จากผู้ประกอบการด้านเสื้อผ้าขายส่งย่านประตูน้ำ ตัดเย็บและออกแบบเอง กระทั่งเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ตัดสินใจกลับบ้านเกิด อาศัยพื้นที่หน้าบ้านเล็กๆ รับตัดเย็บเสื้อผ้าตามแบบ พร้อมเข้าอบรมทำผ้าบาติกกลับมาสอนสามีที่เป็นช่างก่อสร้างให้ทำผ้าบาติก กระทั่งฝีมือเข้าขั้นออเดอร์ทำไม่ทัน ตัดสินใจเลิกเย็บผ้า มุ่งพัฒนาผ้าไหม ลายบาติก สะท้อนเสน่ห์อีสานแบบเต็มตัว กับแบรนด์ “ฅญา” (Kaya)
ชนัญญา ดรเขื่อนสม หรือ พี่นิด หญิงเก่งผู้ก่อตั้งแบรนด์ “ฅญา” ไหมไทย ลายบาติก เธอเริ่มจากการทำเสื้อผ้าขายส่งย่านประตูน้ำ กระทั่งเจอวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.นครราชสีมา อาศัยพื้นที่หน้าบ้านเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่นิยมมาตัดชุดผ้าไหม แต่เธอก็ไม่หยุดที่จะหาความรู้ด้านงานผ้าเพิ่มเติม จึงเข้าอบรมการทำผ้าบาติกซึ่งเป็นหลักสูตรพื้นฐาน
“ในช่วงเปิดร้านรับตัดเย็บเสื้อผ้า รายได้ก็ถือว่าเพียงพอใช้จ่ายในครอบครัว แต่ลึกๆ แล้ว ไม่ได้มองไกลถึงขนาดเป็นอาชีพในอนาคต จึงพยายามหาความรู้ด้านอื่นเพิ่มเติม ซึ่งงานผ้าบาติกเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยเรียนรู้มาก่อน จึงตัดสินใจเข้าฝึกอบรม ซึ่งมีคนเข้ามาเรียนจำนวนมาก แต่น้อยคนที่ยึดเป็นอาชีพหลัก เพราะขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก ต้องอาศัยความอดทนและตั้งใจสูง”
แต่ใครจะคิดว่าเมื่อคุณนิดได้เรียนรู้การทำผ้าบาติกแล้ว เธอกลับไม่ใช่คนแรกในครอบครัวที่หารายได้จากงานนี้ กลับกลายเป็นสามี (นายสำลอง ดรเขื่อนสม) ผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากภรรยา เริ่มจากการทำผ้าเช็ดหน้าบาติกก่อน ซึ่งถือเป็นงานยากสำหรับผู้ชายคนหนึ่ง ที่ยึดอาชีพนายช่างคุมงานก่อสร้างมาโดยตลอดไม่เคยสัมผัสงานฝีมือมาก่อนในชีวิต
กระทั่งผ้าเช็ดหน้าเริ่มขายได้ ทำให้มีรายได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงคุณนิด มีไอเดียที่จะนำงานบาติกมาใส่ลงในผ้าไหม จึงนำไปเสนอลูกค้า พร้อมออกแบบลวดลายให้ทั้งหมด ซึ่งลูกค้าก็ชื่นชอบ รวมถึงผู้ที่พบเห็นก็เกิดการบอกปากต่อปาก ถึงการทำลายบาติกลงบนผ้าไหม ภายใต้แบรนด์ “ฅญา” (Kaya) ทำให้สามีมีงานเยอะขึ้น จนกระทั่งนำสินค้าไปฝากขายในโอทอปของเพื่อน ก็ได้ออเดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงตัดสินใจเลิกการตัดเย็บเสื้อผ้าหันมาจริงจังกับงานผ้าบาติกเต็มตัว
ด้วยข้อจำกัดของบาติก คือ ต้องอาศัยเวลา และเป็นงานแฮนด์เมด ทำให้ได้จำนวนสินค้าไม่มากนัก ประกอบกับในช่วงที่งานบาติกเติบโต ที่จ.ชัยภูมิ ทางหน่วยงานภาครัฐฯ ก็สนับสนุนให้ทำผ้าบาติกกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งสุดท้ายก็ส่งผลกระทบกับธุรกิจของเธอ โดยเฉพาะการตัดราคากันเอง ดังนั้นพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด จำเป็นต้องตัดขั้นตอนที่ทำให้สิ้นเปลืองเวลา และกำลังคน โดยขั้นตอนที่ยากคือ การลงเทียน เธอจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ขึ้น ทดแทนการใช้เทียน ที่เธอเรียกว่า “กาวนวัตกรรม”
คุณสมบัติพิเศษของกาวชนิดนี้ คุณนิด บอกว่า ใช้แทนน้ำเทียนในการขึ้นลาย ล้างออกง่าย และสามารถเขียนลายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อขึ้นลายลงสีเรียบร้อย ก็เอากาวออกทำให้เกิดการ “แคลก” (Crack) หรือ รอยแตกกระเทาะ สื่อถึงความเป็นภาคอีสาน เปรียบเสมือนดินที่แตกระแหง จึงนำมาสร้างเรื่องราวผ้าบาติกของตนเอง สู่ “ผ้าบาติกอีกสาน” อย่างในปัจจุบัน ที่มีการนำเอาธรรมชาติใกล้ตัวมาสร้างลวดลาย อย่าง ก้อนหิน ต้นไม้ ใบ และสายน้ำ
“ฅญาบาติก เป็นผลิตภัณฑ์จากงานศิลปะบนผืนผ้าไหมแท้ 100 % ที่ใช้เทคนิคบาติกในการสร้างสรรค์งาน มีการออกแบบลวดลายที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว บ่งบอกถึงถิ่นที่มาของภูมิลำเนาภาคอีสาน ผลงานสะท้อนสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง เช่น รอยแตกระแหงของผืนดิน ลวดลายของใบไม้ ซึ่งเกิดจากการผสมผสานลาย เราใช้เวลาพัฒนาเทคนิคประมาณ 1 ปี โดยนำผ้าบาติกมาต่อยอดเป็น กระเป๋า เสื้อผ้า ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ หมอนประเภทต่างๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 450-3,000 บาท”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ “ฅญา” นอกจากจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว ยังได้รับโอกาสให้นำสินค้าไปจำหน่ายที่ร้าน King Power สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กับสินค้า 5 ประเภท ได้แก่ หมอนรองคอ ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ หมอนอิง และกระเป๋าคล้องมือ ซึ่งขายจุดเด่นในเรื่องของลวดลายและเทคนิคงานผ้าบาติกที่แปลกแหวกแนว โดยใช้ผ้าไหมไทย 100% ทั้งผ้าไหมท้องถิ่น และผ้าไหมจากโรงงานอุตสาหกรรม
@@@ที่มาชื่อแบรนด์ “ฅญา” (KAYA)@@@
มาจากคำว่า 'พุทธคยา' สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หมายถึง ความรู้แจ้ง และเห็นจริง ซึ่งเป็นความชอบส่วนของเจ้าของแบรนด์ ขณะที่ในภาษายาวี แปลว่า เศรษฐี
***สนใจติดต่อ 08-6250-1920หรือสัมผัสสินค้า “ฅญา” ได้ที่ 244/4 หมู่ 12 ถ.ประชาอุทิศ ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *