PCA รุกธุรกิจใหม่ “PlanetFiber GigaNET” บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วแสง 1Gbps ผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสง ชูจุดเด่นสัญญาณมีความเสถียรสูง ตั้งเป้าปี 2559 มีผู้ใช้บริการ 10,000 ราย มั่นใจปี 2560 มีผู้ใช้บริการ 50,000 ราย คิดเป็นรายได้ 500-600 ล้านบาท
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PCA กล่าวว่า บริษัทได้เปิดธุรกิจใหม่ “PlanetFiber” บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วแสงผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสง ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางจนถึงห้องคุณ Fiber To The Room (FTTR) ให้บริการในคอนโดมิเนียมรายแรกของไทย ซึ่งแพลนเน็ตไฟเบอร์ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อเดือนกันยายน 2558 โดยโครงการแรกที่ดำเนินการติดตั้งคือ โครงการคอนโดมิเนียม Centric ติวานนท์ จำนวน 1,063 ห้อง ซึ่งขณะนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมที่ติดตั้ง FTTR แล้วทั้งหมด 21 โครงการ จำนวน 13,214 ห้อง
ส่วนเป้าหมายปี 2559 มีจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมที่จะติดตั้ง 60 โครงการ รวม 40,000 ห้อง คาดว่าจะมีลูกค้าใช้บริการ 10,000 ราย คิดเป็นรายได้รายละ 1,000 บาทต่อเดือน และปี 2560 มีเป้าหมายจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมที่จะติดตั้ง 120 โครงการ รวม 100,000 ห้อง และคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 50,000 ราย หรือประมาณ 50% ของจำนวนห้องทั้งหมด โดยคาดว่าจะมีรายได้ 500-600 ล้านบาท
“บริการนี้ใช้เงินลงทุนต่อห้องประมาณ 10,000 บาท ดังนั้น ในปีนี้เป้าที่เราจะติดตั้ง 40,000 ห้อง ก็จะใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งแพลนเน็ตไฟเบอร์ ให้บริการการติดต่อสื่อสารรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีสื่อสารแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นระบบโทรศัพท์แบบ IP, ระบบ Video Call และระบบแจ้งเตือนแบบเห็นหน้า สะดวกต่อการติดต่อ ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และรองรับอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบ เราเหนือกว่าผู้ให้บริการอื่นคือ ใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุด Fiber To The Home (FTTx) OLT/ONT จาก Calix ประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีคุณภาพสูง มีความเสถียรในการใช้งาน และรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดถึง 3.75 Gpbs ใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง Connectors , Splitters, Enclosure จาก TYCO สหรัฐอเมริกา ติดตั้งด้วยสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ตลอดเส้นทางตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางห้องคุณ โดยไม่มีสัญญาณรบกวน และที่สำคัญรองรับดิจิตอลไลฟ์สไตล์ รูปแบบใหม่ที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (1-20 Mbps) สำหรับ Social Media, Video, Phone, Home Automation ผ่านอุปกรณ์สื่อสารพกพาได้หลายเครื่องพร้อมกัน”
สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทจะเน้นเจาะตลาดคอนโดมิเนียมสร้างใหม่ราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง-สูง โดยมี 3 แพกเกจคือ แพกแกจ 1Gbps ราคา 9,900 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมาก และดูทีวี 4K, แพกแกจ 100 Mbps ราคา 2,500 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตปานกลาง และดูทีวีระบบ HD และ 20 Mbps ราคา 790 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป
ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยี FTTx เทคโนโลยีล่าสุด 3.75 Gbps และจะเพิ่มขึ้นในปี 2560 เป็น 10 Gbps มาพร้อมบริการเสริมที่หลากหลาย เช่น เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมมูนิเคชัน และ โฮม ออโตเมชัน สามารถอัปโหลด ดาวน์โหลดได้ 50:50 รองรับโซเชียล มีเดีย มี ไว-ไฟ มาตรฐาน 802.11ac รองรับการใช้อุปกรณ์สื่อสารพกพาหลายเครื่อง และที่สำคัญบริษัทเน้นการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีกลุ่มพันธมิตรหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้ให้บริการด้านโครงข่าย เช่น ไอเน็ต อินเตอร์ลิงค์ ซิมโฟนี่ 2.ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี เช่น ทีอี เทคโนโลยี 3.ผู้ให้บริการด้านทีวี เช่น บริการ Primetime และ 4.ด้านผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น พฤกษา, เอ็มบีเค, ศุภาลัย และเอสซี แอสเสท ซึ่งหากบริษัทเหล่านี้สร้างคอนโดมิเนียมที่ต่างจังหวัดบริษัทก็จะเข้าไปทำการตลาดด้วย
Company Related Link :
PCA