เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(5) ตำรวจอังกฤษจับกุมนิโคลัส ซัลวาดอร์ ( Nicholas Salvador ชาวมุสลิมแอฟริกันอังกฤษวัย 25 ปี ฉายา “ไอ้อ้วนนิก” เป็นผู้ต้องหาสังหาร พัลมิรา ซิลวา (Palmira Silva) อายุ 82 ปี 1 วันก่อนหน้านี้ หลังสื่อในประเทศรายงานพบศพหญิงชราถูกตัดคอที่หลังบ้านของเธอในเขตเอ็ดมันตัน ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน
ตำรวจปฎิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงการเสียชีวิตของพัลมิรา ซิลวา (Palmira Silva) อายุ 82 ปี แต่ได้เคยให้สัมภาษณ์ในวันพบศพว่า “ไม่เกี่ยวข้องกับก่อการร้าย”
นิโคลัส ซัลวาดอร์ ( Nicholas Salvador แอฟริกันอังกฤษวัย 25 ปี อาศัยอยู่กับเพื่อนไม่ห่างจากบ้านเหยื่อถูกจับกุมฐานฆ่าคนตายในวันศุกร์(5) และมีกำหนดต้องขึ้นศาลแขวง “ไฮเบอร์รี คอร์เนอร์ (Highbury Corner)ในกรุงลอนดอนในวันเสาร์นี้(6) และนอกจากนี้หนุ่มผิวสีตกงานชาวอังกฤษ ฉายา “ไอ้อ้วนนิก” ยังถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่อีกด้วย ตำรวจอังกฤษแถลง
ทั้งนี้ตำรวจพบศพหญิงชราเชื้อสายอิตาลีผู้นี้ที่ย่านชานเมืองเขตเอ็ดมันตันหลังจากได้แจ้งจากผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นในช่วงเที่ยงของวันพฤหัสบดี(4)ว่า มีชายน่าสงสัยถือมีดไล่ทำร้ายสุนัขหรือแมว ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีรายงานพบสุนัขถูกตัดหัวในย่านนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการอพยพชาวเอ็ดมันตันออกจากบ้านเรือนทั้งหมดหลังคนร้ายวิ่งหนีตัดผ่านสนามหลังบ้านในพื้นที่ปิดล้อม
ด้านสก็อตแลนยาร์ดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในการสืบสวนเพิ่มเติมว่า ซัลวาดอร์ที่เป็นชาวมุสลิมนั้นได้ก่อเหตุทำร้ายเหยื่อ 2 รายในบ้านที่ตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกันกับบ้านพักของซิลวาหรือไม่ โดยในขณะนี้ยังไม่มีการแถลงถึงสาเหตุการลงมืออุกอาจในครั้งนี้
อังกฤษจะทำการชันสูตรศพเหยื่อผู้เสียชีวิตในวันเสาร์(6)
นอกจากนี้สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมถึงซัลวาดอร์ว่า จากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพเหตุการณ์ 2 ชม.ก่อนเกิดเหตุ พบซัลวาดอร์กำลังนั่งทานเบอร์เกอร์ในร้านคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากบ้านซิลวา และเดินออกไปจากร้านโดยไม่จ่ายค่าอาหาร แต่พนักงานในร้านห้ามไม่ให้เขาออกจากร้านโดยไม่ได้จ่ายเงิน ดังนั้นซัลวาดอร์จึงจำเป็นต้องเดินกลับไปเพื่อชำระค่าอาหาร
ด้านเฮย์ลีย์ คายา ( Hayley Kaya)พนักงานเสริฟวัย 27 ปีประจำร้านเบอร์เกอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ เดอะซันว่า “ดูเหมือนว่าใจของซัลวาดอร์จะลอยไปที่อื่น แต่ในเวลาที่ได้ให้บริการเขา ก็เห็นว่าปกติดี”
ในขณะที่เพื่อนบ้านของซิลวาวัย 36 ปี พนักงานเวอร์จิน มีเดีย เมอร์วิน เคอร์วาน (Myrvin Kirwan)ที่เห็นเหตุการณ์ลงมือสังหารให้สัมภาษณ์ว่า “เขากระโดดข้ามรั้วออกมาพร้อมกับมีดยาวในมือ และมือทั้งสองเปื้อนเลือดจนชุ่ม และมองตรงมาที่ดิฉัน แต่ดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะมองทะลุผ่านตัวดิฉันไป
ทั้งนี้ซิลวาได้อพยพพร้อมสามี โดเมนิโก (Domenico) มาตั้งรกรากในกรุงลอนดอนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่เมื่อ 60 ปีมาแล้ว โดยคนทั้งคู่พบกันครั้งแรกที่อังกฤษในยุค 50 และได้แต่งงานที่นี่ และเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ที่มีบุตร 2 คน เซเลสตินา (Celestina) ปัจจุบันอายุ 49 ปี และ รีโน (Rino )ปัจจุบันอายุ 53 ปี รวมไปถึง Silva’s Cafe ธุรกิจร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามสามีของซิลวาเสียชีวิตในปี 2008 และเธอเพิ่งเดินทางกลับมาจากการพักผ่อนที่อิตาลี 1 สัปดาห์ก่อนที่จะถูกสังหารโหด
