กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ส่งผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการลงพื้นที่ตรวจโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 7,200 โรงงานทั่วประเทศ ตามโครงการบูรณาการตรวจโรงงานเชิงสร้างสรรค์และส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ Thailand Spring Up ยกระดับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มมูลค่าของกากอุตสาหกรรม ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม ตั้งเป้า 2 ปี งบประมาณ 40 ล้านบาท
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมโรงงานฯ จะส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 7,200 โรงงานทั่วประเทศ พร้อมด้วยนักวิชาการจาก สวทช.ให้คำแนะนำและรวบรวมข้อมูลปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการผลิตของผู้ประกอบการแต่ละรายมาทำการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการต่อยอดและถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยสู่ภาคอุตสาหกรรมในภาพรวม ปัจจุบันได้ตรวจโรงงานไปแล้ว 4,400 โรงงาน และอีก 2,800 โรงงานที่จะต้องดำเนินการตรวจโรงงานให้ครบตามแผนในปีนี้ มีผู้ประกอบการสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 116 ราย ซึ่งโครงการดังกล่าวมีแผนการดำเนินงานทั้งหมด 2 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2560 ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 40 ล้านบาท สามารถสร้างผลตอบแทนมูลค่าเพิ่มกว่า 300 ล้านบาท หรือ 7.5 เท่าจากเงินลงทุนให้แก่ภาคอุตสาหกรรมไทย
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกัน ระหว่าง สวทช.กับ กรอ.ในการพัฒนาให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการส่งผู้เชี่ยวชาญของกรมโรงงานฯ พร้อมด้วยนักวิชาการจาก สวทช.เข้าไปวินิจฉัยปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานกลุ่ม SMEs ทั่วประเทศ พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุน การประหยัดพลังงาน และประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยกรมโรงงานฯ มีแผนปฏิบัติการตรวจโรงงานจำนวน 7,200 โรงงานทั่วประเทศ ที่ผ่านมาได้ตรวจโรงงานไปแล้ว 4,400 โรงงาน และอีก 2,800 โรงงานที่จะต้องดำเนินการตรวจโรงงานให้ครบตามแผนในปีนี้ โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานคือ กรมโรงงานฯ ลงพื้นที่ตรวจโรงงานพร้อมเชิญชวนเข้าร่วมโครงการ จากนั้นจะคัดเลือกและส่งรายชื่อโรงงานที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกให้ สวทช.พิจารณาเพื่อเตรียมส่งนักวิชาการเข้าไปให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้นด้วยองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน เช่น การบริหารการผลิต กระบวนการผลิต วิเคราะห์ทดสอบ ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมการอบรมสัมมนา และการจัดหาทรัพยากรสนับสนุนที่จำเป็น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการโรงงานสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 116 รายในกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมการแปรรูปโลหะ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แปรรูปอาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วน และ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
ทั้งนี้ พบว่าโรงงานกลุ่มดังกล่าวมีความต้องการปรับปรุงด้านพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพ และด้านสิ่งแวดล้อม ตามลำดับ โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปโลหะที่ส่วนใหญ่มีความต้องการปรับปรุงและพัฒนาในด้านพลังงานและประสิทธิภาพมากที่สุด และที่ผ่านมานั้น สวทช. ได้นำงานวิจัยและนวัตกรรมช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs เพื่อช่วยโรงงานลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น เช่น การพัฒนาระบบการผลิตแม่พิมพ์ขึ้นรูปโลหะ การพัฒนาโปรแกรมใช้งานอุปกรณ์สื่อสารไร้สายแบบสองทาง การวิจัยและพัฒนาเครื่องปั้นขนมไทย การพัฒนาการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลและยานยนต์ด้วยระบบควบคุมคอมพิวเตอร์ การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการโรงงาน SMEs เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนากระบวนการผลิตให้มีผลผลิตมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำวิจัยและเทคโนโลยีไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยสู่ระดับสากลต่อไป
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักโรงงานอุตสาหกรรมรายสาขา 4 โทร. 0-2202-3967 หรือสอบถามข้อมูลโครงการอื่นๆ ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4014 หรือเข้าไปที่ www.diw.go.th หรืออีเมล pr@diw.mail.go.th
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *