก็เลยทำให้แม่จะมีรายได้มากกว่าเราเยอะมาก ประกอบกับแม่นั้นทำมานานด้วย ลูกค้าก็เยอะกว่าเรามาก ความยากง่ายในการทำงานของร้านเค้กทั้ง 2 แห่งต่างกัน ร้านของเรานอกจากขายเค้กที่ต้องอร่อย หน้าตาดีแล้ว ก็ต้องมีการบริการที่ดีด้วย แต่ถ้าเป็นร้านของแม่ ก็คงไม่ได้เน้นการจัดร้านที่หรูหรา หรือการบริการอะไรมากนัก เพราะทุกคนที่มาก็ตั้งใจจะมาซื้อเค้กอย่างเดียว ไม่ต้องมีการบริการอะไรมากนัก
โทร. 09-9469-5916 ,www.facebook.com/ flowerpotcafe
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *