สำหรับคู่บ่าว-สาวที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ อีกเรื่องที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะทางฝั่งของเจ้าสาว คือ การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเพื่อเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึก และตั้งโชว์หน้างาน
การถ่ายพรีเวดดิ้งแบบเดิมๆ นั้นจะเน้นการถ่ายในเวดดิ้งสตูดิโอเป็นหลัก ที่โดยมากจะมีฉากผ้าสำเร็จรูปเตรียมไว้ให้เลือก เช่น ฉากลายไทย ฉากทะเล ฉากห้องรับแขก หรือฉากพระราชวัง ข้อดีของการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแบบนี้คือสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ งบไม่บานปลาย แต่แน่นอนว่ามีข้อเสียเรื่องภาพที่ออกมาก็จะไม่สวย ไม่สมจริง
ส่วนเทรนด์การถ่ายพรีเวดดิ้งล่าสุดที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในระยะหลังมานี้คือ การถ่ายภาพแบบสมจริง ในบรรยากาศสบายๆ เหมือนการใช้ชีวิตประจำวัน จากสถานที่หรูหรา ก็เปลี่ยนมาเป็นร้านอาหาร ร้านขนม หรือร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่เคยใส่ชุดแต่งงานยาวๆ แบบจัดเต็ม เน้นความอลังการของทั้งชุด ทั้งเครื่องประดับ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมาใส่ชุดไพรเวต หรือการใส่เสื้อยืดคู่กัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ทั้งยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ และใช้เวลาเพียงไม่นาน ไม่ต้องทนร้อน ทนเหนื่อย เหมือนการถ่ายพรีเวดดิ้งเอาต์ดอร์อีกด้วย
“กฤติภณ เตชามหาชัย” เจ้าของร้านกาแฟ Cafera Tales ย่านรัตนาธิเบศร์ คือผู้ประกอบการอีกคนที่มองเห็นโอกาสในธุรกิจนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มทำร้านกาแฟในช่วงปลายปี 2556
“ที่จริงแล้วผมเรียนจบปริญญาตรีมาทางด้านวิศวกรรม แล้วต่อปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ แต่พอเรียนจบก็ออกมาเป็นช่างภาพพรีแลนซ์ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านนิเทศศาสตร์เลย อาศัยว่ามีใจรัก ก็เรียนรู้เอง สุดท้ายก็ยึดเป็นอาชีพได้ หลักๆ เลยก็จะถ่ายรูปรับปริญญา กับพรีเวดดิ้ง
ส่วนไอเดียในการสร้างธุรกิจร้านกาแฟ เริ่มจากพื้นที่บริเวณนี้มันว่างอยู่ คุณแม่ก็เช่าเพื่อทำโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ มันก็เหลือพื้นที่ว่างขนาดค่อนข้างใหญ่ เลยตัดสินใจเปิดเป็นร้านกาแฟ เพราะช่วง 2 ปีก่อนบริเวณนี้มีร้านกาแฟน้อยมาก ส่วนมากจะเป็นลักษณะของคีออสก์เล็กๆ ซื้อกลับไปกินมากกว่า
คอนเซ็ปต์ในการแต่งร้าน ก็คิดไว้ว่าอยากทำร้านกาแฟที่ไม่เหมือนใคร ต้องเป็นร้านที่สามารถถ่ายรูปได้ทุกมุม เพราะอย่างที่รู้ว่าการใช้ Social Media ในไทยมาแรงมาก
แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น ผมมองไปถึงการแต่งร้านให้สามารถใช้ถ่ายพรีเวดดิ้งได้ด้วย เพราะความที่เป็นช่างภาพอยู่ในแวดวงนี้อยู่แล้วก็ดูว่าเทรนด์นี้กำลังมา คือสมัยนี้คนถ่ายพรีเวดดิ้งนอกสถานที่กันอยู่แล้ว น้อยมากที่จะเลือกใช้ฉากในสตูดิโอ เพราะมันแห้ง ไม่สมจริง
แต่จากที่ในสมัยก่อนเขาถ่ายตามสถานที่หรูๆ ใหญ่ๆ ใส่ชุดเจ้าสาวเต็มยศ ก็เริ่มหันมาถ่ายพรีเวดดิ้งในสไตล์เกาหลี คือแต่งหน้า แต่งตัวแบบธรรมชาติ เป็นชุดไพรเวตคู่กัน ส่วนสถานที่ก็เลือกใช้เป็นร้านกาแฟ ร้านเค้ก ที่มีมุมสวยๆ น่ารักๆ ค่าเช่าสถานที่ไม่แพง และยังเย็นสบาย บางคู่ก็เลือกถ่ายฉากธรรมชาติไปเลย ตามสวนสาธารณะต่างๆ ที่ไม่มีค่าสถานที่ แล้วก็อาจจะใช้พรอพน่ารักๆ เข้ามาช่วย ออกแนวน่ารัก สดใส ต่างจากสมัยก่อนที่นิยมแนวอลังการ
ช่วงนั้นก็บินไปหาไอเดียการแต่งร้านกาแฟจากทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี แล้วก็มาตีโจทย์ต่อว่าเราอยากแต่งร้านในแนวไหน สุดท้ายก็ได้ไอเดียว่าอยากให้ออกมาเหมือนเป็นบ้านคน ดูแล้วอบอุ่น ดังนั้นร้านเราเลยมีทั้งเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องรับแขก โทนสีที่ใช้ก็เลือกเป็นฟ้าขาวที่ดูสบายตา”
นอกจากภายในร้านแล้ว บริเวณรอบๆ ร้าน Cafera Tales ยังมีมุมสวยๆ ที่เหมาะต่อการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งอีกหลายมุม ทั้งประตูทางเข้า สนามหญ้าหน้าบ้าน เหมือนเป็นการจำลองบ้านเล็กๆ หนึ่งหลังไว้ให้คู่บ่าว-สาวได้ถ่ายรูป
ส่วนสนนราคาค่าเช่า ถ้าใช้สถานที่ครึ่งวัน คิดราคา 1,500 บาท แต่ถ้าใช้สถานที่เต็มวันจะอยู่ที่ราคา 3,000 บาท แต่ถ้ายังไม่มีช่างภาพ แล้วเลือกใช้บริการถ่ายพรีเวดดิ้งกับกฤติภณ ก็จะได้ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ร้านฟรีทั้งวัน
“ช่วงปีแรกที่เปิดร้านผลตอบรับดีมาก เพราะตอนนั้นเทรนด์นี้ยังใหม่อยู่ แต่พอขึ้นปีที่ 2 ในส่วนของลูกค้าพรีเวดดิ้งจะน้อยลงกว่าเดิมเพราะมีคู่แข่งเยอะขึ้น ไม่ได้หมายถึงร้านกาแฟในละแวกนี้ แต่หมายถึงร้านอาหารเริ่มหันมาทำแนวคิดแบบเรามากขึ้น เหมือนลูกค้าเขาก็มีทางเลือกมากขึ้น แต่ละร้านก็แต่งกันคนละสไตล์ ตรงนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบของลูกค้า
แต่โชคดีที่เรายังมีงานถ่ายแบบ งานถ่ายเสื้อผ้า หรือสินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ ติดต่อเข้ามาขอเช่าสถานที่อยู่เรื่อยๆ เลยทำให้ร้านอยู่ได้ ส่วนยอดขายของร้านกาแฟก็ยังขายได้อยู่เรื่อยๆ ถ้าวันธรรมดาก็อาจจะเงียบหน่อย คนจะไปเยอะในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะตรงนี้เป็นโรงเรียนสอนพิเศษด้วย ผู้ปกครองก็จะเยอะ
เดือนพฤศจิกายน 2558 ร้านเปิดมาครบ 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังคืนทุนไม่ได้เพราะเราเสียค่าตกแต่งสถานที่ไปเยอะมาก โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้แต่ของคุณภาพดี เลยต้องใช้เวลาในการคืนทุนนานกว่าที่คิด
สำหรับปัญหาในการทำธุรกิจร้านกาแฟควบคู่ไปกับการให้เช่าสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง จริงๆ แล้วมันก็ไม่ค่อยไปด้วยกันเท่าไร เพราะลูกค้าที่เข้ามาดื่มกาแฟเขาต้องการความเงียบ บางคนมานั่งทำงาน ในขณะที่ลูกค้าที่มาเช่าสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งก็จะเสียงดังหน่อย เพราะต้องใช้ทีมงานหลายคน ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า
ถ้าเป็นพวกร้านใหญ่ๆ ที่คิดค่าเช่าแพงๆ เขาก็จะปิดร้านไปเลยในวันที่มีการถ่ายพรีเวดดิ้ง แต่เราเป็นแค่ร้านเล็กๆ ค่าเช่าสถานที่ก็ถูกอยู่แล้ว คงไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ไม่อยากให้กระทบลูกค้าร้านกาแฟ ตรงนี้ก็เป็นปัญหาอยู่เหมือนกัน คิดว่าในอนาคตอาจจะต้องมีการขยับขยาย แยกส่วนให้ชัดเจนระหว่างลูกค้าร้านกาแฟ กับลูกค้าที่เช่าสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง”
แต่สิ่งที่กฤติภณมองว่าเป็นอุปสรรคจริงๆ นั้นคือ เรื่องของสถานที่ เพราะหากได้ทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองมากกว่านี้ก็น่าจะช่วยให้ส่วนของการเช่าสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งได้รับผลตอบรับที่ดีกว่านี้
“ด้วยความที่ผมอายุยังน้อย ตอนเริ่มทำร้านก็อายุแค่ 25 ปี ก็ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อน เห็นว่าตรงนี้ค่าเช่ามันไม่แพง และยังไม่มีร้านกาแฟใหญ่ๆ ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงในละแวกนี้ จึงลงทุนไปกับเรื่องการตกแต่งร้านเยอะมาก
แต่ก็ถือว่าได้รับประสบการณ์ที่ดีในการทำธุรกิจ เพราะผมมองว่าเทรนด์การถ่ายรูปแบบนี้ยังอยู่อีกนาน ทั้งในส่วนของพรีเวดดิ้ง และการถ่ายแบบอื่นๆ แต่สถานที่ในการถ่ายพรีเวดดิ้งมันก็เป็นกระแสเหมือนกัน คือแต่ละที่ก็จะดังในเวลาสั้นๆ แล้วก็จะมีสถานที่ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
ในฐานะที่ผมเป็นช่างภาพ และเลือกที่จะทำธุรกิจนี้แล้ว ก็ต้องหมั่นศึกษาข้อมูลเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ ในอนาคตถ้ามีความพร้อมในเรื่องของเงินทุนก็อาจจะเปิดร้านในลักษณะนี้ขึ้นอีก เพราะจะมีรายได้เข้ามาทั้ง 2 ส่วน แต่คงต้องศึกษาในเรื่องของทำเลให้มากขึ้นกว่านี้”
Cafera Tales เป็นอีกตัวอย่างของผู้ประกอบการอายุน้อย ที่มองเห็นโอกาสในการหารายได้เพิ่มเติมจากตัวธุรกิจหลักที่เป็นร้านกาแฟ
ถึงจะคืนทุนได้ช้ากว่าที่คิดไปบ้าง แต่ร้าน Cafera Tales ก็แสดงให้เห็นถึงเทรนด์ของธุรกิจการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลโดย นิตยสาร SMEs PLUS
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *