กรมโรงงานอุตสาหกรรมเตือนผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการการจัดการกากอุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วให้ถูกต้อง พร้อมกำชับผู้ประกอบการก่อนนำกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงานให้กรอกข้อมูลในใบกำกับการขนส่ง เตือนหากไม่ปฏิบัติตามปรับไม่เกิน 2 แสน สูงสุดเพิกถอนใบอนุญาต
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมโรงงานฯ ได้ออกมาตรการเร่งด่วนที่จะเร่งรัดให้กากอุตสาหกรรมอันตรายเข้าสู่ระบบการจัดการกากอุตสาหกรรม ตามแผนยุทธศาสตร์การจัดการกากอุตสาหกรรม พ.ศ. 2558-2562 โดยออกมาตรการให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมให้คำแนะนำวิธีการขออนุญาตการนำกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงานอย่างถูกต้องแก่ผู้ประกอบการในโรงงาน 20 ประเภทโรงงานที่มีกากของเสียอันตรายอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งยังไม่เข้าระบบการจัดการกากอุตสาหกรรม จากมาตรการดังกล่าวจะมีโรงงานเข้าสู่ระบบจำนวน 2,136 โรงงาน และให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแจ้งตรงถึงผู้ประกอบโรงงานจำพวกที่ 3 ขนาดใหญ่จำนวน 24,500 โรง (จากทั้งหมด 80,000 โรง) ให้ดำเนินการติดต่อยื่นขออนุญาตนำกากฯ ออกนอกโรงงานเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้มีการจัดการกากฯ เข้าสู่ระบบโดยเร็ว
ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ได้เพิ่มมาตรการเกี่ยวกับการกำจัดกากของเสียอันตรายเพิ่มเติม โดยส่งหนังสือแจ้งถึงผู้ประกอบการจำนวน 9,600 โรงงานที่จะต้องกรอกรายละเอียด ชนิด ปริมาณ ชื่อผู้รับบำบัด/กำจัดโดยทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ครบถ้วน และต้องตรวจสอบใบกำกับการขนส่งกากฯ ทุกครั้งที่มีการนำกากฯ ออกนอกโรงงานอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากกรมโรงงานฯ ตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการฝ่าฝืนนำกากฯ ออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการแจ้งขนส่งทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 ปรับไม่เกินสองแสนบาท
อย่างไรก็ตาม กรมโรงงานฯ ได้สนองตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญต่อการจัดการขยะจากภาคอุตสาหกรรมให้เป็นเรื่องเร่งด่วน โดยที่ผ่านมากรมโรงงานฯ ออกมาตรการควบคุมผู้ประกอบการอย่างเข้มงวดเพื่อให้กากอุตสาหกรรมทั้งอันตรายและไม่อันตรายเข้าสู่ระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องมากขึ้น ซึ่งข้อมูลสถิติล่าสุด จากข้อมูลวันที่ 1 ต.ค. 58 ถึง 13 ก.ค. 59 มีกากฯ อันตรายเข้าระบบแล้ว จำนวน 1.03 ล้านตัน และกากไม่อันตรายเข้าระบบแล้ว จำนวน 21.35 ล้านตัน รวมจำนวนกากอุตสาหกรรมที่เข้าระบบแล้วกว่า 22.38 ตัน ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเองปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และจะต้องมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมไม่ควรมุ่งหวังแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *