xs
xsm
sm
md
lg

เปิดกลยุทธ์“เมกา โฮม”ค้าส่งครบวงจร จับตลาดแหล่งชอปสร้างอาชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เมกา โฮม” สาขากบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เพราะมองเห็นช่องว่างในธุรกิจศูนย์ค้าส่งค้าปลีกอุปกรณ์สินค้าตกแต่งบ้าน และวัสดุก่อสร้างบ้าน ที่ยังสามารถขยายหาลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่ม “ผู้ประกอบการการค้ารายย่อย” ในพื้นที่ทำเล “ตลาดใหม่” เป็นที่มาของการแตกไลน์ธุรกิจ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” (HOME PRO) ด้วยการคลอดแบรนด์น้อง อย่าง “เมกา โฮม” (MEGA HOME) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2555 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท

โดยปัจจุบัน เมกาโฮม มีด้วยกัน 5 สาขา ได้แก่ 1.สาขารังสิต จ.กรุงเทพฯ 2.สาขาแม่สอด จ.ตาก 3.สาขาหนองคาย 4.สาขาบ่อวิน จ.ชลบุรี และล่าสุด 5.สาขากบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางในวันที่ 1 พฤษภาคม นี้
สุพรศรี นาคะนสุกาญจน์   ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า บริษัท เมกาโฮม เซ็นเตอร์ จำกัด
@@@ ลุยจับลูกค้า “เถ้าแก่รายย่อย” @@@

สุพรศรี นาคะนสุกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า บริษัท เมกาโฮม เซ็นเตอร์ จำกัด ฉายไอเดียธุรกิจ ระบุความแตกต่าง “เมกาโฮม” กับ “โฮมโปร” ว่า สำหรับโฮมโปร เป้าหมายลูกค้าเป็นกลุ่มตลาดบน ต้องการสินค้าตกแต่งบ้าน เพื่อไปใช้กับบ้านที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่สำหรับเมกาโฮม จะมุ่งจับลูกค้ากลุ่ม “ผู้ประกอบการ” โดยเฉพาะกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลาง และเล็ก เจ้าของธุรกิจต่างๆ เช่น เจ้าของอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ไล่ไปจนถึงผู้ที่ต้องการซื้อหาอุปกรณ์ประกอบอาชีพ

ผู้บริหารหญิงระบุด้วยว่า จุดเด่นที่สำคัญของเมกาโฮม ที่แตกต่างจากโฮมเซ็นเตอร์แบรนด์อื่นๆ คือ นอกจากขายสินค้าบ้านและวัสดุก่อสร้างแล้ว ยังมีสินค้าต่อเนื่อง ทั้งหมดถึง 28 หมวด รวมกันนับแสนรายการ เช่น กลุ่มสินค้าของแต่งบ้าน อุปกรณ์เครื่องเขียน อุปกรณ์ประกอบอาชีพ และกิฟต์ชอป ฯลฯ ทั้งขายปลีกและส่ง เพื่อตอบความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการได้ครบวงจร

“กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเราวางไว้ คือ กลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการอุปกรณ์เพื่อใช้ในอาชีพของตัวเอง สอดคล้องกับการเติบโตของพื้นที่เศรษฐกิจเกิดใหม่ เบื้องต้น ย่อมต้องการสิ่งก่อสร้างต่างๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายกลางและเล็ก จึงต้องการสินค้าอุปกรณ์ เช่น ปูน เหล็ก หิน ฯลฯ จากนั้น เมื่อมีสิ่งปลูกสร้าง ย่อมตามมาด้วยชุมชน เกิดความต้องการสินค้าตกแต่งบ้าน จากนั้น จะมีผู้ต้องการประกอบอาชีพต่างๆ เช่น ขายของชำ เปิดร้านกาแฟ ขายอาหารฯลฯ ซึ่งในเมกาโฮม เรามีสินค้าต่อเนื่องทุกอย่างไว้บริการ” สุพรศรี กล่าว

@@@ เผยราคาสินค้าถูกกว่าท้องตลาด @@@

สุพรศรี เผยด้วยว่า ในการคัดสรรสินค้าเข้ามาขายยังเมกาโฮม จะมีทีมสำรวจความต้องการของลูกค้าเป้าหมายในท้องที่ก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าผลิตภายในประเทศ กับนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยกว่า 90% สินค้าที่ขายจะเหมือนกันทุกสาขา

ทั้งนี้ ราคาสินค้าของเมกาโฮม เฉลี่ยแล้วจะถูกกว่าท้องตลาด ประมาณ 30% สาเหตุที่สามารถทำราคาได้ต่ำกว่านั้น เพราะบริษัทจะสั่งซื้อสินค้าจากแหล่งผลิตในปริมาณครั้งละมากๆ ทำให้ได้ราคาต้นทุนต่ำกว่าท้องตลาด รวมถึง นำมาจัดระบบให้สินค้าที่เข้ามา ขายออกไปในเวลารวดเร็วที่สุด ไม่เกิดการจมอยู่ในสต็อก ช่วยให้ลดต้นทุนได้อีกทาง

และอีกปัจจัย พยายามลดต้นทุนบริหารภายในให้ต่ำที่สุด อย่างอาคารขายสินค้า ใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในโรงเลี้ยงไก่ ซึ่งไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศ แต่อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ร้อน เฉพาะส่วนนี้ สามารถลดค่าไฟฟ้าไปได้จากปกติ ประมาณเดือนละ 2-3 ล้านบาท เหลือไม่ถึง 1 ล้านบาท เป็นต้น

@@@ ลงพื้นที่อธิบายชุมชน ลดกระแสต้าน@@@

เนื่องจากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ และสินค้าขายที่ราคาถูกกว่าท้องตลาด อาจจะเกิดกระแสต้าน ประเด็นไปแย่งอาชีพจากธุรกิจในชุมชน ดังนั้น สิ่งที่ทาง “เมกาโฮม” จะลงมือทำ ก่อนจะไปเปิดสาขายังพื้นที่ใดๆ ก็ตาม จะมีทีมงานลงพื้นที่ไปชี้แจงให้รู้ว่า เมกาโฮม มีสินค้าที่อำนวยความสะดวกให้ได้มากกว่า ตัวอย่างเช่น หากต้องการเปิดร้านกาแฟ จะสามารถเริ่มต้นอาชีพได้ง่ายและประหยัดกว่า เพราะสามารถซื้อสินค้าได้ครบถ้วนในที่เดียว หรือกรณีร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ก็หาซื้อสินค้าไปขายยังร้านได้ในราคาที่ถูกกว่า รวมถึง ยังมีปริมาณที่สะดวกสบาย ส่งสินค้าไปให้ถึงร้าน

นอกจากนั้น ด้วยทำเลที่เน้นเปิดตลาดใหม่ๆ ส่วนใหญ่คนในชุมชนจะมีความยินดีที่เมกาโฮม มาอยู่ในพื้นที่ เพราะเดิมกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ หากต้องการซื้อสินค้าต้องเข้าไปยังกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่

“เรามีนโยบายว่า ไม่ว่าจะเปิดที่ใด สังคมต้องมีความสุขด้วย ดังนั้น จะให้เจ้าหน้าที่ลงไปหาลูกค้า โดยเฉพาะร้านขายวัสดุก่อสร้างว่า เราไม่ได้มาแย่งอาชีพนะ แต่คุณสามารถมาซื้อสินค้าจากเราได้ในราคาที่ถูกกว่าซื้อจากตัวแทนแบบเดิมๆ รวมถึง มีบริการที่สะดวกมากกว่าด้วย ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มนี้จะพอใจอยู่แล้ว ที่เรามาเปิด เพราะเดิมกว่าจะได้ของครบตามต้องการ ต้องไปวิ่งซื้อจากหลายแห่ง แต่ตอนนี้ ซื้อได้ครบทั้งหมด ช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุน และทำให้เริ่มต้นอาชีพได้เร็วขึ้น” สุพรศรี กล่าว

@@@ มุ่งทำเลเจาะตลาดเกิดใหม่ @@@

ทั้งนี้ ทำเลในการตั้งของเมกา โฮม จะมุ่งไปสู่การเปิดตลาดใหม่ โดยมีทำเลเป้าหมาย ได้แก่ 1.บริเวณปริมณฑล 2.บริเวณชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และ 3.บริเวณใกล้นิคมอุตสาหกรรม

“หากดูจากกลยุทธ์การเปิดสาขาของเราจะต่างจากคู่แข่ง และไม่เหมือนใครเลย วางโมเดลการหาทำเล 3 รูปแบบ คือ การเปิดสาขาบริเวณปริมณฑล คือ สาขารังสิต จ.กรุงเทพฯ เปิดบริเวณชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ สาขาแม่สอด จ.ตาก และสาขาหนองคาย และเปิดสาขาบริเวณนิคมอุตสาหกรรม คือ ชลบุรี และกบินทร์บุรี”

เธอเสริมด้วยว่า ผลประกอบการจากที่เปิดสาขาที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ใน 4 สาขาที่เราเปิดในปีแรกที่มียอดรวมกว่า 2,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าเรามาถูกทาง

ส่วนการเปิดสาขาใหม่ที่อำเภอกบินทร์บุรีนั้น เพราะมองเห็น ศักยภาพกำลังซื้อในจังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้ว เฉพาะคนในนิคมอุตสาหกรรม มีจำนวนกว่า 70,000 คน พร้อมทั้งกบินทร์บุรียังถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งใหม่ เชื่อมต่อถึงประเทศกัมพูชา รองรับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อีกทั้งเส้นทางยังเชื่อมโยงไปถึงอรัญประเทศ เขตเศรษฐกิจการค้าชายแดน ที่มีเม็ดเงินสะพัดอันดับต้นๆ ของประเทศ เราจึงมองเห็นถึงผู้ประกอบการ สินค้าสำหรับบ้าน และวัสดุก่อสร้างกำลังขยายตัว และมีช่องว่าง โอกาสทางการตลาดอยู่อีกมากในพื้นที่แถบนี้

สำหรับสาขากบินทร์ ใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท พื้นที่รวมกว่า 13,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนตลาดสำเพ็ง ขายอุปกรณ์เครื่องเขียน และกิฟต์ช็อป อุปกรณ์ประกอบอาชีพ โซนตลาดไม้บางโพ ขายสินค้าจำพวกไม้-บานประตู โซนตลาดคลองถม ขายอุปกรณ์และเครื่องมือช่าง และโซนตลาดรัชดา ขายเครื่องใช้ในบ้าน รวมแล้ว มีสินค้านับแสนรายการ โดยมีทั้งขายปลีกและส่ง

ทั้งนี้ ตั้งเป้าสำหรับสาขานี้ ต่อเดือนมียอดขายกว่า 60 ล้านบาท ปีละ 700 ล้านบาท นอกจากนั้น ภายในปีนี้ (2558) จะขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ที่ยืนยันแล้ว คือ ย่านมีนบุรี และอรัญประเทศ และอีก 5 ข้างหน้า ให้ครบ 20 สาขา

@@@ เผยกลยุทธ์เจาะตลาดต้องลงลึก @@@

แม้ว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจโดยรวมค่อนข้างซบเซา แต่สำหรับธุรกิจค้าส่งค้าปลีก เมกาโฮม ที่เปิดตัวมาประมาณ 2 ปีกว่า ยังเติบโตได้ประมาณ 17% สิ่งสำคัญนั้น สุพรศรี ระบุว่า เกิดจากการจับตลาดที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น เพื่อจะมีบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้จริงๆ ควบคู่กับการหาตลาดใหม่ ที่ยังมีศักยภาพ และรอการเติบโต ในอนาคต
มีตั้งแต่สินค้าจิ๋วๆ ไปจนถึงสินค้าขนาดใหญ่เพื่องานก่อสร้าง

“เดิมเวลาเราพูดถึงศูนย์ขายส่งวัสดุก่อสร้าง เราก็จะพูดถึงสินค้าเพื่อบ้านเท่านั้น แต่ตอนนี้ สิ่งที่เราทำอยู่ ต้องเจาะจงลงในรายละเอียด เช่น สินค้าเพื่อบ้านเดียว เพื่อทาวน์เฮาส์ หรือเพื่อคอนโดฯ และพยายามจับไลฟ์สไตล์ให้ถูกต้อง นอกจากนั้น ยังเสริมด้วยเรื่องบริการดี สถานที่สะอาด สะดวก และราคาถูก” สุพรศรี ระบุ

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น