รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แถลงผลงาน บอกใช้กระทรวง-ทูตทหารเชื่อมต่ออาเซียนด้านต่างประเทศ ใช้ 8 กองกำลังคุมชายแดน บอกดูแลความปลอดภัยได้เกือบทุกอย่างยกเว้นปรองดอง มีแต่นักการเมืองต้าน ระบุเห็นใจว่าไม่มีงานทำ อยากให้ทำอะไรยื่นเรื่องมาเลย ส่วนความสงบเน้นป้องกัน ติดตั้งวงจรปิดเพิ่ม โอ่รู้ตัวคนบึ้มสมุยแล้ว จัดระเบียบสังคม แก้ภัยแล้ง จัดสรรที่ดินลดเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสเข้าถึงบริการรัฐ แก้ค้ามนุษย์-ไฟใต้ลด ไล่จับพวกหมิ่นสถาบันฯ
วันนี้ (16 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและรมว.กลาโหม แถลงผลงานของรัฐบาลทางด้านความมั่นคงว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา ทุกเรื่อง หากความมั่นคงดี ทุกอย่างก็จะดีไปด้วย สำหรับความมั่นคงทางด้านต่างประเทศนั้นตนจะดูแลในด้านของทหารโดยใช้กระทรวงกลาโหมไปดำเนินการเชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียน และยังมีการเชื่อมโยงจากด้านการทูตทหารด้วยซึ่งได้ดูแลมาโดยตลอด ส่วนความมั่นคงตามแนวชายแดนนั้น ที่ผ่านมาตนได้ใช้กองกำลังจากทุกเหล่าทัพ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 กองกำลังมาดูแลในเรื่องของแรงงานข้ามชาติ สิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่ใช้กำลังในท้องถิ่นเข้ามาช่วยประสานด้วยเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและทำให้เกิดอธิปไตยตามแนวชายแดน
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยในประเทศโดยเฉพาะการดูแลชีวิตและทรัพย์สินประชาชนนั้น ที่ผ่านมาก็ทำได้เกือบทุกอย่าง ยกเว้นในเรื่องความปรองดองซึ่งก็พยายามเชิญทุกฝ่ายเข้ามาพูดคุยกัน ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลทำ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
“ก็มีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่ออกมาต่อต้าน ผมก็เห็นใจเพราะว่าช่วงนี้ท่านไม่มีอาชีพในการดำเนินการ แต่อยากให้เข้าใจว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้อยากเข้ามา แต่เราเข้ามาเพื่อมาช่วยให้ประเทศเกิดความสงบเรียบร้อย จะเห็นว่าในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาประเทศมีความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความสุข ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์กันจำนวนมาก ถือเป็นความสุขที่รัฐบาลได้มอบให้กับประชาชนทั้งประเทศ ใครมีปัญหาอะไรก็สามารถยื่นเรื่อง หรือร้องเรียนมาได้ โดยเฉพาะนักการเมืองทั้งหลาย ถ้าอยากให้รัฐบาลทำอะไรก็ยื่นเรื่องมาเลย ที่ศูนย์ดำรงธรรมหรือที่รัฐบาลก็ได้ ไม่ใช่ออกมาพูดๆ เพราะมันทำให้เกิดความขัดแย้งและไม่ปรองดอง เวลาตัวเองเป็นรัฐบาลก็ไม่เห็นทำอย่างที่พูด ขอให้ส่งมาเลยตั้งแต่ประชาชนยันหัวหน้าพรรคการเมืองให้ส่งมาเลย” พล.อ.ประวิตรกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยนี้ รัฐบาลจะใช้มาตรการป้องกันมากกว่าการปราบปราม โดยได้ให้นโยบายกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งที่ผ่านมาก็ถือว่าทำงานหนัก ส่วนใน กทม.ก็มีการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มขึ้น และติดตั้งไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความสว่างให้มากขึ้น ทำให้ช่วยลดปัญหาอาชญากรรมได้มาก ก็ต้องขอบคุณทาง กทม. ส่วนในต่างจังหวัดก็ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทยสั่งการไปในพื้นที่เพื่อติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 แสนตัวด้วย หรือแม้แต่การจัดระเบียบต่างๆ ทั้งทางเท้าหรือรถรับจ้าง แม้จะเป็นเรื่องใหม่ แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าเราทำเพื่อลดปัญหาความเลื่อมล้ำในสังคม และเกิดความเป็นระเบียบขึ้นในบ้านเมืองอย่างถาวร
“ที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เช่น เหตุระเบิดที่ศาลอาญาก็สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด หรือเหตุคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เรารู้ตัวผู้ก่อเหตุหมดแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรีบดำเนินการอยู่ เพราะมีขบวนการมากมาย โยงใยกันจากเหนือไปใต้ จากใต้ไปเหนือ มีการวางแผนกันอย่างดี แต่ไม่ใช่กลุ่มขบวนการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ขยายขึ้นมาแน่นอน” รองนายกฯ กล่าว
พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า การจัดระเบียบรถรับจ้างก็เช่นเดียวกันอาจจะใหม่ พอเราเข้าไปดูแลเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย อาจจะไม่สะดวกบ้าง เราพยายามเข้าไปดูแลทุกอย่างเพื่อให้เกิดความพอดีไม่เหลื่อมล้ำ ให้ทุกคนได้ใช้พื้นที่ เรื่องการขายของที่คลองถม เราได้พยายามทำให้ความเป็นระเบียบถาวรในอนาคต ขอให้มั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงจะดูแลทุกอย่างเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย รัฐบาลและคสช.พยายามทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย เกิดความเสมอภาค ไม่มีความเลื่อมล้ำในสังคม
ส่วนปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการส่งน้ำไป 74 จังหวัด ส่งน้ำทั้งหมดประมาณ 3 ล้านล้านลิตร รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงพยายามจะดูแลประชาชนทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ปรองดอง เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องถือว่าทำงานอย่างเต็มที่โดยเฉพาะตำรวจ ตลอดระยะเวลา 5 วันช่วงหยดสงกรานต์เขาไม่ได้หยุดเลยก็ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วย ฝากพวกเราด้วย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย รัฐบาลทำทุกวัน นอกจากนี้ยังดำเนินจัดหาที่ทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้ 1,200 ครอบครัว และจัดสรรที่ของรัฐมากกว่า 1,005,000 แปลงให้แก่เกษตรกรมากกว่า 89,000 ครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและไร้ที่ทำกิน นี่คือผลงานของรัฐบาลเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นความปรารถนา
รองนายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องการสร้างโอกาสให้เข้าถึงบริการของรัฐ เช่น ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย สมาร์ทจ็อบเซ็นเตอร์ในพื้นที่ 7 แห่ง ช่วยเหลือแรงงานไทยได้จำนวนกว่า 2 แสนคน ให้เข้าทำงานได้ไม่น้อยกว่า1.5 แสนคน ส่งแรงงานไปต่างประเทศ 5 หมื่นคน ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา และยังแก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่า เผาป่า ตัดไม้ทำลายป่า ล่าสัตว์ป่า งาช้าง มีการออกกฎหมาย สำหรับปัญหาแรงงานต่างด้าว ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงโดยตรงเพราะไทยถูกประเมินการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ใช้แรงงานเด็ก ที่สหรัฐฯลดจากเทียร์ 2 เป็น เทียร์ 3 รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาแรงงาน พยายามส่งรายงานให้สหรัฐฯ และถือว่าดีขึ้นมาก รัฐบาลไม่ได้อยู่เฉย เราได้ดำเนินการทุกเรื่อง ปัญหา IUU เตรียมให้ใบเหลืองเราก็ดำเนินการแก้ปัญหา ถ้ารัฐบาลเก่าทำไว้ เราคงไม่ต้องมาทำแบบนี้ เราคงไม่โดน IUU เข้ามาชี้แบบนี้ วันนี้เรากำลังแก้ไข จนฟีดแบ็กต่างๆ กำลังดีขึ้น ถ้าเขาให้ใบเหลือง ใบแดง เราจะเสียโอกาสมหาศาล ส่งออกไม่ได้ เราพยายามแก้ไขทุกอย่าง จัดศูนย์บริการแรงงาน จดทะเบียนแรงงานได้กว่า 1.6 ล้านคน และนำไปสู่การพิสูจน์สัญชาติ ส่วนปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหารื้อรังมาตั้งแต่ 2547 นายกฯ ดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.และรมว.มหาดไทยดูแลมารวม 7 ปี ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง เห็นได้ชัดเจนว่าปัญหาลดน้อยลงมาก และเราได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมถึงประชาชนด้วย
รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า ทุกอย่างที่รัฐบาลทำมา 6 เดือน เราได้ทำทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ส่วนเรื่องการเชิดชูสถาบันฯ เราได้ดำเนินมาโดยตลอด โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบันฯ พบว่ามีอยู่ 25,000 ยูอาร์แอล แต่มีการจับกุมไปแล้ว 17,000 ยูอาร์แอล ทั้งนี้เรื่องความมั่นคงที่ดำเนินการมา เราพยายามให้เกิดความปรองดอง ให้เกิดความสงบ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนเป็นหลัก ที่สำคัญต้องการให้ประชาชนรากหญ้าที่ยากจนสามารถอยู่ได้ รัฐบาลนี้ทำมาทุกอย่างไม่ว่าในเรื่องน้ำ เศรษฐกิจ ทุกเรื่อง เราจะทำให้ประเทศนี้เกิดความสงบและปรองดองให้ได้ เพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนตลอดไป