กรมสรรพากรเตรียมชง ครม.เว้นตรวจภาษีย้อนหลังเอสเอ็มอี ในกรณีมีสมุดบัญชีเล่มเดียว และเป็นเล่มที่ยื่นให้กรมสรรพากร เชื่อไม่ถือเป็นความผิดสาระสำคัญ ระบุช่วยจูงใจให้เข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้น และเอื้อได้รับพิจารณาสินเชื่อง่ายขึ้น
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ค.นี้กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบโครงการก้าวเดินไปด้วยกันระหว่างกรมสรรพากรกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จะไม่ถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลัง หากการลงบัญชีทางด้านรายรับและรายจ่ายของเอสเอ็มอีมีสมุดบัญชีเพียงเล่มเดียว คือ เล่มที่ยื่นเสียภาษีให้แก่กรมสรรพากร โดยช่วงที่ผ่านมากรมสรรพากรได้หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาเอสเอ็มอีไทย กรณีภาคเอกชนเรียกร้องการนิรโทษกรรมภาษีให้แก่เอสเอ็มอี แต่กรมสรรพากรไม่เห็นด้วย เพราะถือว่าผู้ประกอบการที่มีความผิดในอดีตมีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงภาษีและถูกจับได้เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายสรรพากรที่ต้องถูกลงโทษ
นายประสงค์กล่าวว่า กรมฯ รู้ดีว่า เอสเอ็มอีมักจะมีการทำบัญชีหลายเล่ม โดยเล่มที่ลงงบการเงินขาดทุนจะเป็นเล่มที่นำมาเสียภาษีกับกรมฯ ซึ่งถูกตรวจสอบดำเนินคดีแล้วหลายราย กรมฯจึงสนับสนุนให้เอสเอ็มอีทำบัญชีแค่เล่มเดียวและเป็นเล่มที่ยื่นภาษีให้แก่กรมสรรพากร กรมจะขอให้กระทรวงการคลังและ ครม.ไม่ตรวจสอบภาษีย้อนหลัง เพราะถือว่าเป็นการก้าวเดินไปด้วยกัน หรือหากมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย เช่น ลงบัญชีรายได้ไม่ครบถ้วน ก็ไม่ถือเป็นสาระสำคัญว่าเอสเอ็มอีรายนั้นหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอความร่วมมือกับภาคเอกชนแล้วแต่ไม่ได้ลงนามร่วมมือ จึงจะมีการลงนามในเดือนพฤษภาคมนี้
นายประสงค์เผยด้วยว่า ในอดีตที่ผ่านมากรมฯ เคยมีโครงการลักษณะเช่นนี้มาแล้ว แต่ไม่ได้มีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร จึงไม่ถือว่ามีผลในทางปฏิบัติ แต่ในครั้งนี้กรมฯ จะเสนอให้กระทรวงการคลัง และ ครม.รับทราบ โดยคาดว่าภายในเดือน พ.ค.นี้จะมีการลงนามร่วมกันระหว่างกรมสรรพากรกับภาคเอกชน
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลประมาณ 420,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประมาณ 300,000 ราย ซึ่งกรมสรรพากรเชื่อว่าเอสเอ็มอีที่มีสมุดบัญชี 2 เล่ม หรือ 3 เล่ม มีสัดส่วนอยู่กว่า 50% ดังนั้น หากสามารถดึงเอสเอ็มอีที่มีการลงบัญชีไม่ถูกต้องเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น โดยไม่มีการตรวจสอบภาษีย้อนหลัง จะจูงใจเอสเอ็มอีเหล่านี้เข้าสู่ระบบเพราะได้ประโยชน์หลายด้าน เช่น เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะมีหลักฐานเอกสารทางบัญชีที่ถูกต้อง สร้างความโปร่งใสและไม่ต้องถูกตรวจสอบย้อนหลัง และสอดคล้องกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี)
นอกจากนี้ กรมสรรพากเตรียมนำรายชื่อสำนักงานบัญชีที่ดีประกาศลงเว็บไซต์ของกรม หลังจากในช่วงที่ผ่านมาพบผู้ที่กระทำความผิดทางภาษีจำนวนมาก เพราะถูกแนะนำให้ลงบัญชีอย่างผิดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจากสำนักงานบัญชีที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น หากกรมสรรพากรประกาศรายชื่อบริษัทบัญชีที่มีคุณภาพก็เท่ากับได้ขึ้นทะเบียนให้แก่สำนักงานบัญชีเหล่านี้ว่าเป็นบริษัทที่ถูกต้อง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
