อึ้ง! เงินเฉียดล้าน พ่อให้ทุนเอาไป “ซื้อรถ” เพื่อรับขวัญในฐานะนักศึกษาจบใหม่ แต่หนุ่มน้อยกลับเอาไป “ซื้อควาย” ผันตัวจากเส้นทางสายสัตวแพทย์ หันมาเลี้ยงเจ้าสองเขาเพื่อขยายพันธุ์แทน ผสมอย่างเอาจริงจนเสียงเย้ยหยันกลายเป็นคำสรรเสริญ ตอนนี้ “ควายเผือกพันธุ์ไทยแท้” ที่ลงทุนซื้อมา ยิ่งเลี้ยงยิ่งค่าตัวพุ่ง มีคนเสนอซื้อ 3 ล้าน ยังไม่สน!! เดินหน้าเพาะพันธุ์อนุรักษ์ควายไทย สานฝันแนวคิดพอเพียงในท้องไร่ จนผู้คนแห่ชื่นชมว่าเป็น “หนุ่มน้อยนักคิด ไอดอลแห่งท้องนา”
เปิดใจไอดอลวัยเยาว์... มูลค่า “รถ” หรือจะสู้คุณค่า “ควาย”
“ตอนที่คุณพ่อให้ตังค์ผมซื้อรถ ตอนนั้นผมเพิ่งจบมาใหม่ๆ เขาอยากให้เรามีรถไว้ จะได้ขับออกไปหางาน ไปทำงานได้ พอดีผมไปเจอ 'เจ้ามังกรทอง' ที่งานประกวดควายงามเข้าให้ก่อน ก็เลยเปลี่ยนใจจากซื้อรถไปซื้อควายเลย เพราะคิดว่าถ้าซื้อรถมา เราก็ต้องหาตังค์มาเติมน้ำมันอีก แต่ถ้าเราเอามาซื้อสัตว์ แล้วเอามาต่อยอดในการเลี้ยง เงินก็จะได้เข้ามาหลายทาง
ตอนที่ผมชั่งน้ำหนัก ผมคิดแค่ว่าในเมื่อผมยังไม่มีรายรับ ผมก็ต้องลดรายจ่ายเพื่อให้เราอยู่ได้ เพราะเราเรียนจบแล้ว ผมไม่ขอตังค์พ่อแม่อยู่แล้ว แต่ถ้าซื้อรถ เราก็ต้องจ่ายค่าน้ำมัน สู้เลี้ยงควายไม่ได้ เราแค่หาหญ้าให้มันกินก็ได้แล้ว
ถึงช่วงแรกๆ เราจะยังผสมมันไม่ได้ แต่เราก็ยังขายมูลสัตว์ของมันได้ เอาไปให้คนอื่นใช้เป็นปุ๋ยก็ได้ เห็นชัดๆ เลยว่าซื้อควายมันดีกว่าซื้อรถแน่ๆ เพราะมันคือการ 'เพิ่มรายรับ ลดรายจ่าย' แต่ถ้าซื้อรถ มันคือการเพิ่มรายจ่าย แถมรายรับก็ไม่มีด้วย ผมก็เลยตัดสินใจเอาเงินไปซื้อควายครับ”
ต่อ-นรากร ศรีพั้ว หนุ่มน้อยนักคิดแห่ง อ.ภูพาน จ.สกลนคร เปิดใจเท้าความหลังให้ “ทีมข่าวผู้จัดการ Live” ฟังด้วยน้ำเสียงซื่อๆ ผ่านปลายสาย
ด้วยนิสัยรักสัตว์ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ผูกพันอยู่กับควายที่คุณพ่อเลี้ยงไว้ 2-3 ตัว เพื่อเติมเต็มความสุขทางใจ เมื่อถึงวันแห่งการตัดสินใจ วันที่ต้องควักปึกเงิน 790,000 บาท แลกกับ “เจ้ามังกรทอง” ควายเผือกสายพันธุ์ไทยแท้ที่เขาถูกตาต้องใจตั้งแต่แรกเห็น เมื่อครั้งเจอในงานประกวดควายงามระดับประเทศที่ จ.ขอนแก่น ถึงแม้จะทำเอาเจ้าของเงินถึงกับช็อกเมื่อได้เห็น “ควาย” แทนที่จะเห็น “รถ” แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เพราะคุณพ่อเข้าใจหัวอกคนรักสัตว์ดีว่าเป็นอย่างไร
“ตอนแรกที่เห็น พ่อก็ตกใจครับ (ยิ้ม) พ่อก็ตกใจครับ แต่แกก็เข้าใจดีเพราะเป็นคนเคยเลี้ยงมาก่อน แกเลี้ยงเพราะอยากอนุรักษ์ไว้ พอดีบ้านผมมีสวนผลไม้ด้วยครับ ก็เลยเลี้ยงไว้ 2-3 ตัวเพื่อเอามูลของมันมาทำปุ๋ย แกคิดว่าเมื่อก่อนต้องขายควายเพื่อส่งแกเรียน ตอนนี้แกเลยอยากเลี้ยงควายตอบแทนบุญคุณมันครับ พอผมจบมาและจะทำด้านนี้ ผมก็เลยปรึกษาพ่อมาตลอด
[คุณพ่อชื่นใจ ถือถ้วยรางวัลชื่นชมความสำเร็จของลูก บนทางเลือกที่ไม่เหมือนใคร]
จริงๆ แล้ว พ่อแม่ก็อยากให้ผมเป็นข้าราชการนี่แหละครับ ออกมาเป็นสัตวแพทย์ตามที่เรียนมา แต่ผมมองอีกอย่างหนึ่ง ดูจากประสบการณ์รุ่นพี่รุ่นน้องของเราที่เขาเลี้ยงสัตว์กันมา เราก็เอามาปรับให้เข้ากับเรา แถมทุกวันนี้ควายก็ลดน้อยลง ผมเลยอยากจะปรับปรุงเรื่องนี้ อยากให้ควายในหมู่บ้านมีคนเลี้ยงมากขึ้นด้วย ซึ่งพ่อผมก็สนับสนุนเรื่องเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์ด้วยเหมือนกัน
ครอบครัวผมจะปลูกฝังเรื่องพอเพียงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ คือให้ปลูกในสิ่งที่เราอยากกิน เลี้ยงสิ่งที่จะมาเป็นอาหารของเราได้ ทุกวันนี้ก็มีเลี้ยงไก่เอาไว้ ให้ไก่ไปคุ้ยเขี่ยปุ๋ย กินหนอนไปตามเรื่อง ทุกอย่างมีวงจรชีวิตของมันที่เกื้อหนุนกันอยู่แล้ว แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายของเราด้วย
หรืออย่างควาย ก็สามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนของเราได้ ถ้าได้เลี้ยงในสิ่งที่เราชอบ เราจะได้ไม่ต้องไปหาซื้ออะไรที่มันเกินความจำเป็น แถมเรายังสามารถเอามูลสัตว์ไปให้ปุ๋ยผลไม้ในสวน เราก็ได้ในสิ่งที่อยากจะกิน ไม่ต้องไปเที่ยวหาซื้อของตามท้องตลาดอีก ทุกวันนี้ปุ๋ยที่ได้จากมูลสัตว์ก็ได้ผลเป็น 2 เท่าแล้วครับ ควาย 30 กว่าตัว ให้ปุ๋ยเยอะมาก เราก็เอาไว้ใส่ต้นไม้ตัวเองด้วย แล้วก็เอาไปแบ่งขายได้ด้วย
พอเขาโตเป็นหนุ่ม เราก็เอาเขามาผสมพันธุ์ ราคาค่าขยายพันธุ์ให้เขา ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจครับ ตัวหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่มีเงินผสมจริงๆ ผมก็ผสมให้แบบไม่คิดตังค์ เป็นการสร้างรายได้แล้วก็ลดรายจ่ายให้กับชาวบ้านที่เขาไม่มีเงินลงทุน”
สูงสุดคืนสู่สามัญ...
[เพื่อนคู่ใจในท้องทุ่ง เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม]
ตกลงใจเลี้ยงเจ้ามังกรทองมาได้ 2 ปี ถึงตอนนี้ มันกลายเป็นควายเผือกพันธุ์ไทยแท้ดีกรีแชมป์ประเทศไทยที่เนื้อหอมที่สุดตัวหนึ่งไปแล้ว ด้วยความบึกบึนที่มีมากกว่าควายไทยทั่วๆ ไปถึง 2 เท่า จากปกติอายุเกือบๆ 4 ปีแบบนี้ น้ำหนักจะอยู่ที่ 600-700 กก. แต่เจ้านี่หนักถึง 1,300 กก.
ด้วยร่างกายที่กำยำบวกกับผิวพรรณที่เกลี้ยงเกลา ทำให้ควายเผือกตัวนี้ คว้ารางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปี 2558 มาครองไปเรียบร้อย แถมยังเคยรับบทบาทหน้ากล้อง แสดงในหนังเรื่อง “บางระจัน 2” มาแล้วด้วย ยิ่งทำให้เพื่อนร่วมทุ่งตัวนี้เนื้อหอมเข้าไปใหญ่
คิดดูว่าเจ้าสองเขาสีเผือกตัวนี้เนื้อหอมขนาดไหน เชื่อหรือไม่ว่าถึงขนาดมีคนติดต่อเข้ามาขอซื้อในราคา 3 ล้านบาท!! แต่ต่อและครอบครัวไม่ขาย ด้วยจุดยืนที่ยึดเอาไว้ในใจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ที่ว่า ไม่ได้ต้องการเลี้ยงเอาไว้ขายมันเพื่อแลกเงิน แต่อยากเลี้ยงเก็บไว้เป็น “พ่อพันธุ์” เพื่อพัฒนาชุมชนมากกว่า
[ความบึกบึนของ "เจ้ามังกรทอง"]
“ผมอยากจะสนับสนุนให้คนกลับมาเลี้ยงเหมือนเดิมด้วยครับ ตอนนี้ผมก็รับขยายพันธุ์ให้ หรือถ้าใครเลี้ยงไม่ไหวแล้ว ผมก็รับซื้อคืนครับ หรืออย่างลูกเจ้ามังกรทอง ผมก็รับซื้อคืนด้วยเหมือนกัน ให้เขาเอาไป เลี้ยงเสร็จก็เอามาขายคืนผม ก็ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากเลี้ยงสัตว์
ทุกวันนี้ ชาวนามีแต่ขายกับขายออกไป ยังไงมันก็หมด พื้นนาก็เป็นสารเคมีหมดแล้ว สัตว์กินก็เป็นอันตราย ผมก็เลยอยากให้ปรับเปลี่ยนให้เลิกใช้สารเคมี ให้ใช้ปุ๋ยคอกเหมือนเดิม มันก็จะช่วยลดมลพิษไปได้เยอะ อยากจะสนับสนุนให้คนกลับมาเลี้ยง
มันก็ยากนะครับที่จะทำให้คนหันมาเลี้ยงควายเหมือนเดิม แต่ก็อยากทำให้มันได้ อยากให้ควายคืนทุ่งนา เวลามองไปทางซ้ายทางขวา อยู่ในทุ่งนาตามชนบทก็อยากให้เห็นควาย ทุกวันนี้เวลามองไป มันหายากมากเลยครับกว่าจะได้เห็นควายตัวนึง เพราะควายส่วนมากก็ไปอยู่ตามฟาร์มกันหมดแล้ว ชาวนาเอาไปขายเพื่อความอยู่รอดกันหมดแล้ว มีลูกหลานรุ่นต่อๆ มา อยากจะดูควาย ไม่มีแล้วครับตามทุ่งนา ต้องไปดูที่ฟาร์มแทน”
ทุกแนวความคิดที่ออกมาจากชายหนุ่มวัย 24 รายนี้ล้วนแล้วแต่น่าสนใจ ส่งให้ผู้คนบนโลกออนไลน์ต่างแห่เข้ามาชื่นชมในความคิดความอ่านของเขา
“สุดยอดครับ นับถือความคิดของคนรุ่นใหม่ ที่คิดทำมาหากินมาก่อนความหรูหรา”
“สมแล้วที่นำความรู้ที่ได้เรียนมาสานต่อ รถซื้อไปมูลค่าก็มีแต่จะลดลง แต่คุณเลือกต่อยอดจากสินทรัพย์ที่เพิ่มค่าได้ คุณมองเห็นโอกาสที่ใครๆ มองข้าม เชื่อว่าในอนาคตคุณจะไปได้ไกลจากนี้อีกมาก”
“คนเขาเรียนมาทางนี้ มีหัวคิดและสติปัญญา สร้างมูลค่าจากเงินที่พ่อให้ ดีกว่าใครอีกหลายๆ คน ที่ซื้อรถแล้วขับไปชนคนอื่นตาย หรือไม่ก็เสียชีวิตเอง ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และประโยชน์ที่ได้รับจากควายตัวนี้ มันมากกว่าเงิน 3 ล้านเสียอีก”
“น้อยคนที่จะคิดได้อย่างคุณค่ะ ดีใจด้วยกับคุณพ่อคุณแม่คุณ เพราะคนไทยบางคนก็มองคนที่ว่า ใครมีรถขี่หรือขับก็มีคนนับหน้าถือตาแล้ว หรือถ้ามีรถขับหน่อยก็เบ่ง คุณฉลาดจริงๆ ค่ะ”
แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ วันที่ทุกคนพร้อมใจกันยกย่องในตัวเขาอย่างที่เห็น ต่อบอกเลยว่าไม่ใช่ง่ายๆ เหมือนกัน เขาต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง สร้างพลังใจจากคำเย้ยหยันที่แว่วมาให้ได้ยินบ้างประปราย “เป็นถึงลูกครูบาอาจารย์ ทำไมกลับมาเลี้ยงควายแบบนี้” เนื่องจากพ่อของเขาคือครูประจำโรงเรียนบ้านใหม่พัฒนา แต่สุดท้ายเขาก็เดินตามเส้นทางฝันและทำมันให้เกิดขึ้นจริงได้ แถมยังกลายเป็นไอดอลคนใหม่แห่งท้องทุ่งที่น่าจับตามองได้อีกต่างหาก
“ผมก็ทำในแบบของเราไป วันนี้ถ้าผมประสบผลสำเร็จ ทุกคนก็ได้เห็นแล้ว เขาก็จะเลิกพูดไปเอง เก็บคำที่เขาดูหมิ่นเหยียดหยามเรา เอามาเป็นแรงผลักของเราดีกว่า ไม่ใช่เก็บมาเป็นแรงกดดันของตัวเอง ถ้าจะให้แนะนำคนรุ่นใหม่ ผมแค่อยากจะบอกว่ามันขึ้นอยู่กับเรื่องศรัทธาส่วนตัวครับ ถามใจตัวเองให้ดีก่อนว่าศรัทธายังไง แล้วก็ทำตามนั้น
ส่วนผม ผมไม่ค่อยสนใจมองเรื่องภาพลักษณ์เท่าไหร่ (ยิ้ม) เหมือนถูกปลูกฝังมาให้ทำตัวธรรมดา ยกตัวอย่างเรื่องเทคโนโลยี ต่อให้มันพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดยังไง มันก็ต้องมีทางลง มีสิ่งใหม่ๆ ขึ้นไปแทน ให้มันกลับมาสู่จุดต่ำสุดอยู่ดี ก็เหมือนกับคนเรา ต่อให้ทำตัวสูงขึ้นไปเท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องกลับมาสู่ผืนดินเหมือนเดิม ผมคิดแบบนี้ครับ”
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพบางส่วน: workpointtv.com, thairath.co.th
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754