การเปิดร้านอาหารวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไป โดยเฉพาะการเลือกทำเลที่มีการแข่งขันสูงอย่าง “ย่านสยามสแควร์” ด้วยเหตุนี้ ทำให้วันนี้เราได้เห็น ร้านซูชิ รถไฟ TOK Q นำรูปแบบเทคโนโลยีการเสิร์ฟอาหารด้วยขบวนรถไฟฟ้ามาใช้แทนพนักงานเสิร์ฟ แห่งแรกในประเทศไทย
TOK Q ร้านอาหารซูชิรถไฟ เปิดให้บริการอยู่ในอาคารสยามกิตติ์ สยามสแควร์ อาคารที่รวบรวมโรงเรียนเปิดสอนพิเศษจำนวนมาก ดังนั้น แน่นอนกลุ่มเป้าหมายของ TOK Q ซูชิ คือ กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาที่มาเรียนพิเศษในช่วงวันหยุด หรือหลังเลิกเรียน และการมัดใจวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ได้ก็ต้องเป็นความล้ำหน้าของเทคโนโลยี การให้บริการของ TOK Q ซูชิ เหมือนกับการจำลองร้านซูชิในประเทศญี่ปุ่นมาเปิดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหารที่สั่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยติดตั้งแท็บแล็ตไว้ทุกโต๊ะ และเมื่อสั่งอาหารเสร็จข้อมูลจะถูกส่งไปในครัว และเชฟจัดการกับเมนูที่สั่ง ก่อนจะนำมาส่งด้วยขบวนรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่เหมือนกับชื่อ TOK Q นั่นเอง
หลังจากได้รู้จัก TOK Q ซูชิ กันไปแล้ว มาทำความรู้จักกับเจ้าของร้าน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์” หรือ “อาร์ม” พิธีกรรายการเด็ก True Spak พิธีกรรายการสารคดี “ฉลาดล้ำโลก” ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี รวมถึงการเป็นดีเจรายการคลื่นวิทยุ cool 93 Fahrenhelt และด้วยวัย 30 ปี เป็นวัยของการสร้างครอบครัว และอาร์มเอง จึงได้คิดเริ่มต้นธุรกิจ ควบคู่ไปกับการทำหน้าจอทีวี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ และรวมถึงการทำกิจการร้านอาหารญี่ปุ่น 2 ร้าน ร้านข้าวหน้าเนื้อ “อาร์มิโน คุซางิ กิวด้ง” และแตกไลน์มาเป็นร้าน TOK Q ซูชิ ที่เปิดให้บริการอยู่ใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้คนที่ชื่นชอบการกินอาหารญี่ปุ่นในหลากหลายรูปแบบ
อาร์มเล่าถึงที่มาของ TOK Q ซูชิ ว่า จุดเริ่มต้นมาจากเห็นร้านในลักษณะนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น และก่อนหน้าเปิด TOK Q เปิดร้านข้าวหน้าเนื้อมาก่อน และด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นไม่ใช่อาหารไทย การกินบ่อยก็คงจะเบื่อ จึงได้ตัดสินใจเปิดร้านซูชิขึ้นมาเพิ่ม แต่การเปิดในย่านที่มีนักเรียน นักศึกษา ความแปลกใหม่ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้น่าจะเป็นแรงดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการได้
หลายคนก็คงอยากจะเปิดร้านลักษณะนี้ดูบ้าง แต่พอถาม “อาร์ม” เรื่องต้นทุนในการทำระบบรถไฟฟ้า และการสั่งอาหารผ่านหน้าจอแท็บเล็ต ทุกคนก็คงจะต้องถอยหลังกลับมาคิดนิดหนึ่ง เพราะเขาลงทุนระบบทั้งร้านไปกว่า 2 ล้านบาท โดยอาร์มชี้แจงว่า เขาได้ติดต่อขอซื้อรถไฟฟ้ามาจากทางประเทศญี่ปุ่น 2 ขบวน และนำมาติดตั้งเองจากช่างระบบคนไทย และได้พี่ชายช่วยเขียนซอฟต์แวร์ โปรแกรมการสั่งอาหารผ่านหน้าจอแท็บแล็ต อาร์มบอกว่า ถ้าซื้อทั้งระบบและให้ทางผู้ขายมาติดตั้งราคาจะสูงกว่านี้มาก ราคานี้เป็นราคาที่ซื้อรถไฟอย่างเดียว
“ส่วนของเมนูซูชิ ทางร้านมีเมนูให้เลือกมากกว่า 40 รายการ และจุดขายคือ อยู่ที่ราคา เพราะขายทุกอย่างในราคาเดียว 39 บาท ถือว่าเป็นราคาซูชิฝีมือเชฟที่ถูกที่สุดในย่านนี้ และที่ตั้งราคาไม่แพง เพราะมองถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ซึ่งยังไม่สามารถหาเงินเองได้ ดังนั้นการกินอาหารแต่ละมื้อก็ต้องคำนึงถึงเงินในกระเป๋าของพ่อ และแม่ด้วย” อาร์มระบุ
สำหรับยอดขาย หลังจากเปิดมาได้เกือบ 1 ปี อาร์ม ไม่ได้ตอบโดยตรง หากแต่บอกว่า มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับวัยรุ่นไทย และบางคนที่ได้มีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่น พอเห็นร้านของเราที่มีบริการลักษณะคล้ายกับการให้บริการในร้านญี่ปุ่นก็อยากลองเข้ามาใช้บริการ และบางคนก็รู้สึกสนุกและเป็นสิ่งใหม่สำหรับเขา ปัจจุบันไม่ได้มีแค่ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นที่มาเรียนพิเศษ ยังมีกลุ่มคนทำงาน พอได้เห็นผ่านสื่อ หรือมีการบอกต่อกัน เริ่มลองเข้ามาใช้บริการบ้าง หลายคนชื่นชอบ
อาร์มบอกว่า ระบบอย่างเดียวไม่สามารถที่จะมัดใจลูกค้าได้ รสชาติ หัวใจสำคัญ เพราะก่อนที่จะเปิดร้านทั้ง 2 แห่งได้มีการทดสอบ โดยการออกงานอีเวนต์ ให้ลูกค้าได้ทดลองกินก่อน ซึ่งอาร์ม และครอบครัว พี่ชายที่เป็นหุ้นส่วนชื่นชอบการกินอาหารญี่ปุ่น ได้เดินทางไปชิม อาหารที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ เพื่อทำอาหารออกมาให้ใกล้เคียงกับต้นตำรับมากที่สุด
โทร. 09-4894-8526, www.facebook.com/ tok q
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *