คุณอาจเริ่มต้นศึกษาข้อมูลความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจมานานมาก มากจนคิดว่าถ้าสินค้าออกวางจำหน่าย อาจสร้างปรากฏการณ์หรือเปลี่ยนโฉมสินค้าในตลาดได้เลย
ลำดับต่อมาคุณเริ่มมองเรื่องเงินทุน คิดหาทางเพิ่มเงินทุน ไม่ว่าจะด้วยการหยิบยืม การกู้ แต่สุดท้ายหลายๆ คนมักพบกับคำถามที่สร้างความหวั่นใจที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจอย่างจริงจังซักที นั่นก็คือ “เราพร้อมทำธุรกิจแล้วจริงๆ เหรอ” ลองมาดู 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือพร้อมที่จะทำธุรกิจกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง
1. คุณไม่อยากทำงานประจำอีกต่อไปแล้ว
งานทุกงานมีทั้งด้านบวกและด้านลบอยู่ในตัวเองเสมอ แต่ถ้าจิตใจคุณจดจ่ออยู่กับธุรกิจของตัวเอง จนรู้สึกไม่อยากทำงานประจำอีกต่อไปแล้ว นั่นคงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณอยากมีธุรกิจที่สามารถทำเงินให้กับตัวเองได้มากกว่ามานั่งทำงานให้กับคนอื่น แต่การเจอวันแย่ๆ ไม่กี่วัน อย่างโดนเจ้านายต่อว่า ทะเลาะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนร่วมงานจนอารมณ์ขุ่นมัวไป 3 วัน 7 วัน จะเป็นคนละเรื่องกันแล้ว ต้องแยกให้ออก
สิ่งที่ต้องระวังคือ ควรรู้ให้แน่ชัดก่อนว่าธุรกิจสามารถทำเงินได้จริง เพราะหากลาออกไปตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ยังไม่ทันวางขาย จะเอาเงินที่ไหนมาใช้หมุนเวียนในการลงทุนแต่ละเดือน รอจนทุกอย่างพร้อมในระดับหนึ่งค่อยลาออกก็ยังไม่สาย
2. คุณเข้าใจว่าการทำธุรกิจ คือความไม่แน่นอน
คุณสามารถยอมรับความจริงได้ว่า การทำธุรกิจอาจล้มเหลว และเข้าใจว่าสามารถลดความเสี่ยงจากการล้มเหลวได้อย่างไรบ้าง อาจเป็นการวิเคราะห์หรือทำการวิจัยตลาด นำผลิตภัณฑ์ไปทดสอบตลาดเพื่อดูผลตอบรับ การขอคำปรึกษาจากหน่วยงานหรือผู้มีความรู้เฉพาะทาง เป็นต้น
3. ได้ลงมือทำการวิจัยตลาดด้วยตัวเองบ้างแล้ว
หลายคนมีความคิด และได้แต่มโนเอาเองว่า น่าจะเป็นแบบนั้น แบบนี้ กลุ่มเป้าหมายต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ลูกค้าน่าจะซื้อ โดยที่ไม่เคยแม้แต่แจกแบบสอบถาม ลงพื้นที่สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย นำผลิตภัณฑ์ต้นแบบไปให้ลูกค้าทดสอบ หากไม่เคยทำ ได้แต่คิด ต้องบอกเลยว่าอย่าเพิ่งทำธุรกิจ เพราะสิ่งที่คิด กับความเป็นจริง บางครั้ง มันไม่ได้ใกล้กันเลย นอกจากนั้นยังมีเรื่องการศึกษาและวิเคราะห์คู่แข่ง ตรวจสอบว่าหากจะกู้ธนาคารมีโอกาสปล่อยกู้มากเท่าไหร่ จะผ่อนเงินกับธนาคารได้อย่างไร มีแผนรองรับชัดเจนหรือยัง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผู้ที่จะลงมือทำธุรกิจควรศึกษา เพื่อลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด
4. คุณรักในการทำธุรกิจที่สร้างขึ้น
คนบางคนทำธุรกิจเพราะเห็น “โอกาส” คิดว่าทำแล้วขายดี แต่ไม่ได้ชื่นชอบจริงๆ เช่น เห็นธุรกิจสินค้าแม่และเด็กกำลังเติบโต ผ่านไปร้านไหนก็มีคนแวะเวียนไปอุดหนุนเต็มร้านตลอด จึง “คิด” ว่า ถ้าทำบ้างน่าจะดี แต่พอทำไปกลับพบว่าไม่ชอบ ไม่มีความรู้เรื่องสินค้าเท่าไหร่ ไม่รู้เรื่องโลจิสติกส์ เบื่อกับการสต็อคสินค้า และไม่มีจิตวิญญาณด้านการให้บริการ
การได้ทำในสิ่งที่เรารักและชื่นชอบ จะเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวต่อไปได้ คุณจะไม่ต้องรู้สึกว่าต้องเรียนรู้เพิ่มเติม เพราะคุณได้ทำในสิ่งที่ชอบตลอดเวลา และที่สำคัญคือคุณจะมีความสุขเมื่อได้สร้างและพัฒนาในสิ่งที่ตัวเองรักให้กลายเป็นธุรกิจได้ เชื่อสิ กำไรเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญเท่าความสุข (แต่ธุรกิจต้องเลี้ยงตัวเองได้นะ)
5. คุณมีทีมที่ยอดเยี่ยม
ในช่วงแรกคำว่าทีม ไม่ได้หมายถึงพนักงาน แต่หมายถึงคนที่เห็นด้วยและพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณในการก่อร่างสร้างธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน เพราะหลายคนวาดฝันไว้ใหญ่แต่ไม่มีใครคอยช่วย สุดท้ายก็ทำเองคนเดียวไม่ไหว จะจ้างพนักงานก็ค่าใช้จ่ายทั้งนั้น หาคนใกล้ตัวที่เต็มใจช่วยและเมื่อวันหนึ่งธุรกิจประสบความสำเร็จ ค่อยมอบสิ่งดีๆ ตอบแทนพวกเขา น่าจะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย
อีกหนึ่งคำถามกวนใจคือ “แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ดี” คงต้องบอกว่าเมื่อเราไม่สามารถหายใจให้กับงานของคนอื่นได้ และมี 5 ข้างด้านบนพร้อมกับเงินทุนก้อนหนึ่ง ตอนนั้นคงเป็นเวลาที่เราพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการอย่างแท้จริง
ข้อมูลโดย : http://smeknowledge.com/
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *