“อินเตอร์โฮม คอนกรีต” วางเป้าขึ้นเป็นเบอร์ 1 ผู้นำตลาดคอนกรีตผสมเสร็จของนครสวรรค์ แจงเข้าร่วมกิจกรรม CF ของ กสอ. เร่งพัฒนาระบบและให้ความรู้ทีมขาย วางยุทธศาสตร์ช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงเศรษฐกิจซบ
นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการและสถาปนิก บริษัท อินเตอร์โฮม คอนกรีต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ แผ่นพื้น เสาเข็มอัดแรง จังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เริ่มตั้งโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จแห่งแรกในปี 2546 และต่อมาในปี 2549 ได้ขยายธุรกิจตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ขึ้น โดยมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจว่า ต้องเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ แผ่นพื้น เสาเข็ม อันดับ 1 ของจังหวัดนครสวรรค์
ที่ผ่านมา บริษัท อินเตอร์โฮม คอนกรีต จำกัด จึงให้ความสำคัญต่อการตลาดและการขาย โดยมีการวางแผนในการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อรองรับการก้าวไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ด้วยการเข้าร่วมในโครงการต่างๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เช่น โครงการ MDICP ภูมิภาครุ่นที่ 9 ทำให้มีแผนงานการพัฒนาและปรับปรุงส่วนของการผลิตให้ทันสมัย รวมถึงมีแผนงานเสริมสร้างความสามารถทางการบริหารการเงินและการลงทุน ส่งผลให้บริษัทมีระบบการผลิตและระบบการบัญชีที่มีคุณภาพ กลายเป็นฐานสำคัญในการพัฒนาด้านการตลาดและการขาย
นอกจากนี้ บริษัทยังสมัครเข้าร่วมกิจกรรมการบริการเงินสมทบจ้างที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงการผลิต การจัดการ การตลาดและการบริการ (Consultancy Fund:CF) หรือกิจกรรม CF ของ กสอ.อีกด้วย โดยมุ่งหวังว่าจะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ แผ่นพื้น เสาเข็ม อันดับ 1 ของ จังหวัดนครสวรรค์
“บริษัท อินเตอร์โฮม คอนกรีต จำกัด มีความคาดหวังว่า กิจกรรม CF จะสามารถช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความรู้ให้ทีมงานขาย และเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ในการทำงานด้านการตลาดและงานขายที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้ อีกทั้งในปัจจุบันจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา จึงทำให้บริษัทจำเป็นต้องสร้างทีมขายที่มีคุณภาพเพื่อแข่งขันได้ในธุรกิจเดียวกัน โดยได้ร่วมกันทำงานเป็นทีมที่มีแนวคิดเชิงกลยุทธ์ พร้อมที่จะแข่งขันได้โดยไม่มองเรื่องราคาเพียงอย่างเดียวแล้ว”
เขาระบุว่า การจัดทำแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์จึงเป็นเป้าหมายหลักของการเข้าร่วมกิจกรรม CF โดยทางที่ปรึกษากิจกรรม CF มาแนะนำและปรับปรุงพัฒนาระบบงานขาย รวมทั้งงานบริการให้ทำงานเป็นทีม โดยสร้างองค์ความรู้ให้ทีมขายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า นอกจากนั้น ที่ปรึกษากิจกรรม CF ยังได้ร่วมกันวิเคราะห์และวางแผนเพื่อปรับกลยุทธ์ทางด้านงานขาย และการทำประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมทางด้านงานขายมากยิ่งขึ้น ในท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
“ผลจากการเข้าร่วมกิจกรรม CF ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่น่าพึงพอใจมาก บริษัทสามารถพัฒนาศักยภาพของทีมขายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยดูได้จากรูปแบบในการทำงาน ซึ่งลักษณะการทำงานเป็นทีมและเป็นระบบมากขึ้น มีแนวคิดในการทำตลาดได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถขยายฐานการตลาดและลูกค้ารู้จักผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น” นายกฤษฐ์หิรัญกล่าว
เขาเผยด้วยว่า อยากสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทั่วไปเข้าโครงการ CF โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่กำลังประสบปัญหาในด้านต่างๆ เนื่องจากกิจกรรมนี้จะส่งที่ปรึกษาเก่งๆ ซึ่งภาครัฐได้คัดเลือกมาคอยแนะนำปรับปรุงธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต อีกทั้งส่วนค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจกรรม CF ภาครัฐก็จะสมทบให้ส่วนหนึ่ง นับเป็นเรื่องที่ดีมาก
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
