อาคารสไตล์โมเดิร์น สวยงาม เก๋ไก๋ มองภายนอกอาจจะคิดว่าเป็นบูติกโฮเต็ล หรือร้านกาแฟ แต่แท้จริงแล้วคือโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง “ด็อก แอนด์ แคท เฮลท์เซ็นเตอร์ ระยอง” ซึ่งเกิดจากความฝันของ “น.สพ.ชัยวลัญย์ ตุนาค” ที่ต้องการสร้างให้เป็นศูนย์กลางครบวงจรเพื่อคนรักสัตว์เลี้ยงเหมือนกับรักลูกของตัวเอง
น.สพ.ชัยวลัญย์ หรือที่ลูกค้าเรียกติดปากว่า “หมอแดง” เล่าประวัติส่วนตัวเป็นคนรักสัตว์มาตั้งแต่เด็ก เรียนจบคณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นรับราชการอยู่ในวงการสัตวแพทย์มาตลอด ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นนายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยา และหัวหน้ากลุ่มชันสูตรโรคสัตว์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
นอกจากรับราชการแล้ว ยังทำธุรกิจส่วนตัวควบคู่ โดยเปิดคลินิกรักษาสัตว์ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 และต่อมาพัฒนาขึ้นเป็นโรงพยาบาลสัตว์ ชื่อ “ด็อก แอนด์ แคท เฮลท์เซ็นเตอร์ ระยอง” ถือเป็นโรงพยาบาลสัตว์ที่ครบวงจรแห่งแรกใน จ.ระยอง
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลสัตว์ครบวงจร แต่ในเชิงธุรกิจ หมอแดงบอกว่า นับเป็นกิจการขนาดย่อม สถานที่คือตึกแถว 2 คูหา ลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท ยึดหลักต้องรักษาสัตว์ให้ดีที่สุด มาตรฐานเหมือนรักษาคน
“ผมเริ่มทำคลินิกด้วยแรงบันดาลใจอยากจะรักษาสัตว์ให้ดีที่สุด ซึ่งไม่ได้คิดในเชิงธุรกิจมากนัก กำไรที่ได้มาแทบทั้งหมดก็เอาไปพัฒนาลงทุนซื้อเครื่องจักรทันสมัย สั่งยาดีที่สุดมาใช้รักษา และผมมีความฝันมาตลอดอยากจะทำโรงพยาบาลสัตว์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรักษา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งที่เปิดอยู่เดิมพื้นที่คับแคบ ไม่สะดวกต่อการทำงาน เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วผมตัดสินใจเช่าพื้นที่กว่า 2.5 ไร่ ที่ระยองเพื่อจะสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ตามที่ตัวเองฝันไว้” น.สพ.ชัยวลัญย์เล่า และอธิบายต่อ
โรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้เบื้องต้นคิดรูปแบบเอง อาศัยประสบการณ์ในวิชาชีพมากว่า 30 ปี วางตำแหน่งพื้นที่ต่างๆ ให้เหมาะต่อการรักษา แล้วให้เพื่อนที่เป็นสถาปนิกมืออาชีพนำไปออกแบบให้เหมาะกับการก่อสร้างได้จริง โดยสร้างเป็น Stand Alone ชั้นเดียว ไม่ต้องเคลื่อนย้ายสัตว์ขึ้นลงระหว่างชั้น ตัวอาคารเป็นสไตล์โมเดิร์น เพราะอยากสร้างบรรยากาศให้สบาย เหมาะเป็นสังคมของคนรักสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง และแตกต่างจากคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไปที่มักเป็นแค่อาคารพาณิชย์เรียบธรรมดา
ขณะเดียวกัน วางมาตรการรักษาเหมือนโรงพยาบาลรักษาคน มีทั้งแพทย์ที่เชี่ยวชาญ กับอุปกรณ์ทันสมัยติดอันดับต้นๆ ของเอเชีย เช่น ห้องเอกซเรย์ ห้องผ่าตัด ห้องพักฟื้น และแยกโซนรักษาระหว่างหมากับแมวออกจากกันเด็ดขาด เป็นต้น
หมอแดงเสริมว่า กำหนดลูกค้าเป้าหมายไว้ที่คนเลี้ยงสัตว์ที่รักสัตว์เหมือนกับรักลูกของตัวเอง ซึ่งพร้อมจะยอมจ่ายเพื่อการดูแลหรือรักษามากกว่าคนที่เลี้ยงโดยคิดว่ามันเป็นแค่ “สัตว์เลี้ยง” เท่านั้น
“ที่ผ่านมาผมทำโรงพยาบาลด้วยใจมาตลอด แต่พอมาลงทุนครั้งนี้จำเป็นต้องคิดในเชิงธุรกิจมากขึ้น โดยกำหนดลูกค้าเป้าหมายไปที่คนรักสัตว์เหมือนลูก ไม่ได้คิดว่ามันเป็นแค่สัตว์ ซึ่งคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมาตรฐานมาก่อนเรื่องราคา และจากประสบการณ์ของผม เห็นว่าพฤติกรรมคนไทยกลุ่มนี้จะมากขึ้นเรื่อยๆ จากสภาพสังคมที่คนรุ่นใหม่เป็นโสดมากยิ่งขึ้น มักเลี้ยงสัตว์เหมือนสมาชิกในครอบครัวเลย”
“นอกจากนั้น จากข้อมูลตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในเมืองไทยมูลค่าปีละกว่า 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็น Pet Shop ประมาณ 15,000 ล้านบาท และโรงพยาบาลสัตว์ประมาณ 7,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อเนื่องทุกปี ข้อมูลนี้ทำให้ผมเชื่อว่าธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงก็ยังมีโอกาสที่น่าสนใจ” น.สพ.ชัยวลัญย์ระบุ
สำหรับ “ด็อก แอนด์ แคท เฮลท์เซ็นเตอร์ ระยอง” ใช้เงินลงทุนกว่า 15 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างประมาณ 7-8 ล้านบาท โดยเป็นตัวอาคารสไตล์โมเดิร์น เนื้อที่ 500 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดิน 2.5 ไร่ ที่เหลือเป็นค่าอุปกรณ์ในการรักษาต่างๆ ซึ่งแหล่งทุนอาศัยเงินส่วนตัวควบคู่กับขอสินเชื่อธนาคาร
เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ต้นปี 2559 ที่ผ่านมา มีทีมหมอ 4 คน ผู้ช่วย 4 คน เวชทะเบียน 3 คน ผู้จัดการ 1 คน และแม่บ้าน 2 คน โดยเฉลี่ยมีลูกค้าเข้าใช้บริการประมาณวันละ 40-50 ราย ส่วนใหญ่จะมารักษาหมากับแมวประมาณ 80-90% ที่เหลือจะมีสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น กระต่าย กระรอก ไก่ นก เต่า ฯลฯ ใช้จ่ายเป็นค่ารักษาเฉลี่ยรายละ 800 บาท
ไม่เพียงแค่โรงพยาบาลเท่านั้น ในพื้นที่ยังจัดบริการ Pet Mall ขายอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงทุกประเภท และในอนาคตจะจัดสรรพื้นที่เป็นคอมมูนิตีมอลล์เพื่อคนรักสัตว์ ด้วยการหาพันธมิตรมาเปิดร้านค้า หรือให้บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงครบวงจร
“ความฝันของผม อยากให้พื้นที่นี้ไม่ใช่แค่พาสัตว์มารักษา แต่ต้องการให้เป็นพื้นที่ของคนรักสัตว์ที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ เนื่องจากเรายังมีพื้นที่เหลือว่างอีกจำนวนมาก ผมกำลังหาพันธมิตรเข้ามาร่วม สร้างบริการครบวงจร ในอนาคตจะมีทั้งอาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยง ร้านอาหารที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ โรงแรมที่พักสำหรับสัตว์เลี้ยง ตลาดนัดสัตว์เลี้ยง ฯลฯ ซึ่งจะเกิดขึ้นประมาณต้นปี 2560” หมอแดงเผย
จากเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ “ด็อก แอนด์ แคท เฮลท์เซ็นเตอร์ ระยอง” บุกเบิกทำธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์เป็นรายแรกใน จ.ระยอง นับถึงปัจจุบัน ภายในจังหวัดมีโรงพยาบาลสัตว์เอกชนเปิดเพิ่มกว่า 10 แห่ง รวมถึงยังมีคลินิกสัตว์ที่มีเปิดอีกจำนวนมาก ทำให้ด้านการแข่งขันนั้น หมอแดงยอมรับว่าค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่จะสู้กันด้วยสงครามราคาถูก อย่างไรก็ตาม ด็อก แอนด์ แคทฯ จะไม่ลงไปแข่งเรื่องราคา แต่หันมามุ่งทำตลาดบน เน้นเรื่องคุณภาพ และบริการที่ดีกว่า เพื่อลูกค้าที่รักสัตว์อย่างสูงจริงๆ
เขาเผยด้วยว่า การทำธุรกิจคลินิกและโรงพยาบาลสัตว์นับเป็นเรื่องยากมาก เพราะมีต้นทุนสูงไม่ต่างจากการรักษาคน ทั้งจากค่ายา ค่าบุคลากร รวมถึงค่าอุปกรณ์เครื่องมือที่ราคาสูงมาก ในขณะที่ผลตอบแทนจากค่ารักษานั้นกลับแตกต่างจากค่ารักษาคนอย่างมาก และหากลดต้นทุนเพื่อลงไปแข่งด้านราคา จำเป็นต้องลดคุณภาพของยา และอุปกรณ์ นั่นเท่ากับจะกระทบให้มาตรฐานการรักษาด้อยลงไปอีก ดังนั้น จุดยืนของเราจึงเลือกจะคงมาตรฐานการรักษาที่ดีไว้เหมือนเดิม ไม่แข่งเรื่องราคา ควบคู่กับพยายามหาลูกค้าที่เห็นความสำคัญของการรักษาที่ได้คุณภาพ และเข้าใจในเจตนาของเรา
“ทุกวันนี้เมืองไทยมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรสัตวแพทย์ โดยเฉพาะรักษาสัตว์เล็ก เนื่องจากข้อเท็จจริงคือ หมอรักษาสัตว์รายได้ไม่จูงใจ คนที่จะเรียนหมอ เลือกจะเป็นหมอรักษาโรคคน หรือหมอฟัน ส่วนคนที่มาเรียนสัตวแพทย์จะเป็นคนที่ใจรักสัตว์จริงๆ ส่วนรายได้ของคลินิกและโรงพยาบาลสัตว์ก็ยากจะคิดค่ารักษาได้สูงเหมือนการรักษาคน เพราะคนเลี้ยงสัตว์ส่วนหนึ่งจะมองว่ามันเป็นแค่สัตว์ ผมเคยมีประสบการณ์ คิดค่าฉีดวัคซีนให้สัตว์ 350 บาท คนพามารักษาก็โวยวายว่าทำไมแพงจัง ซึ่งราคานี้ถ้าเขาพาลูกตัวเองมารักษาคงไม่บ่นว่าแพงแน่ ดังนั้น เมื่อมาเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ ผมเลยมุ่งจะทำตลาดไปที่คนรักสัตว์เหมือนลูกไปเลย เพราะจะไม่ต้องลงไปแข่งเรื่องราคา สามารถคงมาตรฐานการรักษาที่ดีที่สุดอย่างที่ใจเราต้องการ”
“ผมวางวิสัยทัศน์ให้เราเป็นองค์กรด้านสุขภาพสัตว์ชั้นนำของโลก ที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ซึ่งผมมีหลักในการทำธุรกิจ คือ 1. ลูกค้าอยู่ได้ หมายถึง ได้บริการที่ดีน่าประทับใจในราคาเหมาะสม 2. พนักงานอยู่ได้ หมายถึงได้ทำงานที่ตัวเองรักและมีความสุขกับงานและผลตอบแทน และ 3. ตัวเราต้องอยู่ได้ หมายถึงตัวผมเองก็ต้องอยู่ได้ด้วย มีกำไรเพียงพอให้ธุรกิจเดินได้และสามารถพัฒนาได้สม่ำเสมอ” แพทย์หัวใจรักสัตว์ทิ้งท้าย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *