การปลูกเมลอนโรงเรือน ทางออกเกษตรกรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี และภาวะภัยแล้ง เพราะเมลอนเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ที่สำคัญรายได้ดีแบบเป็นกอบเป็นกำ สร้างเกษตรกรเงินแสน เงินล้านมาแล้ว
“นายประกอบ แต้เจริญวิริยะกุล” เจ้าของฟาร์มเมลอนโรงเรือน จังหวัดปทุมธานี พลิกผันตัวเอง หันมาสร้างอาชีพเสริมจากการเป็นพนักงานประจำ “การทางพิเศษแห่งประเทศไทย” มาทำฟาร์มเมลอนในแบบของเกษตรกรสมัยใหม่ ตามที่รัฐบาล “พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา” ต้องการเห็นเกษตรกรไทยในอนาคตเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีรายได้มั่นคงเลี้ยงตัวเองได้เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ
เมื่อถามว่า วันนี้เกษตรกรมือใหม่คนนี้มีอะไรในแบบของเกษตรกรสมัยใหม่ในแบบที่รัฐบาลให้เป็นบ้าง คำตอบคือ เกือบทุกข้อ ไม่ว่าจะเป็น การลดใช้สารเคมี การตลาดยุคใหม่แบบออนไลน์ เกษตรกรสามารถขายตรงถึงผู้บริโภคโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง การวางแผนการผลิต โดยยึดความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก
นายประกอบเล่าว่า ปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทยเกิดขึ้นมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากช่องว่างทางการตลาดที่เกิดขึ้นจากพ่อค้าคนกลาง และการผลิตที่ขาดการวางแผน และต่อจากนี้ไปเกษตรกรไทยจะต้องปรับตัว ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแข่งขันกับเกษตรกรในประเทศเพื่อนบ้าน หรือหลีกหนีความยากจนไปได้ การใช้สื่อออนไลน์ช่วยลดช่องว่างระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย และยังช่วยให้เกษตรกรทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของตลาดด้วย
“ก่อนที่ผมจะมาทำฟาร์มเมลอนอย่างจริงจัง ผมเริ่มมาจากลองปลูกเมลอนบนพื้นที่เล็กๆ ที่มีอยู่ภายในบ้าน (บ้านทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯ) โดยปลูกรอบๆ บ้าน เรียกว่า ลองผิดลองถูก การปลูกเมลอนของผมใช้การปลูกโดยใส่กระถางวางไว้ข้างบ้าน แต่ปัญหาคือ มีแมลงรบกวน และเมลอนติดเชื้อโรคที่มาจากดินและอากาศ กว่าจะประสบความสำเร็จได้ผมลองหลายวิธี สุดท้ายก็ทดลองไปปลูกบนระเบียงเพราะคิดว่าแมลงบินต่ำคงขึ้นไปไม่ได้ ซึ่งก็เริ่มดีขึ้น หลังจากผมเปลี่ยนมาใช้การปลูกแบบไฮโดร ไม่ใช่ดิน แต่ก็ยังมีเรื่องแมลงรบกวน สุดท้ายก็ทดลองทำแบบกางมุ้งข้างบ้าน สุดท้ายประสบความสำเร็จ ได้เมลอนที่ปลูกในบ้านทาวน์เฮาส์มาฝากเพื่อนแบบปลอดสารเคมี”
เมื่อเรียนรู้วิธีการปลูกจนสำเร็จ ก็เริ่มมองว่าเราน่าจะมีรายได้จากการปลูกเมลอนเป็นอาชีพเสริมได้ ซึ่งตัวผมเองนั้นไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองจึงได้ออกตระเวนหาที่ดินเพื่อเช่าทำโรงเรือน สุดท้ายก็ไปได้ที่ดินของเพื่อน บนถนนพุทธมณฑล สาย 5 โดยทำร่วมกันแบบแบ่งผลประโยชน์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกเมลอนขายอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการปลูกเมลอน 1 โรงเรือน ผลผลิตที่ได้คือ 400 ผล ราคาผลละ 150 บาท รายได้ 60,000 บาท
สำหรับการลงทุนโรงเรือน นายประกอบอธิบายว่า เริ่มสร้างโรงเรือนด้วยตัวเองเพราะมองว่าน่าจะได้ต้นทุนที่ถูกกว่า ขนาด 6x15 เมตร ราคา 45,000 บาท ส่วนราคาเมล็ดพันธุ์อยู่ที่ 7 บาท เป็นเมล็ดพันธุ์เมลอนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 400 เมล็ดต่อ 1 โรงเรือน และเป็นการปลูกแบบไฮโดร ต้องใช้ถังน้ำในการให้น้ำผสมสารอาหาร ราคาถังอยู่ที่ 5,000 บาท ปั๊มน้ำ 3,000 บาท ค่าปุ๋ย อาหารเสริมประมาณ 5,000-6,000 บาท ค่าวางระบบน้ำหยด และค่าไฟฟ้า รวมค่าใช้จ่ายครั้งแรกเกือบ 70,000 บาท
“หลายคนมองว่าต้นทุนตรงนี้สำหรับเกษตรกรหน้าใหม่อย่างผมไม่กลัวเจ๊งเหรอ ผมบอกได้เลยว่าผมกังวลและค่อนข้างหนักใจเหมือนกันในช่วงแรก แต่ผมมีฐานลูกค้าที่ติดตามผมมาตลอดผ่านทางหน้าเพจในเฟซบุ๊ก เว็บบอร์ด Pantip รวมถึงในกระปุก ทุกคนอยากได้ผลผลิตจากฟาร์มเมลอนของผม ผมจึงได้ตัดสินใจและกล้าลงทุนตรงนี้ และก็ไม่ผิดหวัง พอทุกคนที่ติดตามเรามาตลอด และเห็นขั้นตอนการปลูกเมลอนของเรา เขาก็มั่นใจว่าถ้าเขาสั่งเมลอนจากเรา เขาจะได้เมลอนที่ปลอดภัยไม่มีสารเคมี และก็ได้ราคาที่ไม่ต้องผ่านคนกลาง”
และจากจำนวนคนที่ติดตามเรื่องราวเมลอนของนายประกอบในแฟนเพจเพิ่มจำนวนมากขึ้นถึงกว่า 10,000 คน และหนึ่งในนั้นก็ต้องการที่จะสั่งซื้อเมลอนไปเป็นของฝาก หรือนำไปรับประทาน ในขณะที่เมลอน 1 โรงเรือนรับออร์เดอร์ได้แค่ 400 ผล จึงเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มคนนี้ตัดสินใจเปิดอีก 1 โรงเรือนในเวลาห่างกันไม่เกิน 2 เดือน และต้องปิดรับออร์เดอร์ตั้งแต่เมลอนเริ่มติดผล หรือถ้าใครที่ต้องการจะให้วาดรูป หรือเขียนข้อความบนลูกเมลอนก็จะต้องสั่งล่วงหน้า 1 เดือนก่อนที่เมลอนจะขึ้นลายชัดเจน และนี่คือข้อดีของการขายผ่านออนไลน์ที่เกษตรกรยุคใหม่จะต้องให้ความสำคัญ เพราะสามารถรู้ตลาดล่วงหน้าก่อนที่จะตัดสินใจเพิ่มผลผลิต
สำหรับการปลูกเมลอนไร่ของหนุ่มเก่งคนนี้ใช้วิธีการปลูกแบบซับสเตรท หรือการปลูกแบบไฮโดรโพนิก การใช้วัสดุทดแทนดิน และปลูกอยู่ในถุง ซึ่งวัสดุที่เขาใช้คือ ขุยมะพร้าว และขี้เลื่อยกากมะพร้าว หรืออาจจะใช้แกลบแทนก็ได้ และให้น้ำแบบน้ำหยด ช่วยประหยัดน้ำในภาวะหน้าแล้งได้อีกทางหนึ่ง เพราะเมลอนเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย แต่การปลูกในลักษณะนี้จะมีต้นทุนของสารอาหารที่เพิ่มขึ้นมากว่าการปลูกบนดินที่พืชจะได้สารอาหารจากในดิน
นายประกอบเล่าถึงการทำตลาดไว้อย่างน่าสนใจ เพราะด้วยความที่ตัวเขาเองทำงานเป็นวิศวกร ดูแลเว็บไซต์ให้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พอเริ่มปลูกเมลอนได้เริ่มเปิดหน้าเพจการปลูกเมลอนบนทาวน์เฮาส์ คนเข้ามาติดตามกันมากขึ้น และเป็นตัวช่วยในเรื่องของการตลาดได้เป็นอย่างดี ทำให้ตัดข้อกังวลเรื่องการตลาดมุ่งตั้งใจทำผลผลิตออกมาให้ดีที่สุด
ถ้าใครสนใจเรื่องราวการปลูกเมลอน ทางนายประกอบยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ เป็นวิทยาทาน หรือต้องการจะเข้าไปชมไร่เมลอนของเขาได้ย้ายไปที่จังหวัดปทุมธานี แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในอนาคตต้องการจะเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ และท่องเที่ยว รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เมลอนที่ได้จากไร่แห่งนี้ด้วย
โทร. 08-9718-7922 www.facebook.com/ กอล์ฟฟาร์ม เมล่อนไทยแลนด์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *