xs
xsm
sm
md
lg

“พงษ์ภูลี” กระเป๋าหนังแท้แฮนด์เมด เปิดช่องคนอยากมีอาชีพ รับไปขายกำไรงาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระเป๋าหนังวัวแท้ๆ ยี่ห้อ “พงษ์ภูลี” บุกเบิกโดยสามีภรรยา ชาวเชียงใหม่ “วุฒิพงษ์ เทพสิงห์ และนาลี เทพสิงห์” อาศัยวิธีการทำตลาดที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดี ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจอยากจะประกอบอาชีพเข้ามาเป็นตัวแทนขายกระเป๋า โดยเงื่อนไขยืดหยุ่นอย่างยิ่งไม่ต้องควักเงินลงทุนเอง ขอแค่มีใจอยากทำอาชีพนี้จริงจัง และพร้อมจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มีต่อกัน
วุฒิพงษ์ เทพสิงห์ และนาลี เทพสิงห์
มาลี เป็นตัวแทนบอกเล่าว่า ทำอาชีพนี้มากว่า 10 ปีแล้ว จากเบื้องต้นทำเป็นอาชีพเสริมก่อนกลายมาเป็นอาชีพหลัก โดยเบื้องต้นทำเองและขายเองทั้งหมด จนเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว เริ่มคิดถึงการหาตัวแทนขาย ซึ่งมีทั้งการขายขาดเงินสด ซื้อไปขายต่อเอง นำไปฝากขาย เป็นต้น จนมีประสบการณ์ในการค้าขายกับตัวแทนต่างๆ หลากหลาย จนในที่สุด สร้างรูปแบบที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาเป็นตัวแทนนำสินค้าไปขายได้ โดยไม่ต้องควักทุน โดยตัวแทนจะได้ส่วนแบ่งจากกำไรส่วนต่างที่ขายได้ ซึ่งนับการวิธีที่ยืดหยุ่นมากๆ แต่ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน


เธอ อธิบายเสริมว่า เหตุที่ใช้วิธีนี้ เพราะจากประสบการณ์คนที่อยากจะรับไปขายต่อ มักไม่ต้องการจะซื้อเงินสด เพราะเกรงว่าซื้อไปแล้วจะขายไม่ออก ต้องขาดทุน ดังนั้น เลยเริ่มคิดวิธีให้คนสนใจมารับสินค้าไปขายได้ฟรี และจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาขายส่ง โดยเฉลี่ยประมาณ50% จากราคาส่ง ตัวอย่างเช่น กระเป๋า ราคาส่งใบละ 100 บาท นำไปขายปลีกใบละ 200 บาท ตัวผู้ขายจะได้กำไรส่วนต่างจากการขายใบนี้ 100 บาท


อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของคนที่อยากจะมาเป็นตัวแทนขายนั้น มาลีระบุว่า ต้องมาพูดคุยทำความรู้จักกันจนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน โดยแสดงให้เห็นถึงความตั้งอกตั้งใจจะประกอบอาชีพนี้จริงๆ และมีปัจจัยต่างๆ สำหรับที่จะขายสินค้าพร้อมด้วย เช่น มีสถานที่ หรือหน้าร้านที่เหมาะสม และที่สำคัญต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มีระหว่างกัน เช่น ห้ามรับสินค้าของรายอื่นๆ เข้ามาขาย ห้ามนำสินค้าไปลอกเลียนแบบ ฯลฯ นอกจากนั้น ต้องพร้อมที่จะเข้าไปเช็คสต็อกสินค้าทุกๆ สัปดาห์ เพื่อดูว่ายอดขายสินค้าใดเป็นอย่างไร และขายได้อย่างไรบ้าง

นอกจากนั้น เพื่อป้องกันตัวเองในระดับหนึ่ง ในช่วง 1-3 เดือนแรก ผู้ที่เป็นตัวแทนจะได้รับสินค้าไปขายมูลค่ารวมกันไม่เกิน 20,000 บาท และหากขายดี จึงค่อยตกลงเพิ่มปริมาณสินค้าให้ไปขายมากยิ่งขึ้น


“วิธีนี้ มันค่อนข้างเสี่ยงสำหรับเรา ดังนั้น คนที่จะมาเป็นตัวแทน เราจะพิจารณาอย่างดีที่สุดว่า เขาอยากจะประกอบอาชีพนี้จริงๆ และเขามีความพร้อมที่จะนำสินค้าเราไปแล้ว ก็จะขายได้ดีด้วย ซึ่งเหตุผลที่เราจำกัดให้ช่วงแรก นำสินค้าไปขายได้ไม่เกิน 20,000 บาท ก็ป้องกันว่า อย่างน้อย ถ้าเจอรายที่ทุจริต เราก็ขาดทุนไม่มากนัก ซึ่งที่ผ่านมา ยอมรับว่า เคยเจอคนเป็นตัวแทนแล้วก็โกงเราด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้ว ตัวแทนของเราจะมีความตั้งใจจริง และอยู่ด้วยกันมายาวนานถึงทุกวันนี้ กลายเป็นพี่น้องครอบครัวเดียวกันเลย”

เธอ เสริมต่อว่า หลังจากใช้วิธีนี้ เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ช่วยให้มียอดขายเพิ่มจากช่วงที่ทำเองขายเอง เกินเท่าตัว เพราะสินค้ามีช่องทางตลาดในการขายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การให้ความสำคัญในการคัดเลือกคนมาเป็นตัวแทนอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ มีตัวแทนรวมกันแค่ 7ราย โดย 4 ราย อยู่ใน จ.เชียงใหม่ อีก 2 อยู่ในกรุงเทพฯ และอีกรายอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งแต่ละรายจะมีเงื่อนไขรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง ตามความเหมาะสม


ทั้งนี้ กระเป๋า ยี่ห้อ “พงษ์ภูลี” มีจุดเด่นที่ใช้วัสดุเป็น “หนังวัวแท้”และตัดเย็บด้วยแฮนด์เมด มีทั้งสินค้าสำหรับบุรุษ และสตรี แบบมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่กระเป๋าหิ้ว กระเป๋าสะพาน กระเป๋าใส่เงิน พวงกุญแจ เข็มขัด ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 20 บาทถึงสูงสุด 5,000 บาท ช่องทางตลาดนั้น มีทั้งขายด้วยตัวเอง ในถนนคนเดิน จ.เชียงใหม่ ขายโดยตัวแทนดังกล่าวข้างต้นที่ไปเปิดร้านตามจุดต่างๆ เช่น ห้างเซ็นทรัลแอร์พอร์ต จ.เชียงใหม่ เจเจมอลล์ที่กรุงเทพฯ เป็นต้น อีกทั้ง รับจ้างผลิต (OEM) งานเครื่องหนังต่างๆ อีกด้วย

นอกจากนั้น เนื่องจากได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป และเป็นลูกค้าของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ทำให้มีโอกาสไปออกงานขายสินค้าต่างๆ อย่างล่าสุด ได้ไปออกงาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ณ ตลาดคลองผดุง กรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล เป็นต้น โดยเฉลี่ยแล้ว ปัจจุบันมียอดขายจากทุกช่องทางตลาดรวมกันประมาณ 2.5 ล้านบาทต่อเดือน

สำหรับเส้นทางอาชีพก่อนที่จะมาเป็นผู้ผลิตและขายกระเป๋าหนังวัวแท้แฮนด์เมดนั้น ทั้งสองร่วมกันเล่าว่า เกิดจากความต้องการอยากหารายได้เสริม โดยความเป็นจริงนั้น เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ทั้งสองไม่มีความรู้ด้านการทำกระเป๋าหนังใดๆ มาก่อนเลย โดยวุฒิพงษ์ เรียนด้านบัญชี ส่วนนาลี เรียนด้านคหกรรม แต่ที่มามีวันนี้ได้ เกิดจากฝึกฝนและพัฒนาด้วยตัวเองล้วนๆ

“เมื่อก่อน ผมก็ซื้อกระเป๋าสะพายใบละ 199 บาทมาใช้ ปรากฏว่า ใช้ไม่นานก็เสีย เลยอยากลองทำกระเป๋าหนังใช้เอง ผมก็เลยไปซื้อหนังสือสอนวิธีทำกระเป๋า และไปซื้อหนังวัวมาลองทำเอง หลังทำออกมาแล้ว เพื่อนๆ ที่เห็นก็ชื่นชอบ สอบถามว่าไปซื้อจากที่ไหน เมื่อผมบอกว่าทำเอง เพื่อนๆ ก็เริ่มสั่ง ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจอยากจะทำขาย” วุฒิพงษ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้น

หลังจากคิดอยากจะทำกระเป๋าขายเป็นรายได้เสริม สามีภรรยาคู่นี้จูงมือกันไปเรียนวิธีการทำกระเป๋าเพิ่มเติมที่ศูนย์อบรมวิชาชีพ จ.เชียงใหม่ แล้วเริ่มทำออกวางขายในถนนคนเดิน จ.เชียงใหม่ ปรากฏว่า ขายดีมาก จากช่วงแรกทำเป็นรายได้เสริม จนหลังผ่านไป 2 ปี รายได้จากการขายกระเป๋าหนังแซงงานประจำไปไกล ในที่สุดออกมาทำธุรกิจนี้เต็มตัว โดยเปิดร้านในตลาดไนท์บาซาร์ และขยายช่องทางตลาดอื่นๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

วุฒิพงษ์ ระบุด้วยว่า กระเป๋าหนังแท้มีข้อดี เรื่องความแข็งแรงทนทาน และยิ่งใช้นาน หนังจะยิ่งสวย ส่วนการออกแบบกระเป๋านั้น สร้างสรรค์ขึ้นเองควบคู่กับทำตามคำแนะนำจากลูกค้า เน้นเรียบง่ายใช้งานได้คุ้มค่า ส่วนการผลิตนั้น เป็นลักษณะอุตสาหกรรมในครัวเรือน แรงงานล้วนเป็นญาติพี่น้อง และคนในชุมชนที่เข้าไปฝึกอบรมแล้วดึงมาเป็นทีมงานผลิต รวมประมาณ 23 คน

สนใจอยากได้กระเป๋าหนังวัวแท้แฮนด์เมด หรือต้องการเป็นตัวแทน ติดต่อ 084-617-3341 , 086-920-1836 และ ID Line:0874305703

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น