xs
xsm
sm
md
lg

OKMD เผยซอสปรุงรส-เครื่องแกงไทย ติด 1 ใน 3 สินค้าฮิตในสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายรักชัย เร่งสมบูรณ์ ที่ปรึกษาโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โอทอปสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD
OKMD ชี้ช่องทางพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารไทยคุณภาพสูง (Specialty Food) เจาะตลาดสหรัฐอเมริกา หลังผลวิจัยปี 2558 พบผู้บริโภคภายในประเทศชื่นชอบอาหารไทยติด 1 ใน 3 อันดับแรก ส่งผลสัดส่วนนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารไทยสูงถึง 23% เผยซอสปรุงรสและเครื่องแกงสำเร็จรูป, ผักและผลไม้ออแกนิกมาแรง เร่งเดินหน้าสู่ผลิตภัณฑ์ออแกนิกมากขึ้น

นายรักชัย เร่งสมบูรณ์ ที่ปรึกษาโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โอทอป สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD และผู้เชี่ยวชาญตลาดอาหารในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า จากผลวิจัยแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์โอทอปของตลาดในประเทศและต่างประเทศ ที่ชี้ให้เห็นถึงช่องทางและโอกาสในการผลักดันอาหารไทยเข้าไปตีตลาดสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้บริโภคในอเมริกามีความต้องการสินค้ากลุ่มนี้สูงสุด โดยเฉพาะอาหารคุณภาพสูง (Specialty Food) ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ลวิจัยล่าสุดในปี 2558 ของ Specialty Food Association สหรัฐอเมริกา ระบุว่า อาหารคุณภาพสูงจากประเทศไทยมีความนิยมสูงติด 1 ใน 3 อันดับแรก ของตลาดสหรัฐอเมริกา โดยมีช่องทางการขายแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางหลัก คือ 1. วางขายบนชั้นวางสินค้าในห้างค้าปลีก เช่น KeHE, UNFI, Safeway, Costco, Trader Joe’s ร้อยละ 80 และ 2. ขายส่งให้โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ร้อยละ 20 หากผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตสินค้าไปวางขายตามช่องทางดังกล่าว จะสามารถเพิ่มยอดขายในภาพรวมได้มากขึ้น
เครื่องแกงสำเร็จรูปของไทยได้รับความนิยมในสหรัฐฯ
โดยข้อมูลการนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงจากประเทศไทยในตลาดสหรัฐอเมริกา พบว่ามีสัดส่วนการนำเข้าสูงถึงร้อยละ 23 โดยการนำเข้าเกือบทั้งหมดจะเป็นสินค้าที่มีวัตถุดิบมาจากธรรมชาติ ในจำนวนนี้เกือบร้อยละ 80 ปราศจากการตัดต่อทางพันธุกรรม (GMO) สำหรับประเภทสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความนิยมสูงมาก คือ 1. ซอสปรุงรสและเครื่องแกงสำเร็จรูป เช่น ผัดไทย แกงเขียวหวาน พะแนงหมู ต้มข่าไก่ 2. ผักและผลไม้ออแกนิก เช่น ข้าวหอมนิล ข้าวหอมมะลิ กะทิ น้ำมันมะพร้าว สตรอว์เบอร์รีอบแห้ง มะม่วงอบแห้ง สับปะรดอบแห้ง เป็นต้น แต่ปัญหาที่พบในขณะนี้คือยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดผลิตสินค้าเหล่านี้ในรูปแบบออแกนิกหรือปราศจาก GMO ไปวางขาย เนื่องจากหาวัตถุดิบค่อนข้างยาก ตรงนี้จึงถือเป็นช่องว่างสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์เข้าวางขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดสหรัฐอเมริกาซึ่งมีกำลังซื้อสูงมาก

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้บริโภคในตลาดสหรัฐอเมริกาจะมีความต้องการสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงจากไทย แต่อุปสรรคสำคัญที่ผู้ประกอบการโอทอป และผู้ส่งออกไทยต้องประสบ คือกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในเรื่องของฉลากสินค้าที่หากมีการตรวจพบปัญหาในภายหลังจะถูกถอดออกจากชั้นวางขายทันที นอกจากนี้ยังต้องผ่านการรับรองหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP) ระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร (HACCP) ข้อกำหนดความปลอดภัยสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (BRC) และมาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาหาร (SQF) ด้วย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น