xs
xsm
sm
md
lg

“แคคตัส” ไม้ทะเลทราย เทรนด์ไม้ประดับมาแรง รับตลาดคอนโดฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ไม้ทะเลทรายสายพันธุ์ต่าง ของฟาร์ม Two bees,garden
ต้นไม้ทะเลทราย ไม้ประดับที่ได้รับความนิยม เพราะไม่ต้องดูแลรักษามาก และต้นเล็กๆ น่ารัก เหมาะกับที่อยู่อาศัยในเมืองอย่างคอนโดมิเนียม และต้นไม้ทะเลทรายที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ ก็จะเป็นกลุ่มสายพันธุ์ "แคคตัส"

Two Bees’Garden ของ “นายพิชญะ วัชจิตพันธ์” เป็นหนึ่งในฟาร์มที่เพาะเลี้ยงต้นไม้ทะเลทราย หรือ “ไม้อวบน้ำ” โดยฟาร์มแห่งนี้ มีไม้อวบน้ำให้เลือกมากกว่า 1,000 ชนิด และมีไม้อวบน้ำจำหน่ายหลายหมื่นต้น บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ โดยที่มาของต้นไม้อวบน้ำ มาจากต่างประเทศ และ การผสมข้ามสายพันธุ์
การตัดต่อพันธุ์ จนได้มาเป็นแบบนี้
นายพิชญะ เล่าว่า ได้เริ่มเพาะเลี้ยงไม้อวบน้ำมานานเกือบ 20 ปี ซึ่งมาจากความชอบส่วนตัว โดยได้ความรู้จากการได้มีโอกาสพักอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ได้รู้จัก ไม้อวบน้ำสายพันธุ์ต่างๆ มากมาย เกิดความชื่นชอบ ก็เลยเริ่มหาซื้อมาเพาะเลี้ยง จากการเพาะเลี้ยงเล่นเป็นงานอดิเรก ค่อยศึกษา เริ่มหาซื้อสายพันธุ์ใหม่มาเรื่อย จนสุดท้ายกลายเป็นนักสะสม เพราะมีไม้อวบน้ำเป็นหลักพันชนิด พอกลับมาเมืองไทย เห็นว่าบางสายพันธุ์เมืองไทยไม่มี และเราก็สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้ จึงได้เริ่มนำออกมาขาย ซึ่งเริ่มขายอย่างจริงจังเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา หลังจากได้ลาออกจากงานประจำเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ลูกค้าซื้อยกไปแบบนี้ และนำไปแยกหน่อจำหน่าย
สำหรับรายได้ Two Bees’Garden มาจากการขายไม้อวบน้ำ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับงานประจำ มากกว่าการทำงานประจำหลายเท่าตัว กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของทางฟาร์ม จะเป็นกลุ่มนักสะสม ทำให้ราคาแพงกว่า ไม้อวบน้ำที่ขายทั่วไป เพราะบางสายพันธุ์ไม่มีในประเทศไทย แต่ ทาง Two Bees’Garden สามารถเพาะได้สำเร็จ ทำให้ราคาต้นไม้ของฟาร์มแห่งนี้ บางต้นสูงถึงหลักพันบาท หรือ หมื่นบาท เลยที่เดียว 

การขายต้นไม้ในกลุ่มนักสะสม อาจจะดีตรงที่ได้ราคาที่สูง แต่การหาไม้ที่นักสะสมต้องการไม่ใช่เรื่องง่าย และการเพาะขยายพันธุ์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ผมเองใช้เวลาเกือบ 20 ปี ในการคลุกคลีในการศึกษา และหาแหล่ง พร้อมทั้งการศึกษาวิธีการดูแล และขยายพันธุ์ไม้หายากเหล่านี้ โดยขายเฉพาะต้นไหนที่เราสามารถขยายพันธุ์ได้ เท่านั้น ซึ่งลูกค้าของเราจะมีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ต้นขนาดนี้ พร้อมจำหน่าย
ทั้งนี้ ลูกค้าของ Two Bees’Garden มาจาก 2 ทาง ขายให้กับกลุ่มสะสม และขายพ่อค้าทั่วไปที่รับไปจำหน่าย ซึ่งมาจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยยุคนี้ มีตัวช่วยอย่างอินเตอร์เน็ต และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป้าหมายการตลาดของ "คุณพิชญะ"  คือ การเป็นผู้ผลิตมากกว่า ดังนั้น เป้าหมายต้องการขายให้กับพ่อค้า มากกว่า การขายปลีก ดังนั้น จึงไม่ได้เปิดฟาร์มให้กับลูกค้าทั่วไป แต่การขายปลีกจะมีช่องทางเดียว คือ ตลาดนัดต้นไม้ ที่สวนจตุจักร ในวันพฤหัส เท่านั้น
แคดตัส หลากสี กำลังได้รับความนิยม เกิดจากการสังเคราะห์แสงที่ไม่ทั่วถึง
สำหรับต้นไม้อวบน้ำ หรือ ไม้ทะเลทราย ต่างจากไม้ประดับชนิดอื่นๆ ตรงที่ความนิยมไม่ได้หวือหวา เหมือนกับไม้ประดับชนิดอื่นๆ เช่น ต้นชวนชม ลีลาวดี หรือ โป๊ยเซียน ที่ความนิยมช่วงหนึ่งจะมาแรงสุด และ เมื่อสินค้าออกมาจนล้นตลาด ความนิยมและราคาลดลงไปทันที  แต่ในขณะที่ไม้ทะเลทราย จะไปเรื่อยๆ คนที่ชื่นชอบก็จะอยู่ในวงไม่กว้างมาก เพิ่งจะมีช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ความนิยมเริ่มมากขึ้น มาจากเทรนด์การแต่งสวนในคอนโดที่ต้องการต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่ต้องลดน้ำมาก และต้นไม่ใหญ่มาก ต้นไม้อวบน้ำในกลุ่ม แคดตัส จึงกลับมาได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ราคาเริ่มขยับขึ้น ถ้าสวยมีหลักพัน บาท แต่ที่ขายทั่วไป มีตั้งแต่หลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อย แล้วแต่รูปทรงความสวยงามของต้น สายพันธุ์
นาบพิชญะ วัชจิตพันธ์
ส่วนการเพาะขยายพันธุ์ ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ บางอย่างก็ง่าย บางอย่างก็ยาก แต่จุดเด่นของไม้ชนิดนี้ คือ ไม่ต้องดูแลรดน้ำมาก อย่างที่ฟาร์ม รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น  เนื่องจากบ้านเราเป็นเมืองร้อน ช่วงอากาศหนาวน้อยมาก ต้นไม้ชนิดนี้ก็เลยอยู่ได้ ไม่ค่อยมีปัญหา และส่วนใหญ่ก็จะเลี้ยงในร่ม และอยู่ในฟาร์มปิด ทำให้ป้องกันเชื้้อโรค และเชื้อรา ที่มาจากน้ำฝนได้
ต้นไม้จะถูกเลี้ยงในโรงเรือน เพื่อป้องกันแมลง เชื้อราที่มาจากน้ำฝน และปริมาณแสงที่พอเหมาะ
“พิชญะ” เล่าว่า จุดเด่นของ Two Bees’Garden คือมีสายพันธุ์ให้เลือกเยอะ เนื่องจากเป็นนักสะสม ดังนั้น ชอบที่ศึกษา และเสาะแสวงหาของสะสมใหม่ตลอด มีอะไรใหม่ๆ มา เราก็จะหาซื้อมาสะสม และถ้าขยายพันธุ์ได้ ก็ขายออกไปให้กับนักสะสมคนอื่น ๆ แต่ถ้าขยายพันธุ์ไม่ได้ ก็เก็บสะสมเอาไว้เอง ปัจจุบัน ลูกค้านักสะสมไม้ชนิดนี้ เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในต่างประเทศที่มาซื้อของเรา เพราะบางอย่าง เราเป็นคนเดียวในโลกที่เพาะขยายพันธุ์ได้ ราคาถีบตัวสูงมาก  และที่สำคัญได้ทำในสิ่งที่รักและชื่นชอบ มีความสุข ทำทุกอย่างในแต่ละวันออกมาได้ดี

ถามถึงการลงทุน “พิชญะ” บอกว่า ในครั้งนี้ ใช้เงินไปหลักหลายล้านบาท แต่เป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป  เพราะส่วนหนึ่งมาจากการซื้อต้นไม้สะสม ซึ่งแต่ละต้นก็มีราคาแพง แต่ถ้าเป็นการลงทุนโครงสร้าง จะแพงในส่วนของการทำโรงเรือน ซึ่งใช้เงินไปประมาณกว่า 1 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นพ่อค้าทั่วไป คงจะไม่ต้องลงทุนสูงขนาดนี้ แต่เราเป็นผู้ผลิต ก็อาจจะต้องลงทุนสูง ในการหาต้นไม้สายพันธุ์ใหม่ตลอดเวลา  ส่วนความรู้ในการปลูกไม้อวบน้ำ ปัจจุบันนั้นหาข้อมูลได้ง่ายจากทางอินเตอร์เน็ต ถ้าเป็นสมัยอดีต เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา การหาข้อมูล ต้องค้นหาจากในหนังสือ  อาศัยว่าเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ก็ได้ความรู้จากในหนังสือ

โทร. 08-1192-0593 ,www.facebook.com/2beesgarden

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น